
โลกของเรามีนัดกันทุก 5 ปี ที่ประเทศต่าง ๆ จะเอาของเด็ดของดีของตัวเองมาอวด
ยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีทะยานไปข้างหน้า ช่วงเวลา 5 ปีจึงอาจหมายถึงการก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ รวมถึงการค้นพบแนวคิดหรือนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนบางกลุ่ม หรือคนทั่วโลกไปเลยก็ได้
ภายใต้ชื่องาน ‘World Expo’ นี่คือนิทรรศการใหญ่ที่รวบรวมสิ่งน่าสนใจทั้งในแง่วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และแนวคิดทางสังคม ซึ่งแต่ละประเทศพัฒนาขึ้นในห้วงเวลา 5 ปี แล้วมาจัดแสดงให้โลกได้เห็นอย่างสง่าผ่าเผย
และในปี 2025 ก็เป็นคิวของประเทศยักษ์ใหญ่ในเอเชียอย่าง ‘ญี่ปุ่น’ ที่ได้รับโอกาสให้เป็นเจ้าภาพอีกครั้ง หลังจากเคยรับหน้าที่นี้มาก่อนในปี 1970 และปี 2005 โดยได้หวนคืนสู่เมืองที่เคยจัด Expo ’70 อีกครั้งอย่าง ‘โอซาก้า’
Expo 2025 ครั้งนี้ จัดในธีม ‘Designing Future Society for Our Life’ ซึ่งหมายถึง ‘การออกแบบสังคมแห่งอนาคต เพื่อการใช้ชีวิตร่วมกันของเรา’ งานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ส่วนใหญ่จึงไม่ได้เน้นไปแค่ที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยทำให้ความเป็นอยู่และชีวิตในอนาคตของมนุษยชาติดีขึ้น
ใครกำลังวางแผนทริปฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นปีนี้ อย่าลืมไปชมไฮไลต์เหล่านี้ให้ครบ ก่อนงานจะสิ้นสุดลงในวันที่ 13 ตุลาคม 2568

Grand Ring โครงสร้างไม้ใหญ่ที่สุดในโลกจากภูมิปัญญาญี่ปุ่น
ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีวิศวกรรมการก่อสร้างปัจจุบันพยายามคิดค้นวัสดุสังเคราะห์เพื่อค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ของการสร้างอาคารในอนาคต ในงาน Expo 2025 ญี่ปุ่นกลับเซอร์ไพรส์ผู้คนทั่วโลกด้วยอาคารที่สร้างจากไม้หลังหนึ่ง
โครงสร้างไม้รูปวงกลมขนาดยักษ์ที่มีเส้นรอบวงยาวกว่า 2 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ภายในงานและเชื่อมพาวิเลียนหรือศาลาของประเทศต่าง ๆ เข้าด้วยกันนี้มีชื่อว่า ‘Grand Ring’ เป็นผลงานการออกแบบของ โซ ฟูจิโมโตะ (Sou Fujimoto) สถาปนิกคนดังของญี่ปุ่น
นอกจากได้รับการบันทึกว่าเป็นโครงสร้างไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว อาคารไม้หลังนี้ยังเน้นที่การผสมผสานเทคโนโลยีการก่อสร้างกับภูมิปัญญาด้านงานไม้เข้าด้วยกัน ตัวอาคารใช้ไม้ชิ้นเล็ก ๆ มาประกอบเข้ากันด้วยวิธี Nuki joints ซึ่งเป็นการเข้าไม้แบบโบราณที่ใช้สร้างวัดเก่าในญี่ปุ่น
ข้อดีของโครงสร้างลักษณะนี้คือไม่ต้องตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ สามารถใช้ไม้ต้นเล็กที่ปลูกทดแทนได้ง่าย แต่ได้โครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน สามารถรับมือกับแผ่นดินไหว และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนถึงแนวคิดการสร้างที่อยู่อาศัยในอนาคต ที่ต้องทั้งรับมือกับภัยพิบัติได้ แต่ต้องทำให้มนุษย์และสิ่งแวดล้อมสามารถอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนให้ได้ด้วย
Grand Ring ยังทำหน้าที่แสดงสัญลักษณ์ของแนวคิด ‘Unity in Diversity’ หรือการร่วมมือกันเป็นเอกภาพของผู้คนทั่วโลกจากหลากหลายที่มาเข้าร่วมในงานนี้ แสดงถึงความหวังในการร่วมมือกันของมนุษยชาติเพื่อสร้างอนาคตอันยั่งยืนไปด้วยกัน

RoboCake หุ่นยนต์ที่กินได้หมดเกลี้ยงทั้งตัวและแบตเตอรี
ไฮไลต์ด้านเทคโนโลยีที่โลกทุกวันนี้กำลังจับตามอง ก็คือการพัฒนาหุ่นยนต์ที่ช่วยทุ่นแรง และทำให้ชีวิตของมนุษย์สะดวกสบายยิ่งขึ้น และหุ่นยนต์ตัวที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากและแทบจะขโมยซีนหุ่นยนต์ตัวอื่นทุกตัวที่มาเปิดตัวในงานนี้ ก็คือเจ้า ‘RoboCake’ จากสวิสพาวิเลียน ซึ่งเป็นหุ่นยนต์กินได้ตัวแรกของโลก!
