
หากคุณมาใช้บริการโซนห้องสมุดของ TK Park ช่วงต้นปีที่ผ่านมา คุณอาจเคยสังเกตเห็นคนเดินเคียงกัน ผ่านคุณไป นั่งลงหยิบจับหนังสือหรือทำอะไรบางอย่างอยู่สักพัก แต่ทั้งหมดอยู่ภายใต้ความสงบเงียบเชียบ จนกระทั่งคุณอาจไม่ได้สังเกตทั้งหมดที่กล่าวมาเลย
ปรากฏการณ์นี้คือสิ่งใหม่ใน TK Park เป็นอีกหนึ่งรูปแบบงานสร้างสรรค์ที่คนกลุ่มหนึ่งเชื่อมั่นหนักแน่นว่าเกิดขึ้นได้ในห้องสมุด
เมื่อเดือนมีนาคม 2568 TK Park ได้เปิดพื้นที่ให้กับการแสดง MANUAL (คำแปลภาษาไทย: คู่มือ) ผลงานร่วมของศิลปินชาวแคนาดา Christopher Willes และ Adam Kinner ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะการแสดงนานาชาติ Bangkok International Performing Arts Meeting (BIPAM) และได้สร้างความประทับใจตราตรึง ทั้งในใจของผู้ชม ในมุมมองของศิลปิน และทีมผู้จัดงานที่ร่วมกันทำให้การแสดงครั้งนี้เกิดขึ้นได้
MANUAL คือการแสดงร่วมสมัยแบบตัวต่อตัวระหว่างนักแสดงกับผู้ชม ไม่มีเวที ไม่มีแสงสีเสียงแบบโจ่งแจ้ง ใช้ฉากในพื้นที่ห้องสมุดที่ออกแบบและกำหนดจุดแสดงไว้ แต่ไม่มีการควบคุมปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ห้องสมุด ผู้ใช้งานห้องสมุดเป็นผู้ใช้งานจริงในขณะนั้น
หลังการแสดงรอบสุดท้าย TK Park ได้มีโอกาสพูดคุยกับทีมผู้จัดการแสดงและตัวแทนนักแสดงไทย และสัมผัสได้ถึงความรู้สึกภาคภูมิใจอันเปี่ยมล้นที่การแสดงนี้ได้ถึงจุดหมายอย่างสมบูรณ์ ทีมงาน TK Park จึงรวบรวมเรื่องราวและถ้อยคำของ ศศพินทุ์ ศิริวาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ BIPAM และ Christopher Willes หนึ่งในศิลปินผู้สร้างสรรค์ MANUAL ที่มาสะท้อนถึงกระบวนการทำงาน ความท้าทาย และความเป็นไปได้ของการเปลี่ยน “ห้องสมุดกลางห้าง” ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งจินตนาการผ่านการแสดงสดในครั้งนี้

การแสดงครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“การได้แสดง MANUAL ในงาน BIPAM ถือเป็นเรื่องน่ายินดีมาก” Christopher กล่าว “นี่เป็นการจัดแสดงครั้งที่ 9 ของงานชิ้นนี้ และเป็นครั้งแรกที่จัดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” จุดเด่นของเวอร์ชันประเทศไทยคือการมีนักแสดงไทยถึง 4 คน คือ ศรุต โกมลิทธิพงศ์, จตุรชัย ศรีจันทร์วันเพ็ญ, ภัทรียา พัวพงศกร และณพิม สิงห์โตโรจน์ และเป็นครั้งแรกที่การแสดงนี้ถูกถ่ายทอดเป็นภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบ
ด้านศศพินทุ์ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของ BIPAM เล่าย้อนถึงแรงบันดาลใจเริ่มต้นว่า “ตอนได้ไปชม MANUAL ครั้งแรก รู้สึกทันทีเลยว่า อยากให้คนในประเทศไทยได้สัมผัสประสบการณ์นี้เหมือนกัน เราเองในฐานะคนรักหนังสือ รู้สึกเสียดายที่วันนี้แทบไม่มีแรงจูงใจในการเข้าใช้ห้องสมุดอีกต่อไป แต่งานชิ้นนี้ทำให้ห้องสมุดกลับมามีเวทมนตร์อีกครั้ง”
ตลอดระยะเวลากว่าหนึ่งปี ทั้งศิลปินและทีม BIPAM ได้ร่วมกันวางแผนในหลายมิติ ตั้งแต่แหล่งทุน วิธีดำเนินงาน ทีมงานไทย การทำงานระยะไกล ไปจนถึงกระบวนการแปลและปรับงานเข้ากับพื้นที่ในไทย “บางครั้งรู้สึกเหมือนเรากำลังฝันอะไรบางอย่างร่วมกัน แล้วสุดท้ายฝันนั้นก็กลายเป็นจริง” ศศพินทุ์กล่าว

