เนื่องจากสถานการณ์ Covid-19 ที่ไม่แผ่วลงง่ายๆ หลายคนอาจต้องกักตัว เรียนออนไลน์ หรือทำงานที่บ้านนานหลายเดือน สำหรับปีนี้คอหนังสือมังงะชาว TK Park หลายคนอาจฟินกันถ้วนหน้าเพราะมังงะสุดโปรดหลายเรื่องที่ตนติดตามได้สร้างเป็นแอนิเมะคุณภาพฉายผ่านระบบสตรีมมิ่งให้เลือกชมได้หลายแพลตฟอร์ม วันนี้ TK Park พามาสำรวจดูว่ามีมังงะสุดแจ่มเรื่องไหนบ้างที่ถูกนำมาสร้างเป็นแอนิเมะสุดปังพร้อมแล้วไปดูกันเลย
1. ดาบพิฆาตอสูร
ผู้เขียน Koyoharu Gotouge
มังงะอันดับหนึ่งแห่งปีคงต้องยกให้ “ดาบพิฆาตอสูร” ที่ปลุกกระแสความฮิตของการ์ตูนเล่มขึ้นมาอีกครั้งจนเกิดปรากฏการณ์หนังสือการ์ตูน “ขาดตลาด” แถมยังสร้างกระแสการแต่งตัวของวัยรุ่นด้วยลวดลายเสื้อผ้าจากเรื่องนี้ที่เห็นได้ทั่วทุกหัวระแหง
ดาบพิฆาตอสูร เป็นเรื่องราวการผจญภัยของคามาโดะ ทันจิโร่ ผู้สูญเสียครอบครัวจากการบุกโจมตีของเหล่าอสูร แม้ว่า เนซึโกะ น้องสาวของทันจิโร่จะรอดชีวิตแต่ดูเหมือนว่าเธอจะกลายเป็นอสูรไปด้วย ระหว่างการเดินทางเพื่อช่วยเหลือน้องสาว ทันจิโร่ปะทะกับโทมิโอกะ กิยู นักล่าอสูรที่ต้องการสังหารเนซึโกะ ทว่าทั้งสองพี่น้องกลับช่วยปกป้องกันและกันอย่างสุดชีวิต กิยูเห็นว่าเนซึโกะแม้จะกลายร่างเป็นอสูรแล้วแต่ยังคงมีจิตใจเป็นมนุษย์อยู่ ส่วนทันจิโร่ก็มีความสามารถในการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา เขาจึงชักชวนให้ทันจิโร่ฝึกปรือวิชาดาบและเข้าร่วมกับกลุ่มพิฆาตอสูรเพื่อปราบเหล่าอสูรและหาทางช่วยน้องสาวให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
ในระหว่างการผจญภัยต่อสู้กับอสูร เขาได้พบกับเพื่อนพ้องและมิตรภาพ รวมถึงบรรดานักดาบ “เสาหลัก” หรือนักดาบที่เก่งที่สุดของกลุ่มพิฆาตอสูรและร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน เขาค่อย ๆ ค้นพบปริศนาของชาติกำเนิดตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการปราบ “มุซัน” จอมอสูรที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อยุติสงครามกับเหล่าอสูรที่ดำเนินมากว่าพันปี
แม้ว่าเนื้อหาในมังงะจะจบลงไปแล้วตั้งแต่ปีที่แล้ว ทว่าแอนิเมะและภาพยนตร์ก็ยังมีการประกาศสร้างออกมาเรื่อย ๆ ทั้งการขยายเรื่องราวจากฉบับภาพยนตร์ในตอน Mugen Ressha-Hen ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ หรือแอนิเมะซีซั่นสองอย่าง Yuukaku-hen ย่านเริงรมย์โยชิวาระ ก็ล้วนแต่เป็นเรื่องราวที่แฟน ๆ ตั้งตาคอยรับชม สำหรับแฟน ๆ มังงะที่ยังไม่ได้ปิดฉากตำนานดาบพิฆาตอสูร สามารถติดตามอ่านได้ในห้องสมุด TK Park หรือยืมฉบับ E-book อ่านได้ในแอปพลิเคชัน Libby by OverDrive ได้นะ
2. ผ่าพิภพไททัน
ผู้เขียน Hajime Isayama
