เคล็ดลับแจ้งเกิดในโลกออนไลน์
3 คนดังแห่งโลกอินเทอร์เน็ต กับ “เคล็ดลับแจ้งเกิดในโลกออนไลน์”
ในยุคของเทคโนโลยีที่ได้นำเราก้าวสู่สังคมดิจิตอล ความจริงประจักษ์อย่างหนึ่งที่เราเห็นก็คือ มี ‘ใครบางคน’ กลายเป็น ‘ใครคนนั้น’ ที่ผู้คนในโลกออนไลน์รู้จัก และให้การยอมรับอย่างท่วมท้น จนยืนหยัดและได้ชื่อว่า ‘แจ้งเกิด’ ในโลกออนไลน์ได้อย่างสง่างาม และเมื่อวันเสาร์ที่ 31 ม.ค. 58 ที่ผ่านมา 3 บุคคลผู้ที่ได้ชื่อว่าแจ้งเกิดในโลกออนไลน์อย่างเต็มตัว “แชมป์ - ทีปกร วุฒิพิทยามงคล”, “ณัฐ หมาจ๋า” และ “Dr.Pop” ก็ได้มาร่วมพูดคุยบนเวที “TK แจ้งเกิด กล้าฝัน” ณ อุทยานการเรียนรู้ TK Park เราจึงไม่พลาดที่จะนำแง่คิดดีๆ ของพวกเขามาฝากเพื่อจุดประกายไฟฝันของทุกคนให้กล้าเดินตามเส้นทางของตัวเองไปพร้อมๆ กัน
จุดเริ่มต้น...จุดประกายความฝัน
โลกออนไลน์มีพื้นที่ให้เราทุกคนเท่าๆ กัน อยู่ที่ว่าใครจะมองเห็นโอกาส และจัดสรรพื้นที่ของตัวเองได้ดีกว่า ซึ่งหมายถึงเสียงสนับสนุนและการติดตามของคนอื่นๆ ในโลกเสมือนใบนี้ที่จะตามมาด้วย สำหรับ ‘ณัฐ’ เจ้าของเพจ ‘หมาจ๋า’ ที่นำเสนอการ์ตูนน่ารักๆ ผ่านลายเส้นแสนเรียบง่าย บวกกับเนื้อหาเกี่ยวกับน้องหมาจอมแสบ ก็ถูกใจคนรักสุนัขจนมียอดไลค์กว่า 350,000 ไลค์ ซึ่งเป็นเครื่องพิสูจน์การแจ้งเกิดของเพจนี้ได้เป็นอย่างดี สำหรับที่มาของเพจหมาจ๋า นั้น ณัฐได้เล่าไว้ว่า
“เราได้รู้ข่าวเกี่ยวกับน้องหมาเยอะขึ้นจากการเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก เริ่มเห็นปัญหาสังคม ว่าหมาถูกตี ถูกทำร้าย มีหมาที่ถูกลักพาไปขายชายแดน แล้วเราเป็นคนรักหมามาก ก็เลยคิดว่าเปิดเพจขึ้นมาดีกว่า ใช้ชื่อว่า ‘หมาจ๋า’ แล้วก็วาดรูปลายเส้นง่ายๆ ตามสไตล์เรา ซึ่งในเพจก็จะเป็นการแชร์ประสบการณ์ของเรากับหมาว่ามีเรื่องราวอะไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดเกิดมาจากความบังเอิญทั้งสิ้น”
จากการติดตามข่าวของสุนัข บวกกับความรักที่เธอมีต่อเจ้าตูบสี่ขานี่เอง ที่ทำให้เพจการ์ตูนแสนน่ารักได้เริ่มต้นขึ้น แต่สำหรับนักเขียนหนุ่ม เจ้าของนามปากกา ‘Dr.Pop’ ผู้เขียนนิยายแฟนตาซีจนโด่งดัง จนปัจจุบันได้กลายมาเป็นนักพูดซึ่งจัดทอล์กโชว์เสริมสร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆ คนนั้น จุดเริ่มต้นของเขาคนนี้ก็เป็นการ ‘แจ้งเกิด’ ในเวทีโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน เพราะสิบกว่าปีที่แล้วนิยายของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่เขียนขึ้นจากจินตนาการของตัวเอง ก็ได้ถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์ Dek-d.com จนมีแฟนคลับมากมายคอยตามอ่านนิยายของเขา ก่อนจะได้ตีพิมพ์เป็นรูปเล่มในที่สุด และทำให้หลายๆ คน ต่างยกให้เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ปลุกกระแสการอ่านและเขียนนิยายให้เด็กไทยจนฟีเวอร์อย่างทุกวันนี้
“ตอนนั้นเป็นช่วงอายุ 14 ปี เพื่อนผู้ชายเราก็เริ่มหล่อ เริ่มมีสาวกรี๊ดกร๊าด เริ่มมีคนเล่นบอลเป็น เป็นนักกีต้าร์ นักดนตรี แต่ผมไม่เป็นอะไรเลย เลยมาคิดว่ามันถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะมาค้นหาตัวตนของตัวเอง จนวันหนึ่งมีคนมาพูดกับผมว่าผมเป็นคนเพ้อเจ้อ คำๆ นี้มันจุดประกายผมเลย แต่จะเอาความเพ้อเจ้อมาใช้ประโยชน์อย่างไร ผมก็กลับมาคุยกับตัวเอง กลับไปอ่านหนังสือเยอะขึ้น อ่านเป็นร้อยๆ เล่มเลย จนไปเจอ 'แฮร์รี่ พ็อตเตอร์' ซึ่งอ่านแล้วผมเกิดเรื่องบันดาลใจในการเขียนนิยายของตัวเองขึ้นมา ผมเลยเขียนนิยายเรื่องแรกในชีวิตเรื่อง 'เดอะไวท์โร้ด' เขียนให้เพื่อนอ่านเพื่อนก็ชอบ หลังจากนั้นเราก็เอาไปลงในเว็บไซต์เด็กดี ในที่สุดก็ขึ้นติดอันดับของเว็บไซต์ แล้วสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมมิคมาเห็นก็เลยได้ตีพิมพ์หนังสือของตัวเองเป็นเล่มครั้งแรก” Dr.Pop เล่าย้อนจุดเริ่มต้นของตัวเอง ในวันที่เขาเพิ่งจะเริ่มรู้จักตัวตนและการเขียนที่ตนเองรัก ก่อนที่จะเริ่มต้นเส้นทางของตนเองบนโลกออนไลน์ซึ่งสุดท้ายได้ทอดยาวมาถึงวันนี้
แน่นอนอีกหนึ่งคนที่เหลืออย่าง ‘แชมป์ - ทีปกร วุฒิพิทยามงคล’ ก็เป็นผู้ที่แจ้งเกิดตนเองอย่างเต็มตัวจากโลกออนไลน์ โดยเขาเป็นผู้สร้างพื้นโลกออนไลน์สไตล์ใหม่ ที่ให้คนมาเขียนเรื่องราวและแชร์ความรู้สึก ความคิดของตนเองให้ผู้อื่นได้รับรู้ในพื้นที่ที่เรียกว่า บล็อก’ ก่อนที่ต่อมา exteen.com จะกลายเป็นบล็อกยอดนิยมของคนไทย และไม่เพียงทำให้แชมป์เป็นที่รู้จัก แต่มีศิลปิน นักเขียน และคนทำงานศิลปะอีกหลายๆ คนก็ได้แจ้งเกิดจากสิ่งที่เขาเริ่มต้นเอาไว้อีกด้วย