RoboCake มีรูปร่างหน้าตาเป็นเยลลี่หมีเจลาตินสีแดงสดใส ที่สามารถเคลื่อนไหวได้ โดยใช้เทคนิคฝังระบบลมไว้ภายใน เมื่อฉีดอากาศเข้าไปเจ้าหมีก็จะขยับได้เหมือนมีชีวิต ในขณะที่รอบ ๆ เค้กยังประดับไปด้วยเทียน LED ที่มีแบตเตอรี่ชาร์จไฟแบบกินได้ ซึ่งทำจากวิตามินบี 2 และเควอซิติน ทำให้ทุกส่วนของเค้กก้อนนี้สามารถกินได้ทั้งหมดไม่มีอะไรเหลือทิ้ง
โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งในโปรเจกต์งานวิจัยของ ‘RoboFood’ ที่มุ่งเน้นหาความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการนำอาหารมาทำเป็นเครื่องมือทางเทคโนโลยี อย่างเจ้า RoboCake ตัวนี้ถูกคิดค้นขึ้นภายใต้แนวคิดที่นักวิจัยอยากจะลดขยะจากอาหาร แทนที่จะประดับประดาด้วยสิ่งที่ต้องกลายไปเป็นขยะ ก็ทำให้องค์ประกอบทุกอย่างกินได้ไปซะเลย
นอกจากหุ่นยนต์กินได้ ในงานยังมีหุ่นยนต์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีกไม่น้อย อาทิ หุ่นยนต์พ่อครัวทาโกะยากิ หุ่นยนต์พ่อบ้านที่อ่านความต้องการจากท่าทางของเราได้ ไปจนถึง Corleo หุ่นยนต์ขับเคลื่อน 4 ขาจากบริษัท Kawasaki ที่หน้าตาเหมือนสัตว์ แต่ควบขี่ได้จริงแบบยานพาหนะ ซึ่งแม้ตอนนี้จะยังเป็นแค่คอนเซปต์ แต่หากสร้างขึ้นมาได้จริงในอนาคตก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย

Advanced Air Mobility ฝ่าทุกวิกฤตจราจรด้วยรถบินได้
ลองนึกภาพว่าวันหนึ่งหากเราจำเป็นต้องไปประชุมด่วนที่บริษัทลูกค้าในอีกฟากเมือง หรือคนในบ้านเกิดไม่สบายฉุกเฉิน แต่ตอนนั้นดันเป็นชั่วโมงเร่งด่วนที่รถบนถนนแทบไม่ขยับ คุณจะทำอย่างไร
เพื่อยกระดับความสะดวกสบายด้านการเดินทาง ตลอดจนช่วยแก้ปัญหาวิกฤตในชั่วโมงเร่งด่วน บริษัทเทคโนโลยีด้านการเดินทางหลายเจ้าจึงได้หันมาสนใจพัฒนายานพาหนะรูปแบบใหม่ที่สามารถเดินทางบนอากาศได้กันมากขึ้น
ภายในงาน World Expo ครั้งนี้ เจ้าภาพได้เชิญบริษัทผู้พัฒนาจากทั่วโลก อาทิ Lift Aircraft, SkyDrive, Joby Aviation และอีกหลายปริษัท มาจัดแสดงสาธิตการทำงานของโมเดลรถบินได้ที่แต่ละบริษัทกำลังพัฒนา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม
หนึ่งในรถบินได้ที่ได้รับความสนใจไม่น้อยนั้นคือ SD-05 จากบริษัท SkyDrive ซึ่งเป็นยานยนต์ขนาดเล็กบรรจุได้ 3 ที่นั่ง สามารถบินได้ไกล 15–40 กิโลเมตร เหมาะจะใช้เดินทางภายในเมืองเล็ก ๆ ที่การจราจรแน่นขนัด โดยทางบริษัทผู้พัฒนาคาดหวังว่าในปี 2031 ตัวรถบินได้นี้จะสามารถขับเคลื่อนได้อัตโนมัติแม้ไร้คนขับ เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับบรรจุผู้โดยสารให้มากขึ้น