ตามตำนานกล่าวว่า มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ถูกสังเวยให้กับสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่เรียกว่า “ไททัน” เหลือรอดเพียงมนุษย์กลุ่มสุดท้ายที่อยู่ภายใน “กำแพง” ที่สูงกว่าห้าสิบเมตร ซึ่งไททันไม่สามารถข้ามผ่านเข้ามาได้ มนุษย์ที่เหลือรอดทุกคนดูจะพอใจกับชีวิตที่สุขสงบปราศจากอันตรายจากพวกไททัน เว้นแต่ “เอเลน เยเกอร์” เด็กน้อยที่เกิดมาพร้อมกับความฝันในการใฝ่หาอิสรภาพ
กระทั่งวันหนึ่งกลับปรากฏ “ไททันขนาดมหึมา” ที่สูงกว่ากำแพง และ “ไททันเกราะ” ซึ่งมีเกราะหนาและแข็งแกร่งร่วมมือกันทำลายกำแพงชั้นนอกจนพังทลาย เอเรนสูญเสียครอบครัวไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น เขาจึงเข้าร่วมกับกองทหารเพื่อกำจัดไททันให้หมดไปจากโลกใบนี้ ทว่าเมื่อเขาพลาดท่าถูกไททันกินเข้าไป เขากลับพบว่าตนเองมีพลังในการแปลงร่างเป็นไททัน และพบว่าศัตรูผู้ทำลายกำแพงกลับกลายเป็นคนที่เขาคาดไม่ถึง เขาต้องกลับไปยังบ้านเกิดที่ถูกทำลายเมื่อหลายปีก่อนเพื่อค้นพบความลับของพลังไททันและศัตรูตัวจริงที่เขาต้องต่อสู้เพื่ออิสรภาพที่ปรารถนา
สำหรับแฟนมังงะที่ชื่นชอบการ์ตูนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและการหักมุมเกินคาดเดา น่าจะมี Attack on Titan เก็บไว้ในลิสต์ที่ติดตามอย่างแน่นอน ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้น ไม่เพียงแต่การต่อสู้ระหว่างมนุษย์กับไททันเท่านั้น แต่ยังแฝงการเมือง ปรัชญา การแย่งชิงอำนาจระหว่างมนุษย์ในกำแพงด้วยกันเอง หรือเหล่าตัวเอกกับ “โลกภายนอก” ที่แสนโหดร้าย แถมด้วยความใจโหดของผู้เขียนที่ฆ่าตัวละครสำคัญตัวแล้วตัวเล่าอย่างไม่เคยปรานีจนเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่แฟนมังงะเรื่องนี้ต้องลุ้นว่าตัวละครที่ตนรักจะได้อยู่ถึงเล่มต่อไปหรือเปล่า (ฮา)
แม้ว่ามังงะจะปิดฉากลงไปเมื่อกลางปี แต่แฟนๆ ก็ยังตั้งตาคอยแอนิเมะที่กำลังจะฉายเป็นซีซันสุดท้าย เนื้อหากล่าวถึงเรื่องราวหลังจากที่เอเรนและเพื่อนพ้องเอาชนะไททันและยึดเกาะสวรรค์คืนมาได้ กลับได้รู้ความจริงว่าตัวเขาเองและเพื่อนพ้องทุกคนบนเกาะที่เขาเติบโตมากลับกลายเป็นศัตรูที่โลกต้องการกำจัดทิ้ง เรื่องราวบทสุดท้ายจะจบลงอย่างไร แฟน ๆ แอนิเมะคงต้องรอรับชมในช่วงต้นปีหน้า แต่สำหรับแฟน ๆ มังงะเรื่องนี้คงได้อ่านตอนจบกันไปแล้ว สมหวังหรือเสียใจอย่างไรมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะ
3. วันพีซ
ผู้เขียน Eiichiro Oda
การ์ตูนอมตะที่ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่าย ๆ เมื่อเรื่องราวดำเนินมากว่า 1,000 ตอน รวมเล่มไปแล้วกว่า 100 เล่ม และมีฐานแฟนมังงะอยู่ทั่วโลก เรื่องราวการผจญภัยของมังกี้ ดี ลูฟี่ เด็กหนุ่มที่ได้รับพลังพิเศษจากการกินผลปีศาจโกมุ โกมุ ทำให้ร่างกายกลายเป็นยางยืดและมีทักษะการต่อสู้ที่แปลกประหลาดไม่เหมือนใคร ความฝันของเขาคือการตามหาสมบัติที่ชื่อ วันพีซ เพื่อขึ้นเป็นราชาแห่งโจรสลัด