คุณอาจเป็นแฟนหนังสือคนโปรดของ ‘ฮารูกิ มูราคามิ’ คุณอาจอ่าน Norwegian Wood มาแล้วเป็นรอบที่เจ็ด นั่งซึมอยู่สักพักก่อนจะหยิบ Kafka on the Shore มาอ่านเป็นรอบที่แปด แต่ถึงแบบนั้นคุณก็ยังรู้สึกว่าไม่อาจเข้าถึงจิตใจของนักเขียนผู้หยิบความเหงาในจิตใจมนุษย์มาตีแผ่คนนี้ได้เลย
ถ้าหากคุณรัก คุณย่อมอยากใกล้ชิดเขามากขึ้นอีกนิด ทำความรู้จักและทำความเข้าใจเขามากขึ้นอีกสักหน่อย
สำหรับคุณ, ผู้เป็นรักแท้จริงของฮารูกิ มูราคามิ สิ่งที่เรากำลังจะเล่าให้คุณฟังต่อไปนี้คือ 20 เรื่องไม่ลับ…แต่คุณอาจไม่รู้ ที่จะทำให้คุณรู้จักกับนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคคนนี้ได้มากขึ้น ได้เข้าใจถึงความชอบและรสนิยมที่กลายมาเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับบอกเล่าเรื่องราวอันแสนอัศจรรย์เหล่านี้ มันอาจทำให้คุณอ่านหนังสือได้สนุกขึ้นอีกหน่อย เหมือนเครื่องเคียงรสเลิศสำหรับอาหารจานหลัก หรืออาจจะเปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิงเลยก็เป็นได้ แต่ถ้าคุณชอบงานของใครสักคนอย่างแท้จริงแล้ว เชื่อเถอะว่าการได้ใกล้ชิดกับโลกของเขามากขึ้นอีกสักหน่อยต้องไม่ใช่เรื่องที่เสียเปล่าอย่างแน่นอน
1.ชายผู้หลงรักในเพลงแจ๊ส
ด้วยรายชื่อเพลงแจ๊สมากมายที่ปรากฎบนงานของเขา คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าฮารูกิ มูราคามิ คือมนุษย์ผู้คลั่งไคล้เพลแจ๊สผู้หนึ่ง เขาเคยทำงานที่แรกในร้านแผ่นเสียง เช่นเดียวกับ โทรุ วาตานาเบะ ตัวละครในหนังสือเรื่อง Norwegian Wood เขายังคงเป็นเจ้าของแผ่นเสียงกว่า 6,000 แผ่น และมีเมืองที่โปรดปรานคือ บอสตัน ในรัฐแมสซาชูเซตส์ เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร้านแผ่นเสียงมือสองนั่นเอง
2. ชายผู้ไม่มีวันวิจารณ์หนังสือ
คุณจะไม่มีทางพบข้อความของฮารูกิ มูราคามิ บนปกแน่นอน นั่นเพราะนักเขียนผู้นี้มองว่างานของเขาคือการเฝ้ามองโลกและผู้คน ไม่ใช่การตัดสินหรือวิจารณ์ เขาแค่อยากเปิดพื้นที่ให้กับทุกความเป็นไปได้ในโลกใบนี้ มูราคามิมองว่าโลกนี้ควรมีนักวิจารณ์ แค่นั่นไม่ใช่งานของเขา
3. ชายผู้ใช้ชีวิตอย่างเข้มงวด
ฮารูกิ มูราคามิเป็นคนที่มีวินัยมาก กิจวัตรประจำวันของเขาถูกจัดไว้อย่างเเป็นระเบียบ เข้มข้น แทบจะเรียกได้ว่าเข้มงวดกับชีวิต เขาตื่นนอนตอนตีสี่ ทำงานต่อราวห้าถึงหกชั่วโมง ก่อนจะวิ่งสิบกิโลเมตร หรือว่ายน้ำอีกราว 1,500 เมตร อ่านหนังสือสักหน่อย ฟังเพลงสักนิด ทานข้าว แล้วเข้านอนตอนสามทุ่ม เป็นความซ้ำซากจำเจที่เหมือนกับการสะกดจิตตัวเองให้เข้าถึงสภาวะจิตใจขั้นที่ลึกที่สุด เพราะเขามองว่าการเขียนนิยายเรื่องหนึ่งก็เหมือนการฝึกเอาชีวิตรอด มันต้องใช้ความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจพอๆ กับเซนส์ทางศิลปะ