ระหว่างความวุ่นวายกับความสงบ
หนึ่งในลักษณะเด่นของ MANUAL คือ “listening walk” หรือการเดินฟังเสียง ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้ชมถูกชวนให้ใช้ประสาทสัมผัสในการฟังและรับรู้พื้นที่รอบตัวอย่างละเอียด สำหรับฉบับประเทศไทย การเดินฟังเสียงนี้เริ่มต้นตั้งแต่ใจกลางศูนย์การค้า
“นี่เป็นครั้งแรกที่เราแสดง MANUAL ในห้องสมุดที่ตั้งอยู่ในห้าง” Christopher เล่า “ปกติเราจะแสดงในห้องสมุดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง ดังนั้นพื้นที่นี้จึงดูแตกต่างและท้าทายมากในตอนแรก แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจโอบรับมันไว้”
ความแตกต่างระหว่าง “ความวุ่นวายของห้าง” และ “ความสงบของห้องสมุด” กลายเป็นพลังที่เสริมกัน สร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร และเป็นเวอร์ชันที่น่าจดจำของ MANUAL ในมุมมองของทีมงานเอง

หมุดหมายสำคัญของ BIPAM
ศศพินทุ์มองว่า MANUAL คือหนึ่งในหมุดหมายที่สำคัญของ BIPAM 2025 “นี่เป็นโปรเจกต์ที่เราร่วมคิดกับศิลปินมาตั้งแต่ต้น เป็นการทำงานที่ใกล้ชิดกันจริง ๆ เราภูมิใจที่เวอร์ชันในปีนี้เป็นครั้งแรกที่ MANUAL ถูกแสดงในประเทศที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาฝรั่งเศสเป็นหลัก
ความร่วมมือกับ TK Park เองก็ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของความสำเร็จ “เรารู้สึกได้รับการต้อนรับเสมอ และสามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกับทีมงาน TK Park ได้อย่างเปิดใจ”
ในเชิงศิลปะ MANUAL ถือเป็นผลงานที่ก้าวข้ามกรอบเดิม ๆ โดยผสมผสานเสียง ตัวหนังสือ การเคลื่อนไหว และประสบการณ์ทางกายภาพไว้ใน 45 นาทีอันจดจ่อ “ชัดเจนว่าศิลปะการแสดงไม่ใช่แค่สิ่งที่เกิดบนเวทีให้คนดูนั่งดูอีกต่อไป แต่มันคือประสบการณ์ที่ผู้ชมได้อยู่ร่วมกับศิลปินในพื้นที่และช่วงเวลาหนึ่งแบบมีชีวิตชีวา”