ในระหว่างการเดินทางเขาได้พบกับพวกพ้องและเรื่องราวแสนประทับใจมากมาย พวกเขาถูกรู้จักกันในชื่อ “กลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง” ที่ค่อย ๆ สั่งสมชื่อเสียงจนกลายเป็นโจรสลัดที่มีค่าหัวสูงที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก เรื่องราวการผจญภัยของพวกเขาเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2540 จนถึงตอนนี้ก็ยาวนานกว่า 20 ปี มีการบันทึกไว้ว่าในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 วันพีซมียอดจำหน่ายมากกว่า 490 ล้านเล่มใน 58 ประเทศทั่วโลก ทำให้เป็นซีรีส์การ์ตูนที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์สื่อที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล
เรื่องราวแอนิเมะในปัจจุบันดำเนินมาถึงซีซันที่ยี่สิบ โดยชื่อภาคคือ วาโนะคุนิ ซึ่งเป็นดินแดนลับแล อำนาจของรัฐบาลโลกยังเอื้อมมาไม่ถึง ในอดีตเป็นที่รู้จักในนามดินแดนแห่งทองคำ ปัจจุบันถูกยึดครองโดยกลุ่มโจรสลัดอสูรเป็นอาณาเขตภายใต้การปกครองของหนึ่งในสี่จักรพรรดิ และเขากำลังจะเปลี่ยนวาโนะให้กลายเป็นสวรรค์ของเหล่าโจรสลัดนอกกฎหมาย เมื่อลูฟี่และกลุ่มหมวกฟางเดินทางมาถึง พวกเขาได้เข้าไปแทรกซึมในวาโนะซึ่งทำให้เห็นเรื่องราวในอดีตที่เชื่อมโยงกับตัวละครหลักในเหตุการณ์สำคัญก่อนหน้านี้มากมายหลายตัว ทำให้ภาคนี้เป็นภาคที่มีเนื้อหาเข้มข้น เฉลยปมที่กล่าวถึงเอาไว้ในภาคก่อนหน้ามากมาย ภาคนี้นับเป็นภาคที่เข้าสู่องก์สุดท้ายของเรื่องวันพีซ ซึ่งในปัจจุบันมังงะที่กำลังออกวางจำหน่ายก็ยังอยู่ในภาควาโนะคุนินี่เอง เหล่าแฟน ๆ วันพีซจึงไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
4. นินจาคาถา โอ้โฮเฮะ
ผู้เขียน Ukyō Kodachi, Masashi Kishimoto และ Mikio Ikemoto
“Naruto นินจาคาถาโอ้โฮเฮะ” เป็นมังงะอีกหนึ่งเรื่องที่ดังอยู่ในยุคเดียวกับวันพีซและจบลงไปแล้วตั้งแต่ปี 2014 แต่ด้วยเสน่ห์ของเรื่องราว “นินจายุคใหม่” ที่ไม่เหมือนใครด้วยสไตล์การต่อสู้ดุเดือดเลือดพล่านด้วยคาถานินจา ความพยายาม การต่อสู้ และมิตรภาพที่โดดเด่นในเรื่องราวการผจญภัยของนินจาวัยรุ่นทั้งหลาย ทำให้มังงะเรื่องนี้ไม่ยอมปิดฉากลงง่ายๆ
เรื่องราวของตำนานบทก่อนใน Naruto คือการไล่ตามความฝันของเด็กน้อยนาม “นารูโตะ” ซึ่งสอบได้เป็นที่โหล่เสมอมาแต่กลับใฝ่ฝันอยากจะเป็น “โฮะคาเงะ” นินจาอันดับหนึ่งของโลกนินจา ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ เขาจึงฝึกฝนและต่อสู้กับภัยที่มาคุกคามโลกนินจาอยู่ตลอดเวลา เขาได้เรียนรู้ชาติกำเนิดของตน ค้นพบพลังอันยิ่งใหญ่ และทำให้นินจาคนอื่นยอมรับ จนในที่สุดเขาได้เป็นผู้นำต่อสู้เพื่อกอบกู้โลกคืนมาได้งสำเร็จ และเป็นโฮะคาเงะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลกนินจา
ตำนานโลกนินจาถูกสานต่อด้วย Boruto: Naruto next generations เรื่องราวของโบรูโตะ ลูกชายของนารูโตะผู้มีความฝันอยากจะเป็นนินจาที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน ทว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจสลัดพ้นความเป็น “ลูกชายของโฮะคาเงะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ไปได้ โบรูโตะต้องเรียนรู้การอยู่ในโลกนินจายุคใหม่ที่มี “อุปกรณ์วิทยาศาสตร์” ซึ่งสามารถสร้างวิชานินจาใหม่อย่างง่ายดาย เพื่อนพ้องที่เป็นทั้งมิตรในยามยากและศัตรูในตอนที่ต้องแข่งขันกัน ซ้ำยังมีภัยคุกคามโลกครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหน ๆ รออยู่ จนแม้แต่ “ตำนาน” อย่างนารูโตะและนินจารุ่นก่อนยังรับมือไม่ไหว
แม้จะมีเสียงค่อนขอดจากแฟน ๆ การ์ตูนในยุคเก่าบ้างว่า Boruto เอาตัวละครในตำนานรุ่นก่อน ๆ มา “ยำ” เป็นกระสอบทรายเพื่อให้นินจารุ่นใหม่เด่นกว่านินจารุ่นเก่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเรื่องราวการต่อสู้ครั้งใหม่ยังคงความสนุกสนานไม่เปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะฉากต่อสู้ด้วยวิชานินจาในแอนิเมะที่ทำออกมาได้อย่างสวยงามและลงตัว ทำให้ตัวละครที่เคยเป็นขวัญใจได้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง นอกจากนี้การเปิดตัวตัวละครใหม่ ๆ และปมขัดแย้งในเรื่องครั้งใหม่ ก็ชวนให้แฟนมังงะไม่ว่าจะหน้าเก่าหรือหน้าใหม่ได้ตื่นเต้นไปกับการผจญภัยครั้งใหม่ไปพร้อม ๆ กัน
5. มายฮีโร่ อคาเดเมีย
ผู้เขียน Kōhei Horikoshi
ในโลกยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นฮีโร่ได้ เพราะทุกคนเกิดมาพร้อม “อัตลักษณ์” หรือพลังพิเศษ แต่ มิโดริยะ อิซึคุ เด็กหนุ่มผู้มีความฝันเดียวคืออยากจะเป็นฮีโร่ กลับเกิดมาโดยไม่มี “อัตลักษณ์” ทำให้เขาไม่สามารถใช้พลังพิเศษได้ แต่เมื่อวันหนึ่งเพื่อนของเขาถูกเหล่าร้ายเล่นงาน มิโดริยะซึ่งไม่มีแม้พลังพิเศษกลับพุ่งเข้าไปช่วยเหลือเพื่อนอย่างไม่ลังเล ทำให้ “ออลไมต์” ฮีโร่ที่เก่งที่สุดในโลกมองเห็นความพิเศษในตัวมิโดริยะ จึงช่วยเหลือและตัดสินใจให้เขาเป็นผู้สืบทอดพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเอง
เพื่อจะเรียนรู้วิธีใช้พลัง มิโดริยะ อิซึคุ จึงต้องฝึกฝนร่างกายอย่างหนักและสอบเข้าเรียนในโรงเรียน UA โรงเรียนฮีโร่อันดับหนึ่งเพื่อฝึกการใช้พลังพิเศษ ผ่านการต่อสู้ร่วมกับเพื่อนพ้องเพื่อพิสูจน์ตนเองว่าคู่ควรแก่การเป็นผู้สืบทอดพลังที่แข็งแกร่งที่สุด การผจญภัยและมิตรภาพของเด็กหนุ่มจึงเริ่มต้นขึ้น