4. ชายผู้หลงรักในภาพยนตร์
แน่นอนว่ามีแต่คนผู้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตด้วยตัวเองและเสพเรื่องราวผ่านสื่อต่างๆ เป็นจำนวนมากเท่านั้นที่จะมีวัตถุดิบเพียงพอสร้างสรรค์งานได้อย่างไม่มีวันหมด หนึ่งในงานอดิเรกที่ฮารูกิ มูราคามิ หลงใหลมากคือการดูภาพยนตร์ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีในมหาวิทยาลัย เขาดูภาพยนตร์ไปทั้งหมด 200 เรื่อง
5. ชายผู้ชื่นชอบแกงกะหรี่
ฮารูกิ มูราคามิถูกปากกับอาหารประเทศตัวเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนเขาก็มักจะเลือกแวะเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นเสมอๆ แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วเขายังชื่นชอบอาหารอินเดียด้วย โดยเฉพาะตอนที่อยู่บอสตัน แน่นอนว่าจานโปรดที่เขาชอบย่อมต้องเป็นแกงกะหรี่
6. ชายผู้เป็นทาสแมว
จะมีสัตว์เลี้ยงชนิดไหนที่สะท้อนภาพลักษณ์ของคนเหงาในยุคนี้ได้ดีไปกว่าเจ้าเหมียวสี่ขาหน้าขนที่ชอบทำตัวสันโดษ ในบทความที่เขียนไว้ในปี 1989 ฮารูกิ มูราคามิเลี้ยงแมวมากกว่าสิบตัวในช่วงเวลาหลายปี และหนึ่งในนั้นก็มีนายท่านที่ชื่อว่า คิริน ที่เขาได้มาจากเพื่อนนักเขียนคนโปรดด้วย
7. ชายผู้เป็นเจ้าแห่งการเขียนฉบับร่าง
ในการเขียนนิยายแต่ละเล่มฮารูกิ มูราคามิ มักจะเขียนฉบับร่างของนิยายไว้มากถึงสี่หรือห้าฉบับ ใช้เวลาหกเดือนแรกไปกับการร่างงานร่างแรก และใช้อีกเจ็ดหรือแปดเดือนหลังไปกับการแก้ไข
8. ชายผู้เติบโตมากับหนังสือภาษาอังกฤษ
สมัยอาศัยอยู่ที่โกเบ ด้วยความที่เป็นเมืองท่า มักจะมีเรือชาวต่างชาติมาจอดเทียบนำสินค้าขึ้นลงท่าอยู่เนืองๆ นอกจากสินค้าสำคัญแล้วก็ยังมีหนังสือภาษาอังกฤษมือสอง ฮารูกิ มูราคามิก็อาศัยเรียนและอ่านเรื่องราวสนุกๆ จากหนังสือภาษาอังกฤษเหล่านี้ โดยหนังสือภาษาอังกฤษเล่มแรกที่เขาได้อ่านเป็นตอนที่เขาอยู่ในช่วงมัธยมฯ The Name Is Archer โดย รอสส์ แมคโดนัลด์
9. ชายผู้ตระหนักว่าอยากเป็นนักเขียนตอนดูเบสบอล
อันที่จริงจะบอกว่าการดูเบสบอลมีส่วนช่วยให้เขาอยากเป็นนักเขียนก็คงไม่ถูกนัก คงเป็นแค่ช่วงเวลาที่ทำให้เขาตระหนักรู้ถึงตัวเองมากกว่า ตอนที่ เดฟ ฮิลตัน นักกีฬาเบสบอลลงมาหวดลูกในเกมระหว่าง Yakult Swallows และ Hiroshima Carp จู่ๆ ฮารูกิ มูราคามิ ก็รู้สึกว่าเขาสามารถเขียนหนังสือได้ ในคืนนั้นเขากลับบ้านไปและเริ่มต้นเขียน Hear The Wind Sing และใช้เวลาหลายเดือนช่วงเลิกงานจากบาร์แจ๊สที่เขาเป็นเจ้าของสานต่อหนังสือเล่มนี้จนเสร็จ
10. ชายผู้ไม่รู้ว่าตัวเองมีเงินอยู่เท่าไหร่