ความท้าทายและความร่วมมือ
แน่นอนว่าการทำงานข้ามทวีปแบบนี้ต้องเจออุปสรรคหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องทุน “การสนับสนุนด้านทุนสำหรับศิลปะในไทยยังมีจำกัด” ศศพินทุ์กล่าว อย่างไรก็ดี ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของทุกฝ่าย ทั้งศิลปิน BIPAM, TK Park และพันธมิตรอย่าง ร้านหนังสือ Vacilando โครงการนี้จึงเป็นจริงได้
Vacilando และคุณวิทิต จันทามฤต ได้ช่วยเติมเต็มเนื้อหาให้ MANUAL ด้วยหนังสือภาพหายาก และความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับนักอ่านและวัฒนธรรมการอ่านในไทย
“การนำ MANUAL มาสู่ TK Park นั้น ต้องปรับบริบทไม่น้อย เพราะที่ผ่านมางานนี้มักจัดในห้องสมุดสาธารณะแบบดั้งเดิม” ศศพินทุ์เล่า “แต่เมื่อมีการระดมความคิด และการลงพื้นที่จริงของศิลปิน MANUAL ก็สามารถโอบรับความวุ่นวายของกรุงเทพฯ และใช้มันสร้างประสบการณ์ได้อย่างงดงาม”
“ทุกครั้งที่มีคนบอกว่าการแสดงครั้งนี้ทำให้ TK Park ดูสดใหม่ขึ้น หรือรู้สึกว่าห้องสมุดแห่งนี้มีเวทมนตร์อีกครั้ง นั่นคือรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา”

ห้องสมุดในฐานะพื้นที่แห่งความคิดสร้างสรรค์
ทั้งศิลปินและทีม BIPAM มองว่า TK Park ไม่ใช่แค่สถานที่จัดงาน แต่คือ “ทรัพยากรทางวัฒนธรรม”
“ห้องสมุดมีพลังในการจุดประกายจินตนาการ” Christopher กล่าว “โปรเจกต์นี้ (MANUAL) เริ่มจาก residency ที่ห้องสมุด Mitchell Library ในสกอตแลนด์ และได้จัดแสดงมาแล้ว 5 ประเทศ ทุกที่ห้องสมุดเปิดโอกาสให้เกิดการเชื่อมต่อใหม่ ๆ ระหว่างศิลปะและสาธารณชน”
ศศพินทุ์สรุปไว้ว่า “การมีพื้นที่ที่รักษาไว้สำหรับความรู้และความคิดสร้างสรรค์อยู่กลางศูนย์การค้าที่เต็มไปด้วยกิจกรรมเชิงธุรกิจ ทำให้ TK Park กลายเป็นคำเชิญชวนให้ผู้คนชะลอจังหวะชีวิต หันมาสัมผัสความลึกซึ้งอีกด้านหนึ่ง”
“มันไม่ใช่แค่เรื่องสถานที่ แต่คือทีมงานด้วย เรานึกไม่ออกเลยว่าจะมีพันธมิตรที่เหมาะกว่านี้ในกรุงเทพฯ ทั้งในแง่ของทำเล ความเหมาะสมของพื้นที่ และการเปิดรับความแปลกใหม่ของทีมงานและผู้ใช้บริการ”

มองไปข้างหน้า
การแสดง MANUAL ที่ TK Park คือตัวอย่างชั้นดี ว่าศิลปะการแสดงสามารถเปลี่ยนพื้นที่สาธารณะให้เป็นพื้นที่แห่งจินตนาการได้ และห้องสมุดสามารถกลายเป็นพื้นที่ที่คนมาฟังเสียง มองเห็น และจินตนาการร่วมกันได้อีกครั้ง
มันไม่ใช่เพียงการแสดงหนึ่งครั้ง แต่คือกระบวนการร่วมกันของศิลปิน ภัณฑารักษ์ และสาธารณชน ที่ทำให้เราตั้งคำถามและค้นพบว่า พื้นที่อย่างห้องสมุด และศิลปะการแสดง สามารถเปิดโลกได้มากกว่าที่เคยคิด
ภาพถ่ายประกอบบทความ โดย Bangkok International Performing Arts Meeting (BIPAM)
ติดตามบันทึกจากกิจกรรมน่าจดจำครึ่งปีแรกของอุทยานการเรียนรู้ TK Park ได้ที่เว็บไซต์ tkpark.or.th/tha/articles ได้ตลอดเดือนสิงหาคมนี้