มายฮีโร่อะคาเดเมีย ผสานเรื่องราวของชีวิตของวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเองเข้ากับมังงะต่อสู้ด้วยพลังพิเศษไว้ด้วยกันอย่างลงตัว การันตีความนิยมด้วยแอนิเมะที่ดำเนินมาจนถึงภาค 5 นอกจากนี้ยังมีการทำเดอะมูฟวี่เป็นภาคแยกออกไปอีกถึง 3 เรื่องทีเดียว ความสนุกของเรื่องนี้นอกจากผู้อ่านจะต้องลุ้นไปกับตัวเอกว่าจะพัฒนาตนเองเพื่อรองรับพลังอันยิ่งใหญ่ของ “ออลไมต์” ได้มากแค่ไหน ยังได้สนุกไปกับการต่อสู้ด้วยพลังพิเศษที่แปลกประหลาดมากมาย เช่น เหงื่อที่กลายเป็นระเบิด พลังควบคุมแรงโน้มถ่วง หรือพลังวิ่งเร็วที่ทำให้มีท่อเหมือนมอเตอร์ไซต์ออกมาจากขา การใช้พลังเทปกาวที่ดึงออกมาจากข้อศอกเพื่อจับกุมศัตรู เช่นเดียวกับ “วิลเลิร์น” หรือตัวร้ายที่มีพลังพิเศษไม่แพ้ฝ่ายตัวเอก พร้อมด้วยแผนการที่ยากจะคาดเดา แฟนมังงะสายต่อสู้ด้วยพลังพิเศษไม่ควรพลาด
6. Tokyo Revengers
ผู้เขียน Ken Wakui
จะดีแค่ไหนหากมนุษย์สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขเรื่องราวที่เคยผิดพลาดในอดีตได้ ไม่ว่าใครก็คงเคยคิดแบบนี้ เช่นเดียวกับ ฮานางากิ ทาเคมิจิ ชายหนุ่มขี้แพ้และเป็นลูกไล่ของแก๊งอันธพาลมาตลอด ซ้ำเมื่อโตขึ้น เขาเป็นลูกจ้างในร้านเช่าวิดีโอเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง และยังคงเป็นไอ้ขี้แพ้ที่พูดเป็นแต่คำว่าขอโทษ ดูเหมือนว่าชีวิตเขาคงดำเนินไปเช่นนั้นจนวันตาย หากไม่ได้ยินข่าวว่า ทาจิบานะ ฮินาตะ แฟนคนเดียวในชีวิตที่เคยคบกันตอนอยู่ ม.ต้น ถูกแก๊ง “โตเกียวมันจิไค” สมาพันธ์วายร้ายที่ตำรวจยังไม่กล้ายุ่งเกี่ยวฆ่าตาย พร้อมกันนั้นเขาพบว่าตัวเองมีความสามารถในการ “ย้อนเวลา” เพื่อไปแก้ไขอดีต และทำให้เหตุการณ์ในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้ฮินาตะรอดพ้นจากความตาย เขาจึงตัดสินใจย้อนเวลากลับไปเพื่อเปลี่ยนแปลงอดีตเมื่อย้อนเวลากลับมาในอดีต เขากลับพบว่าหัวหน้าใหญ่ของแก๊งอย่าง ซาโนะ มันจิโร่ กลับไม่ได้เป็นคนเลวอย่างที่คิด อีกทั้งแก๊งโตเกียวมันจิไคก็ไม่ใช่การรวมกลุ่มของอันธพาลหัวไม้ แต่เป็นกลุ่มของลูกผู้ชายที่มีความฝันและรักพวกพ้อง เป็นกลุ่มนักเลงอันแสนทรงเสน่ห์ ทาเคมิจิพยายามหยุดยั้งสงครามเพื่อมิให้มันจิโร่เปลี่ยนไป อันเป็นต้นตอของความชั่วร้ายในอนาคต แต่ดูเหมือนว่าความพยายามเพียงแค่นั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตที่ฮินาตะต้องตายได้ ทางเลือกเดียวที่ทาเคมิจิต้องทำคือต้องต่อสู้ฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของโตเกียวมันจิไค และค้นหาใครบางคนที่บงการอยู่เบื้องหลังเพื่อยับยั้งไม่ให้แก๊งโตเกียวมันจิไคเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มที่ชั่วร้ายให้ได้มังงะแนววัยรุ่นนักเลงมัธยมฯ ดูจะเป็นแนวเรื่องที่ล้าสมัย ทว่าโตเกียว รีเวนเจอร์ ก็ผสานความเป็นไซไฟย้อนเวลา การเปลี่ยนแปลงอดีตและอนาคต เหยาะซอสการสืบสวนสอบสวนปรุงเข้าไปอีกหน่อย เมื่อบวกเข้ากับการต่อสู้ดุเดือดเลือดพล่านแบบลูกผู้ชายก็ดูเหมือนจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว การันตีความสนุกโดยการสร้างปรากฏการณ์ขายได้กว่า 40 ล้านเล่มที่ญี่ปุ่น