กิจกรรมนิทานผลิบานเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ TK Park ว่าด้วยเรื่องราวหอมกรุ่นของขนมปัง ภายใต้ชื่อกิจกรรมเวิร์กช็อป “ขนมปังนอกกล่อง” ที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมตัวน้อยทุกคนได้สวมบทบาทเป็นเชฟขนมปังฝึกหัดในบรรยากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน เพื่อเรียนรู้เรื่องราวของขนมปังผ่านนิทานสร้างสรรค์ ที่ชักชวนเชฟเหล่านี้ให้ก้าวเข้าสู่โลกของขนมปังอันหอมกรุ่นของเมนูขนมปังละลานตาจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก
ไฮไลต์ของกิจกรรมนี้คือการเปิดให้เด็ก ๆ ได้ใช้จินตนาการและลงมือสร้างสรรค์ผลงานกันอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การจับคู่ไส้ขนมปัง ไปจนถึงการปั้นเมนูขนมปังตามโจทย์ที่ได้รับ และลงมือวาดขนมปังตามจินตนาการสุดน่ารักของตัวเองลงบนผืนผ้าใบ โดยมีนักวาดภาพประกอบอย่าง คุณมีมี่ – สรรประภา วุฒิวร มาช่วยแนะแนวทางสร้างสรรค์ทางอย่างใกล้ชิด
และเพื่อให้เราได้เข้าใจถึงพลังของนิทานและศิลปะแห่งการวาดภาพประกอบมากขึ้น คุณมีมี่จึงได้ใช้โอกาสนี้ให้ความรู้เพิ่มเติมกับพวกเราทุกคนว่า ‘นิทานภาพ’ จะช่วยเสริมสร้างจินตนาการและเปิดมิติการเรียนรู้ในหัวใจของเด็ก ๆ ได้อย่างไรบ้าง
เส้นทางของคนมีฝัน
ความรักความหลงใหลในนิทานภาพคือแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของคุณมีมี่ ศิลปินนักสร้างสรรค์นิทานภาพและนักวาดภาพประกอบสุดน่ารัก เธอได้ใช้ทั้งลายเส้น ทั้งโทนสีอ่อนนุ่มสบายตา มากระตุ้นให้เด็ก ๆ สนใจเรื่องราวที่เธอนำเสนอผ่านแง่มุมต่าง ๆ
คุณมีมี่ย้อนเล่าจุดเริ่มต้นให้ฟังว่า “ก่อนหน้านี้เรียนปริญญาตรี สาขาวิศวคอมพิวเตอร์ เพราะตอน ม. ปลาย เราชอบเล่นเกม เลยคิดว่าถ้าได้ทำเกมก็คงจะดีนะ แต่พอเข้าไปเรียนจริง ๆ แล้วรู้สึกว่าไม่ได้ชอบขนาดนั้น ส่วนจุดเปลี่ยนที่ทำให้มาสนใจทางด้านนี้ เพราะมีช่วงที่ไปดูหนังสือที่ร้านหนังสือ พอไปนั่งอ่านนิทานเด็ก แล้วรู้สึกว่ามันสบายใจดี ง่าย เป็นอะไรที่ง่าย ๆ แต่กลับทำให้เรารู้สึกดี” ดูเหมือนเรื่องเล่าที่เบาสบายและโทนสีอ่อนนุ่มในหนังสือนิทานจะทำให้เธอประทับใจจนหลงใหลเข้าซะแล้ว
และเมื่อเธอเกิดความรู้สึกแน่วแน่ว่าอยากเดินบนเส้นทางสายนี้อย่างจริงจัง เธอก็เริ่มหาความรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเอง ไปฟังบรรยายตามสถานที่ต่าง ๆ เข้าไปขอคำแนะนำจากผู้อยู่ในแวดวงทำนิทานภาพบ้าง ทดลองทำด้วยตัวเองบ้าง ลองส่งเข้าประกวดอยู่หลายหน จนสามารถคว้ารางวัลมาเป็นแรงใจให้กับตัวเองได้ 1 รางวัล
มากกว่านั้นเธอยังมุ่งหน้าในเส้นทางนี้อย่างตั้งใจ ไล่ตามความฝันการเป็นนักทำนิทานภาพด้วยการไปเรียนต่อปริญญาโทสาขา Children's Book Illustration ที่ Cambridge School of Art (Anglia Ruskin University) เมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ หนึ่งในสถานศึกษาที่ได้รับความสนใจจากนักทำนิทานทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการเปิดเปิดมุมมองต่อโลกนิทานให้เธอไปอีกขั้น
ผู้อ่านท่านใดที่กำลังมีความฝัน ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่า วันนี้เราลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เข้าใกล้ความฝันนั้นมากขึ้นหรือยัง ลองเดินไปข้างหน้าทีละก้าว ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้ความฝันทีละนิด โดยเชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ เพราะคุณมีมี่เองก็ทำให้เราได้เห็นแล้วว่า ไม่มีความตั้งใจอะไรที่สายเกินไป หากเราทำมันอย่างเต็มที่
เล่าจากเรื่องที่ใกล้หัวใจ