วันหนึ่งในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราอาจไม่ต้องเผชิญรถติดทุกเช้าวันจันทร์และเย็นวันศุกร์อีกต่อไปแล้วก็ได้ เพราะมีแท็กซี่บินได้ให้เราเรียกไป–กลับบ้านได้แล้ว

Meat Tech เครื่องพิมพ์เนื้อลายหินอ่อนเพื่อคนหิวดึก
พูดถึงเนื้อวัวนุ่ม ๆ เกรดพรีเมียม ใครก็ต้องนึกเนื้อของญี่ปุ่น เพราะเป็นหนึ่งในเช็กลิสต์ระดับท็อปสำหรับคนรักเนื้อย่าง จึงไม่น่าแปลกใจที่งานนี้จะมีการนำเทคโนโลยีเกี่ยวกับเนื้อวัวเข้ามาร่วมจัดแสดงด้วย
นอกจากงานจัดแสดงถาวรตามพาวิเลียนต่าง ๆ แล้ว ภายใน World Expo ครั้งนี้ยังมีนิทรรศการพิเศษที่น่าสนใจมากมายหมุนเวียนสับเปลี่ยนมาจัดแสดงด้วย โดยหนึ่งในนั้นคือเครื่องพิมพ์เนื้อ 3D สำหรับใช้ในบ้าน
ในแวดวงเทคโนโลยีทั่วโลก เครื่องพิมพ์เนื้อ 3D อาจนับว่าไม่ใช่เรื่องใหม่นัก แต่ถ้าพูดถึงเครื่องพิมพ์เนื้อที่เราสามารถปรับแต่งคุณสมบัติของเนื้อให้เหมาะกับความชอบของแต่ละคนเพื่อใช้ในครัวเรือนแล้ว กล่าวได้ว่านี่คือครั้งแรกของโลก
การทำงานของเจ้าเครื่องพิมพ์เนื้อนี้ จะเริ่มจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อขึ้นมาจากเซลล์ของสัตว์ โดยเราสามารถเลือกปรับแต่งขนาด ความหนา ปริมาณไขมัน โปรตีน และองค์ประกอบต่าง ๆ ได้ ก่อนจะพิมพ์ออกมาแล้วนำไปประกอบอาหาร
เสียงส่วนใหญ่ของผู้ที่ได้ลองชิมเนื้อจากเครื่องพิมพ์นี้ค่อนข้างเป็นไปในเชิงบวก โดยบอกว่ามีรสสัมผัสคล้ายเนื้อจริง ๆ ในขณะที่บางส่วนบอกว่ายังน่าจะต้องปรับปรุงเรื่องรสชาติอีกมากหากจะนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร
หากโครงการพัฒนาเครื่องพิมพ์เนื้อสำหรับใช้ในครัวเรือนนี้ ประสบความสำเร็จจริงนอกจากจะช่วยลดมลภาวะที่เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมจากการทำปศุสัตว์แล้ว จะช่วยให้เราสามารถออกแบบและควบคุมโภชนาการสำหรับคนในบ้านได้ด้วย และที่สำคัญ ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน เราก็สามารถกินเนื้อย่างได้โดยไม่ต้องห่วงเรื่องวัตถุดิบ ดังนั้น สำหรับสายเนื้อเลิฟเวอร์ นี่แหละ คือเทคโนโลยีที่ควรค่าแก่การตั้งตารอ!
ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น เพราะในงาน World Expo 2025 ยังอัดแน่นไปด้วยพาวิเลียนสุดล้ำและเทคโนโลยีน่าทึ่งอีกมากจนเดินชมกันทั้งวันก็ยังไม่ครบ! ใครที่อยากพาครอบครัวหรือเด็ก ๆ ไปเปิดโลกกว้าง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ทางการของ Expo 2025
สร้างสรรค์โดย Jaruwan C. และ TK Park
อ้างอิง [1], [2], [3], [4], [5], [6], [7], [8], [9], [10]