มาสู่แอนิเมะอันโด่งดังแห่งปีและกำลังเตรียมสร้างซีรีส์ฉบับคนแสดงเสน่ห์ของเรื่องนี้อยู่ที่การลุ้นว่าตัวเอกจะ “ลุกขึ้นสู้” เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองจาก “ไอ้ขี้แพ้” สู่อันดับหนึ่งแห่งแก๊งอันธพาลได้อย่างไร และจะแก้ไขอดีตเพื่อไม่ให้อนาคตอันน่าเศร้าเกิดขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้ตัวละครวัยรุ่นคนอื่น ๆ ก็มีคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทอย่าง “อัคคุง” ที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงอดีต หรือสองผู้ยิ่งใหญ่ของแก๊งอย่าง “ไมค์กี้” กับ “ดราเค่น” ที่ช่วยบอกเล่าวิถีความเป็น “นักเลงที่แท้จริง” แฟนมังงะที่อยากลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ ของมังงะแนวนักเลงต้องลองหยิบขึ้นมาอ่านและร่วมลุ้นไปด้วยกัน
7. มหาศึกคนชนเทพ
ผู้เขียน Shinya Umemura, Takumi Fukui และ Ajichika
ทุกพันปี เหล่าทวยเทพจากทั่วโลกจะประชุมเพื่อตัดสินชะตากรรมของมนุษยชาติว่าจะ “อยู่รอดต่อไปอีกพันปี” หรือ “สูญสิ้นเผ่าพันธุ์” ตามบัญชาของสวรรค์ และรอบพันปีนี้ก็เช่นเดียวกับทุกครั้งที่เทพมีมติให้กวาดล้างมนุษย์ให้หมดสิ้นไป ทว่า “บรุนฮิลด์” นักรบวัลคีรีครึ่งมนุษย์ครึ่งเทพกลับเสนอให้มีการจัดการต่อสู้ “แร็กนาร็อก” ศึกระหว่างมนุษย์และเทพเจ้า โดยจะจัดขึ้นแบบ 13 ต่อ 13 หากใครชนะถึง 7 ครั้งก็ถือเป็นฝ่ายชนะไป ในอดีต ไม่เคยมีใครสนใจการต่อสู้แร็กนาร็อก เพราะไม่มีวันที่มนุษย์จะมีความสามารถสู้กับเทพเจ้าได้ ทว่านักรบวัลคีรีและผู้สมคบคิดอย่างลับ ๆ กลับแอบซ่อนไม้ตายเด็ดที่จะใช้โค่นเทพเจ้าในศึกครั้งนี้
มังงะต่อสู้ที่ไม่ต้องอารัมภบทอดีตอันยาวนาน แต่ใช้พลังสูงสุดเพื่อมาห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดเลือดพล่านกันตั้งแต่หน้าแรก แถมยังขนเอาตัวละครดังจากเทพปกรณัมและฝ่ายมนุษย์มาเพียบไม้ว่าจะเป็นเทพสายฟ้าธอร์จากปกรณัมนอร์ส VS ขุนพลเทพอย่างลิโป้จากสามก๊ก ซุส เทพสายฟ้าจากกรีก VS อาดัม บรรพบุรุษแห่งมวลมนุษย์ โพไซดอน เทพแห่งท้องสมุทร VS ซาซากิ โคจิโร่ ยอดนักดาบแห่งญี่ปุ่น แถมยังมีคนดังอีกคับคั่งไม่ว่าจะเป็น อพอลโล เฮราเครส (เฮอร์คิวลิส) พระศิวะ แจ็ค เดอะริปเปอร์ จิ๋นซีฮ่องเต้ นิโคลา เทสลา หรือแม้แต่ศากยมุนี (พระพุทธเจ้า) ก็มาร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ด้วย จึงไม่แปลกที่จะมีแฟน ๆ ติดตามศึกหยุดโลกครั้งนี้อย่างไม่กะพริบตา