“ผมเป็นคนที่ชอบวาดรูปชอบเขียนหนังสือมาตั้งแต่เด็ก ตอนนั้นผมก็วาดใส่กระดาษในสมุดฉีก จนพ่อซื้อคอมพิวเตอร์ให้ พอได้มาก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันดี ผมวาดรูปได้เร็วขึ้น พอมีอินเทอร์เน็ตก็รู้สึกว่าอยากมีเว็บไซต์ที่ให้คนมาร่วมแชร์ประสบการณ์อะไรต่างๆ ตอนนั้นก็มีเว็บไดอารี่ หลายๆ คนก็เริ่มหันมาเขียนออนไลน์แทน แต่ผมก็รู้สึกว่ามันยังเป็นสื่อที่จำกัดอยู่ให้คนที่รู้จักเท่านั้นที่จะอ่านได้ จนผมมารู้จักสิ่งที่เรียกว่า บล็อก ซึ่งจะคล้ายๆ ไดอารี่แต่เขียนให้คนอื่นอ่านได้ด้วย ซึ่งตัวเองอยากให้คนอื่นมีพื้นที่แสดงออกอยู่แล้ว ก็เลยก่อตั้งเว็บไซต์ที่ชื่อ exteen.com ขึ้นมา”
ออนไลน์อย่างไร...ไม่เออเรอร์
หลายคนสงสัยว่าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนดังในโลกออนไลน์ เขาใช้เวลาส่วนตัวในการอยู่บนโลกเสมือนจริงกันอย่างไรบ้าง แล้วพวกเขาทำอย่างไรให้การเล่นโซเชียลมีเดียไม่เข้ามากัดกินเวลาและทำลายชีวิตเหมือนที่ใครหลายๆ คนกำลังประสบอยู่ ซึ่งคนแรกที่จะมาแนะนำก็คือ คุณณัฐ สาวสวยหนึ่งเดียวของเรา
“โลกออนไลน์เข้ามาเป็นโลกซ้อนในชีวิตของเราไปแล้ว เรากดเฟสบุ๊กทุกวัน โพสข้อความตลอดเวลา คิดว่าเราก็คงต้องอยู่กันไปแบบนี้อีกนาน ความแตกต่างก็คือในโลกแห่งความเป็นจริงเราพูดคุยกันต่อหน้า แต่ในโลกออนไลน์เราเจอคำพูด เจอความคิดอะไรลอยอยู่เต็มไปหมด มันมีทั้งด้านมืดและด้านสว่างที่แสดงออกมา ซึ่งบางครั้งทำให้คนเกลียดกันมากขึ้น ซึ่งในโลกออนไลน์ก็จะมีทั้งคนที่ดีทั้งคนที่ไม่ดี อยู่ที่เราจะใช้มันยังไง”
แน่นอนว่าทุกที่ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดีและคนไม่ดีปะปนกันอยู่ สิ่งสำคัญที่คุณณัฐ พูดถึงก็คือ การเลือกเสพสื่อออนไลน์อย่างมีสติและหลีกเลี่ยงผู้คนและถ้อยคำที่ลอยอยู่ในด้านมืดของสังคมออนไลน์ให้ไกลเข้าไว้ เพราะสิ่งนี้นอกจากจะทำให้เราเสียเวลาแล้ว บ่อยครั้งยังเป็นการเพิ่มความขัดแย้งให้กับคนในสังคมอีกด้วย Dr.Pop ได้เสริมขึ้นมาในอีกหนึ่งมุมที่น่าสนใจ กับประสบการณ์ของเขาบนโลกออนไลน์ที่พบเจอ ‘นักเลงคีย์บอร์ด’ จำนวนมากมาย ซึ่ง Dr.Pop ก็แนะนำเคล็ดลับในการอยู่กับคำติชมที่มากมายในโลกออนไลน์เอาไว้ว่า