จากบทสัมภาษณ์ใน The Guardian ฮารูกิ มูราคามิบอกว่าตัวเองไม่รู้ว่ามีเงินอยู่เท่าไหร่ ไม่รู้ว่าในแต่ละปีสามารถหาเงินได้จากงานเขียนมากแค่ไหน ไม่รู้ว่าจ่ายภาษีไปเท่าไหร่แล้ว เขาไม่สนใจเรื่องนั้น ข้อดีของการมีเงินมากคือคุณไม่จำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องเงิน และสิ่งที่ดีที่สุดที่เงินสามารถซื้อได้คือเวลาและความเป็นอิสระ
11.ชายผู้ฟังเพลงร็อก
ระหว่างวิ่งแม้ว่าฮารูกิ มูราคามิจะหลงใหลในเพลงแจ๊ส แต่ยามที่เขาออกวิ่งในเพลย์ลิสต์ของเขาจะเต็มไปด้วยเพลงร็อค เพราะเขารู้สึกว่าทำให้จังหวะการวิ่งดีขึ้น Creedence Clearwater Revival, John Mellencamp และ The Beach Boys คือนักร้องคนโปรดที่เขาฟังระหว่างวิ่งอัลตร้ามาราธอน 100 กิโลเมตร เขาเคยเปลี่ยนมาฟังโอเปร่าอยู่หนหนึ่งก่อนจะพบว่ามันไม่เหมาะกับการวิ่งเอาเสียเลย
12. ชายผู้ไม่รู้ตอนจบของหนังสือตัวเอง
ในการให้สัมภาษณ์กับ Paris Review เกี่ยวกับนิยายสืบสวนสอบสวนของเขาครั้งหนึ่ง ฮารูกิ มูราคามิบอกว่าเขาที่เป็นผู้เขียนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป และบทสรุปจะเป็นอย่างไร เขาเขียนหนังสือเพราะอยากหาคำตอบ หากรู้บทสรุปก่อนก็เปล่าประโยชน์ที่จะเขียนหนังสือเรื่องนี้ หรืออีกนัยหนึ่งคือเขากำลังจะบอกว่าแม้จะมีโครงเรื่องอยู่แล้วแต่เรื่องราวภายใต้ปากกาของเขาก็สามารถดำเนินไปอย่างอิสระภายใต้การเคลื่อนไหวของตัวละคร
13.ชายผู้เขียนหนังสือเล่มแรกบนโต๊ะในห้องครัว
นอกจากเขียงแล้วก็คงมีเพียงนิยายเล่มนี้ที่ได้ใช้เวลาอยู่บนนั้นนานถึง 10 เดือน
14. ชายผู้มีภรรยาเป็นนักอ่านคนแรก
แม้ตัวละครในหนังสือของเขามักจะประสบกับความเหงาและโศกนาฎกรรมความรักเป็นส่วนใหญ่ แต่ในชีวิตจริงฮารูกิ มูราคามิกลับโชคดีมาก เพราะเขามีเพื่อนคู่คิดที่คอยดูแลชีวิตเขาในหลายๆ ด้าน โยโกะ ภรรยาของเขานอกจากจะเป็นคนรู้ใจแล้วยังเป็นคนแรกที่ได้อ่านหนังสือทุกเล่มของเขาอีกด้วย
15. ชายผู้ถอยห่างจากวรรณกรรมญี่ปุ่น
พ่อของฮารูกิ มูราคามิเป็นอาจารย์สอนด้านวรรณกรรมญี่ปุ่นที่โรงเรียนมัธยมฯ อาจจะด้วยเหตุนี้ที่ทำให้เขาเว้นระยะจากวรรณกรรมญี่ปุ่นก้าวใหญ่ เขาเสพงานจากนักเขียนชาวยุโรปช่วงศตวรรษที่ 19 มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Balzac, Chekhov, Dostoevsky หรือ Dickens แต่สำหรับวรรณกรรมญี่ปุ่นแล้วเขาไม่คิดจะแตะเลย เพราะถ้าเขาได้อ่านมันเมื่อไหร่ก็คงมีหัวข้อให้ได้คุยกับผู้เป็นพ่อ ซึ่งเขาไม่ต้องการเช่นนั้น
16. ชายผู้คิดว่าการเขียนหนังสือก็เหมือนการสร้างวิดีโอเกม