แม้ว่าจะมีเสียงแซวจากแฟนมังงะว่าตัวละครฝั่งมนุษย์เป็นคนญี่ปุ่นหลายคนไปหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการต่อสู้ของแต่ละคู่นั้นตื่นเต้นเร้าใจชวนให้ติดตามทุกคู่ โดยเฉพาะตัวละครฝั่งมนุษย์ที่ไม่ใช่หมูสนามให้เทพเจ้าได้ถล่มอยู่ฝ่ายเดียว แต่บางคู่ถึงขนาดที่มนุษย์พลิกชนะเทพไปได้อย่างปาฏิหาริย์จนเดาไม่ออกว่าสุดท้ายแล้วฝ่ายไหนที่จะคว้าชัยในที่สุด ส่วนแฟน ๆ แอนิเมะก็คอมเมนต์กันว่าภาพในซีซันแรกยังดูแข็ง ๆ ไม่สมกับเป็นการต่อสู้อันดุเดือดเลือดพล่านสักเท่าใดนัก แต่ด้วยรสชาติการต่อสู้ที่เข้มข้น เนื้อหาที่ผสมดราม่าเข้าไปอย่างพอเหมาะก็ทำให้ Record of Ragnarok ครองอันดับหนึ่งแอนิเมะในเน็ตฟลิกซ์ได้ในหลายสัปดาห์ที่ออกฉาย จนทำให้ซีซันสองกำลังจะออกฉายเร็ว ๆ นี้ พร้อมกับมังงะที่ดำเนินไปจนถึงคู่ของศากยมุนี (พระพุทธเจ้า) แล้ว ซึ่งรับประกันเลยว่าดุเดือดและหักมุมอย่างคาดไม่ถึง แฟน ๆ ทั้งแอนิเมะและมังงะต้องมาร่วมลุ้นไปด้วยกันว่าศึก Ragnarok ครั้งนี้จะจบลงอย่างไร
8. Shaman King
ผู้เขียน Hiroyuki Takei
สำหรับเด็กยุค 90s คงไม่เคยลืมตำนานการ์ตูนที่มีตอนจบ “ปาหมอน” อย่าง Shaman King ถึงแม้มังงะจะจบลงไปตั้งแต่ปี 2004 หรือกว่า 17 ปีแล้ว แต่ความสนุกสนานของมังงะเรื่องนี้ก็ทำให้กลายเป็นมังงะคลาสสิกที่ได้รับความนิยมตลอดกาล มีการคาดการณ์กันว่าในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 ชาแมนคิงมียอดจำหน่ายมากกว่า 38 ล้านเล่มในญี่ปุ่น และมีการประกาศว่าจะนำเรื่องนี้กลับมาสร้างแอนิเมชั่นทีวีเวอร์ชั่นใหม่ โดยนำมาฉายใน Netflix เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2021 ที่ผ่านมา ทำเอาแฟน ๆ โดยเฉพาะเด็ก ๆ ยุค 90s ได้ฟินกับภาพที่สวยงามมากขึ้น และเนื้อหาที่กระชับฉับไวด้วยข้อจำกัดของจำนวนตอนที่มีน้อยลงจากฉบับมังงะ
ชาแมน คิง เป็นเรื่องราวของอาซาคุระ โย ผู้มีสายเลือดพิเศษของ “ชาแมน” หรือคนทรงวิญญาณ เขาเก็บรวบรวมวิญญาณเพื่อพัฒนาฝีมือตนเองให้เป็นชาแมนที่เก่งกาจ ในการเดินทางเพื่อรวบรวมวิญญาณ เขาได้พบกับคู่ต่อสู้มากมายซึ่งภายหลังก็กลายมาเป็นสหายร่วมรบ วันหนึ่งโชคชะตาของโยก็เปลี่ยนแปลงไป เมื่อเกิด “ชาแมนไฟต์” ศึกการต่อสู้ของชาแมนทั่วโลกที่เกิดขึ้นทุก 500 ปี เพื่อเป็น “ชาแมนคิง” คนทรงแห่ง “เกรทสปิริต” วิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก แต่การก้าวไปสู่จุดสูงสุดของชาแมนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ “ชาแมนคิง” มีได้เพียงคนเดียว ซึ่งคู่แข่งของโยไม่ได้มีแค่ศัตรูอีกนับร้อย แต่ยังรวมถึงเพื่อนสนิทและสหายร่วมรบอย่าง เต๋า เร็น หรือ โฮโรโฮโร ซ้ำอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ ฮาโอ ชาแมนที่ทรงพลังที่สุดในการแข่งขัน ซึ่งเกิดจากการสะสมพลังมากว่าพันปี
แม้ว่าในอดีตชาแมนคิงก็เคยทำเป็นแอนิเมะมาแล้ว แต่เนื้อหาในช่วงกลางเรื่องและตอนจบก็เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก ทว่าสำหรับทั้งแฟนมังงะและแฟนแอนิเมะต่างก็คอมเมนต์ว่ายังเป็นตอนจบที่ไม่ได้สมบูรณ์มากนัก ทว่าในเวอร์ชั่น Remake ของปี 2021 นี้ ผู้สร้างประกาศว่าจะปรับเนื้อเรื่องให้สอดคล้องกับมังงะ และสิ่งสำคัญที่สุดที่แฟน ๆ ชาแมนคิงอยากจะเห็นคือ ตอนจบที่สมบูรณ์อย่างที่ผู้เขียนได้ตั้งใจเอาไว้ บรรดาแฟนทั้งหลายก็ได้แต่หวังว่าเมื่อเรื่องราวดำเนินถึงซีซันสุดท้ายจะได้ตายตาหลับกับมังงะในดวงใจเรื่องนี้เสียทีนะ