“เราต้องรักคนที่เขาด่าเรานะ ถ้าใครที่วิจารณ์ที่ติเพื่อให้เราเอามาปรับปรุงอันนี้ต้องขอบคุณเขา อย่างถ้าเขาบอกว่า ‘Dr.Pop ผมไม่ชอบหนังสือคุณ เพราะคุณบรรยายฉากเยิ่นเย่อ คุณเอาข้อมูลตรงนี้มาจากไหนการกระทำมันขัดแย้งกันนะ’ อันนี้ผมเองแทบจะส่งอีเมล์ไปขอบคุณที่เขาแนะนำให้เราปรับปรุงงาน แต่ถ้าใครมาเพื่อด่าเฉยๆ ‘ไม่ชอบวะ เสี่ยววะ’ บางทีใช้คำหยาบโดยไม่มีเหตุผล อันนี้ต้องไม่เอามาเป็นอารมณ์ เพราะมันกลายมาเป็นขยะสมองของเปล่าๆ ผมว่าจริงๆ แล้วคนที่เป็นคนพิมพ์ด่าก็ต้องถามตัวเองด้วยนะว่าด่าแล้วได้อะไรกลับมา มีอะไรที่ดีขึ้นไหม หรือเอาแค่ตัวเองสะใจ ในโลกนี้ไม่มีใครทำให้คนทั้งโลกรักได้หรอก ทุกคนต้องมีคนรักคนเกลียด มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่คุณต้องอยู่กับมันให้ได้”
อีกหนึ่งหนุ่ม “แชมป์ – ทีปกร” ได้พูดถึงข้อดีของโลกออนไลน์บ้าง ซึ่งสำหรับตัวเขาเอง พื้นที่ในโลกเสมือนจริงแห่งนี้เป็นเหมือนห้องเรียนและสนามซ้อมที่กว้างใหญ่ ที่ทำลายกำแพงเดิมๆ ที่ใครหลายๆ คนเคยประสบไปได้อย่างสิ้นเชิง
“ก่อนที่จะมีสื่อออนไลน์อย่างทุกวันนี้ เวลาที่คนๆ หนึ่งจะบอกเรื่องราวอะไรสักอย่างให้โลกรู้ จะต้องไปผ่านขั้นตอนมากมาย ไปผ่านบรรณาธิการ ผ่านฝ่ายการตลาด ผ่านสำนักพิมพ์ต่างๆ ซึ่งบางทีมีต้นฉบับจำนวนมาก มีข้อความจำนวนมากที่ไม่ได้ถูกกเผยแพร่ออกมาเพราะบรรณาธิการไม่เชื่อ ซึ่งไม่ได้แปลว่างานพวกนั้นไม่ได้ไม่ดีนะ ซึ่งพอมีสื่อออนไลน์ปุ๊ปข้อจำกัดตรงนั้นมันถูกทำลายลงไปหมดเลย ทุกคนสามารถผลิตงานแล้วสื่อออกไปได้ทันที และจะดังหรือไม่ดังทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่ออกมามันดีหรือเปล่าแล้ว ไม่ได้อยู่ที่ข้อจำกัดของโอกาสในการสื่อสารแบบเดิม”
เคล็ด (ไม่) ลับ แจ้งเกิดในโลกออนไลน์
หลังจากทราบที่มาที่ไปของ 3 บุคคลที่แจ้งเกิดในโลกออนไลน์กันไปแล้ว เราลองมาดูเคล็ดลับจากทั้ง 3 ท่าน ที่ทำให้ตัวเองได้ยืนหยัดอยู่บนโลกออนไลน์อย่างมั่นคง มีคนติดตามทั้งผลงานและตัวตนของพวกเขาจนถึงทุกวันนี้ โดย ณัฐ กล่าวว่า ที่เพจหมาจ๋า ได้รับความสนใจมาก น่าจะเป็นเพราะความเป็นธรรมชาติ ที่คนอ่านสัมผัสได้ บวกกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เคยคิดจะเลียนแบบใครนั่นเอง