เขาคิดว่าการออกแบบวิดีโอเกมนั้นน่ามหัศจรรย์ไม่แพ้การเขียนหนังสือเลย บางครั้งในขณะที่กำลังเขียนอยู่เขาก็รู้สึกเหมือนตัวเป็นเป็นนักออกแบบที่กำลังออกแบบเกมอยู่
17. ชายผู้มีนักแปลสามคน
หนึ่งในเสน่ห์หนังสือของฮารูกิ มูราคามิ คือการเลือกใช้ภาษาที่พาคนอ่านดำดิ่งลงไปในบรรยากาศที่เขาสร้างขึ้น ในการเผยแพร่ผลงานของเขาออกไปเป็นภาษาอื่น นักแปลจึงมีความสำคัญในการช่วยถ่ายทอดถ้อยคำที่คงอารมณ์ความรู้สึกของเจ้าของผลงานอย่างยิ่งยวด ฮารูกิ มูราคามิมีนักแปลคู่บุญอยู่ด้วยกันทั้งหมดสามคนคือ อัลเฟรด เบิร์นบัม, ฟิลลิป กาเบรียล และเจย์ รูบิน ซึ่งทั้งสามคนนี้ก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมทำให้ชื่อของฮารูกิ มูราคามิเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกตะวันตก
18. ชายผู้มีตัวอักษรอยู่ในเพลงคลาสสิก
ในอัลบั้ม Songs from Before ของ แมกซ์ ริทเตอร์ นักประพันธ์เพลงชาวอังกฤษ มีท่อนที่ โรเบิร์ต ไวแอทอ่านข้อความจากหนังสือของฮารูกิ มูราคามิ โดยเพลงที่เป็นที่น่าจดจำมากที่สุดคือ Flowers For Yulia ใครอยากสัมผัสถึงรสชาติของนักเขียนคนโปรดในเพลงคลาสสิคลองกดไปฟังได้เลย คลิก
19. ชายผู้เขียนบทสัมภาษณ์โศกนาฎกรรม
สำหรับแฟนนิยายหลายคนอาจยังไม่รู้ว่านอกจากผลงานนิยายที่สร้างชื่อแล้ว ฮารูกิ มูราคามิยังเคยเขียนงานแนว Non-Fiction ด้วย โดยหนังสือเล่มแรกของเขาเป็นหนังสือบทสัมภาษณ์เหยื่อจากเหตุการณ์การโจมตีระบบรถไฟใต้ดินของกรุงโตเกียวด้วยแก๊สซารินในปี 1995 โดยหนังสือเล่มนี้มีชื่อเรื่องว่า Underground (1998)
20. ชายผู้ชื่นชอบ The Matrix
ปิดท้ายด้วยเกร็ดน่าสนใจเกี่ยวกับรสนิยมทางภาพยนตร์ของเขาที่อาจทำให้คุณประหลาดใจอยู่เล็กน้อย ผู้กำกับที่ฮารูกิ มูราคามิชื่นชอบคือ อากิ เคาริสมากิ นักเขียนบทและผู้กำกับชื่อดังชาวฟินแลนด์ เจ้าของผลงานระดับรางวัลอย่าง Drifting Clouds (1996), The Man Without a Past (2002), และ The Other Side of Hope (2017) เขาไม่ชอบภาพยนตร์แนวอนิเมชั่นและการ์ตูนทั้งหลาย ส่วนภาพยนตร์เรื่องโปรดน่ะเหรอ.. ไม่ใช่หนังรักสุดเศร้าหรือหนังชีวิตเหงาๆ ที่ไหนหรอก แต่เป็นภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟพล็อตล้ำอนาคตอย่าง The Matrix ต่างหาก
ที่มา: https://www.shortlist.com/news/20-things-you-probably-didnt-know-about-haruki-murakami
เครดิตรูปภาพ
https://www.dek-d.com/writer/41050/
https://www.cityspidey.com/news/16241/haruki-murakami-5-essential-and-must-read-books
https://mainichi.jp/english/articles/20220517/p2a/00m/0et/022000c
https://lithub.com/haruki-murakami-hosted-a-bossa-nova-jam-over-the-weekend-and-you-can-watch-it-online-now/