นิทานภาพมีหลากหลายรูปแบบ และเนื้อหาของนิทานก็แปรเปลี่ยนไปตามโลกที่หมุนไป แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยืนยันว่า “เวลาทำนิทานเรามักจะเลือกจากสิ่งที่อยากทำ เรื่องที่สนใจจริง ๆ ช่วงนี้ส่วนมากเราจะทำเรื่องที่ตัวเองให้ความสำคัญ เพราะระหว่างที่เราทำนิทานเอง บางทีกลายเป็นว่าเราก็เข้าใจตัวเองมากขึ้นระหว่างนั้น”
เธอจึงรู้สึกสนุกกับการถ่ายทอดเรื่องราวที่เธอสนใจผ่านลายเส้นและสีสันสดใสสบายตาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหาร เวทมนตร์ชวนตื่นเต้น ไปจนถึงประเด็นการสำรวจตัวเอง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ทำความเข้าใจตัวเองมากขึ้น
แต่กว่าเธอจะสร้างสรรรค์งานออกมาได้แต่ละเรื่องนั้น ก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เราคิด “จริง ๆ ยากทุกจุดเลย ตั้งแต่การคิดเรื่อง เช่น เราอาจจะมีไอเดีย แต่จะทำยังไงให้เขียนจบเรื่องแล้วดี สนุก หรือระหว่างดำเนินเรื่องจะทำยังไงให้ไม่น่าเบื่อ ใช้สียังไงให้เข้ากับเรื่อง คำพูดกับรูปภาพก็ต้องทำงานร่วมกันด้วยนะ มันมีหลายองค์ประกอบมาก ๆ” แม้กำลังพูดถึงความท้าทายของการทำหนังสือนิทาน แต่เธอยังคงบอกเล่ามันด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ
คุณมีมี่อธิบายเบื้องหลังรอยยิ้มในความท้าทายนั้นว่า “...เพราะเรายังมีเรื่องที่อยากเล่าอยู่ เลยยังสนุกที่จะทำอยู่” เราเชื่อว่าเด็ก ๆ เองก็ยังเฝ้ารอที่จะได้อ่านนิทานน่ารัก ๆ ที่แต้มแต่งด้วยความสดใส และสอดแทรกมาด้วยเรื่องราวชวนคิดของเธออยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
จุดประกายจากหน้ากระดาษ
“บางทีหนังสือนิทานก็เป็นแนวทางให้เด็ก ๆ เห็นว่า เขาสามารถทำแบบนี้ได้นะ คือเป็นทั้งจุดประกายและตัวอย่างได้ในบางเรื่อง บางครั้งกับบางเรื่องเขาไม่มีไอเดีย แต่พอได้เห็นจากนิทาน อาจจะนึกอะไรออก อาจจะเอาไปต่อยอดกับเรื่องอื่น ๆ หรืออาจจะเป็นคลังข้อมูลให้เขาได้สะสมความรู้ไปเรื่อย ๆ ก็ได้”
ดังนั้น หนังสือเล่มเล็ก ๆ จึงสามารถเสริมสร้างพัฒนาการและส่งเสริมทักษะชีวิตให้เด็ก ๆ ได้ ถ้าเราเลือกใช้นิทานให้ถูกจังหวะ ถูกเวลา ถูกเรื่องราว นิทานจะเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้างนิสัยที่ดีให้เด็ก ๆ ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อาจมีหลายคนที่กำลังสนใจการทำนิทานภาพ คุณมีมี่แอบกระซิบเคล็ดลับว่า หัวใจสำคัญอีกหนึ่งอย่างคือ ‘การฝึกฝน’ ยิ่งถ้าอยากวาดภาพประกอบแล้วล่ะก็ ต้องฝึกสเกตช์อยู่บ่อย ๆ ด้วย
“อีกอย่างคือเวลาเราจะเขียนนิทาน แล้วเราไปลองสัมผัสประสบการณ์นั้นจริง ๆ ก็มีส่วนทำให้เราถ่ายทอดออกมาได้สมจริงมากยิ่งขึ้น เช่น ตัวละครเราจะไปกินขนมปังที่ร้าน เราอาจจะไปลองกินขนมปังดูด้วย บางทีเราอาจจะเห็นภาพบรรยากาศ เห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ชัดขึ้น” คุณมีมี่อธิบายพร้อมเปิดภาพสเก็ตช์ประจำตัวให้เราได้ดูพัฒนาการและความน่ารักมากมาย ทั้งข้าวของ สถานที่ และคาแร็กเตอร์ตัวการ์ตูนต่าง ๆ ที่เธอร่างและทดลองลงสีเอาไว้
ทุกหน้าในสมุดสเก็ตช์ภาพของคุณมีมี่เต็มไปด้วยร่องรอยการฝึกฝน เป็นหลักฐานอย่างดีว่า เธอไม่เคยหยุดพัฒนาและหาความเป็นไปได้ใหม่ให้กับเรื่องราวและตัวละครของเธอ และเธอยังทิ้งท้ายข้อความสำคัญไว้ให้กับเพื่อนที่สนใจในอาชีพนี้อีกว่า
“ที่สำคัญอีกอย่างคือ เรื่องที่จะใส่เข้าไปในนิทาน อยากให้เป็นเรื่องที่ใกล้หัวใจของเรา เพราะเราจะสามารถสื่อสารออกมาได้ดีกว่า ถ้าใครอยากลองวาดนิทานสักเล่ม ลองเลือกจากเรื่องที่ใกล้หัวใจของเราดูก่อนนะ”
และถ้าใครคิดอยากลองออกตามหาสิ่งที่ตัวเองสนใจ ซึ่งวันหนึ่งสิ่งนั้นอาจกลายเป็นสิ่งที่ขยับเข้ามาอยู่ในหัวใจ TK Park อาจเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จะช่วยเติมเต็มจินตนาการ แลกเปลี่ยนความรู้ และฝึกทักษะด้านต่าง ๆ ก็ได้นะ