9. พ่อบ้านสุดเก๋า
ผู้เขียน Kousuke Oono
เปลี่ยนอารมณ์มาที่มังงะแนวตลกหน้าตายกันบ้างกับเรื่อง The Way of the Househusband หรือ “พ่อบ้านสุดเก๋า” เล่าถึงทัตสึ หัวหน้าแก๊งยากูซ่าผู้เป็นตำนาน เขาสามารถต่อสู้ด้วยมือเปล่าและกวาดล้างแก๊งของศัตรูจนได้รับฉายาว่า "ทัตสึคนอมตะ" แต่จู่ๆ เขาหายไปจากวงการยากูซ่า เมื่อมีลูกน้องมาพบอีกที เขากลับเปลี่ยนไปทำอาชีพที่ไม่มีใครคาดถึง นั่นคือ "พ่อบ้านฟูลไทม์"
แต่อย่าเพิ่งดูถูกอาชีพพ่อบ้านไป เพราะเรื่องง่ายๆ อย่างการจับจ่ายใช้สอยในตลาด ศึกชิงของเซลล์ลดราคาในห้าง การทำอาหารอร่อย ๆ ให้ภรรยารับประทาน การทำความสะอาดบ้าน เลี้ยงดูแมวและเด็กข้างบ้านชั่วคราว ฟังดูเหมือนใครก็ทำได้ แต่พ่อบ้านระดับ "ทัตสึ คนอมตะ" สิ่งที่เขาทำมันจะต้องเป็นตำนานเท่านั้น! ไม่เชื่อก็ลองถาม “มาสะ” อดีตลูกน้องในพรรคของทัตสึที่มาพบพ่อบ้านฟูลไทม์และมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระในตอนแรก แต่ไม่นานเขาก็ได้ติดตามลูกพี่และได้เรียนเรียนรู้วิถีพ่อบ้านที่แท้จริงในที่สุด
The Way of the Househusband คือมังงะตลกสุดกวนที่กลายมาเป็นแอนิเมะสุดฮิตในเน็ตฟลิกซ์ เอาแค่ภาพของยากูซ่าขาโหดผูกผ้ากันเปื้อนชิบะสุดคิ้วต์ กับการบรรจงทำข้าวกล่องลายน่ารักให้ศรีภรรยาสุดที่รักก็เป็นภาพที่คอนทราสต์ชวนฮาแล้ว แต่แถมด้วยมุกตลกหน้าตายของพระเอก การใช้คำศัพท์แบบยากูซ่าที่ชวนให้สะดุ้งและฮาไปพร้อมกัน เช่นการเรียกแป้งสาลีว่าผงขาวซะอย่างนั้น แม้ว่าแฟน ๆ มังงะจะแซวกันว่าภาพในแอนิเมะนั้นดูแข็ง ๆ ทื่อ ๆ เหมือนกำลังดูมังงะที่มีเสียงอ่านประกอบ แต่ตัวผู้กำกับเองยืนยันว่าเขาทำตามเจตนารมณ์ของผู้สร้างว่าอยากให้แอนิเมะใกล้เคียงกับต้นฉบับมังงะมากที่สุด ก็เลยออกมาเป็นภาพแข็ง ๆ เหมือนการอ่านการ์ตูน (ฮา) แต่ด้วยเนื้อเรื่องที่แสนสนุกก็ทำให้มียอดผู้ชมเรื่องนี้จำนวนไม่น้อย สำหรับในประเทศไทยนั้น การันตีความสนุกด้วยการก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 คอนเทนต์ยอดนิยมในประเทศไทยตั้งแต่สัปดาห์แรกที่เข้าฉาย รับรองว่าโดนใจแฟน ๆ มังงะสายฮาอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรบ้างกับมังงะหลากเรื่องหลายรสทั้ง 9 ชุดที่ TK Park คัดสรรมาให้ได้ลองอ่าน หลายเรื่องมีให้บริการอ่านในห้องสมุดของ TK Park และยังมีอีบุ๊คในแอปพลิเคชัน Libby By OverDrive ด้วยนะ ชาวแอนิเมะที่ติดใจเรื่องราวเรื่องไหนก็สามารถมายืมอ่านเพื่อติดตามเนื้อเรื่องสุดแสนจะเร้าใจตอนต่อไปของมังงะเหล่านี้ได้ รับรองได้ว่ารสชาติจากการอ่านมังงะนั้นสนุกสนานไม่แพ้กับการดูแอนิเมะเลย อ่านจบแล้วก็อย่าลืมมาพูดคุยแลกเปลี่ยนความสนุกนี้กับพวกเรานะ