“ที่เพจของเราได้รับความสนใจมากขนาดนี้ อาจเป็นเพราะเราเป็นธรรมชาติ เราคิดขึ้นมาเองว่าเราต้องการดูอะไร เราไม่ได้ไปเลียนแบบใคร เราแค่กำลังเห็นว่าในสังคมโลกออนไลน์มันยังมีบางจุดที่ยังขาดอยู่ ก็เข้าไปเติมเต็มตรงนั้น ตอนนี้หลายคนที่กำลังสร้างเพจอย่าแค่ยึดติดกับคำว่าดัง แต่ดังแล้วจะทำอะไรต่อ ประเด็นคือไม่ใช่ว่าแค่จะแจ้งเกิดยังไง แต่เราแจ้งเกิดไปเพื่ออะไร ซึ่งถ้ามองว่าสิ่งที่ทำมันจะส่งผลอย่างไร มันก็จะเป็นกรอบให้เราได้เดินมากกว่า และเราควรใช้สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กให้เกิดประโยชน์ เพื่อให้เราได้เรียนรู้ อย่าให้มันมาใช้เรา”
ในขณะที่ Dr.Pop ได้เล่าถึงประสบการณ์อันล้ำค่า ซึ่งกลายมาเป็นบทเรียนสำคัญในชีวิต จากการที่คิดว่าตัวเองโด่งดัง ในช่วงสมัยอายุ 17 ปี จนพบว่ามีหลายคนที่รู้สึกไม่ชอบเขา จนเขาตั้งต้นใหม่ ด้วยการอ่านหนังสือหลากหลายประเภท และเกิดความคิดที่เข้าใจโลกได้มากขึ้น และความเข้าใจอย่างหนึ่งเกี่ยวกับเคล็ดลับในการยืนหยัดในโลกออนไลน์ก็คือ
“คุณต้องค้นหาตัวเองให้ชัด ทำมันบ่อยๆ ให้คนซึมซับ ในที่สุดอัตลักษณ์ของคุณนั่นแหละจะทำให้คุณมีชื่อเสียงขึ้นมาเอง ถ้าคุณมีความสามารถ ความสามารถของคุณต้องไม่อยู่กับที่ด้วยนะ คุณต้องพัฒนาไปเรื่อยๆ และถ้าคุณมีโอกาสอะไรก็แล้วแต่ในโลกออนไลน์ คุณอย่าไปหลงกับความดัง แต่ให้พัฒนามันให้ยั่งยืนออกไปในแนวกว้าง ให้คุณอยู่กับชื่อเสียงตรงนั้นได้นานๆ พัฒนาต่อให้มันเหมาะกับคนที่ติดตามคุณ”
ส่วน ‘แชมป์ – ทีปกร’ ได้กล่าวถึงเคล็ดลับในการแจ้งเกิดในโลกออนไลน์ไว้ว่า “การสื่อสารแบบที่แรงและดังได้มากที่สุดมักจะเป็นพวกที่หยาบคาย โหวกเหวก แต่มันเหมือนเสียงฉาบ มันดังจนเราหูชา แต่เสียงฉาบมันดังไม่นาน สักพักหนึ่งมันก็จางไป ไม่เหมือนกับอีกพวกหนึ่งที่เหมือนตีกลอง คอยให้จังหวะไปเรื่อยๆ ไม่ได้ดังออกมาทีเดียว แต่สม่ำเสมอไปเรื่อยๆ ยุคนี้คนมีมือถือ มีแป้นพิมพ์ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ความเสียหายจากการโพสต์อะไรด้วยอารมณ์ชั่ววูบมันง่ายดายมากๆ เวลาที่เราใจยังไม่เย็น เราสื่อสารอะไรออกไปมันก็อันตราย ดังนั้นเวลาที่เราจะโพสต์อะไร เราลองถามตัวเองก่อนว่าเราอยากเก็บความรู้สึกแบบนี้ไว้ตลอดไปเหรอ มันคือชีวิตเรา ที่เราอยากเก็บอะไรไว้ หรืออยากทิ้งอะไรไป คิดให้ดีๆ”
ได้ฟังเคล็ดลับดีๆ จาก 3 บุคคลแจ้งเกิดในโลกออนไลน์ไปแล้ว ก็หวังว่าความกล้าคิดกล้าฝันของพวกเขา จะจุดประกายความฝันของคนอื่นๆ ให้ลุกขึ้นมา ‘แจ้งเกิด’ ในพื้นที่ของตนเองเช่นกัน
