
เคยสงสัยไหม เมื่อชีวิตสู่อีกช่วงวัยหนึ่ง จู่ๆ ก็ไม่รู้ว่าควรจะก้าวเดินต่อไปอย่างไร วัยรุ่นเกิดความกังวล ไม่รู้ว่าคณะที่เลือกเรียนจะใช่ตัวเราหรือไม่ หรือผู้ใหญ่ที่เกิดจุดเปลี่ยนของชีวิต กลับไม่รู้จะหาวิธีรับมืออย่างไร
ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็พบเจอความสับสนของชีวิตได้ กิจกรรม ‘TK Park เปิดตำราวิชา แนะให้แนว ตอน Question Me? ให้คำถามช่วยเราตามหาตัวตน’ ที่ชวนคนจากสายอาชีพต่างๆ มาพูดคุยให้คำแนะนำเรื่องอาชีพไปจนถึงมุมมองการใช้ชีวิต
งานนี้เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้พูดคุยกับคนทำงานจริง ได้แลกเปลี่ยนวิธีเตรียมตัวสอบเข้าคณะที่ชอบเพื่อทำงานที่ใช่ บางคำถามทำให้เห็นเลยว่า น้องๆ ยังให้ความสนใจกับภาพชีวิตที่ได้ทำอาชีพนั้นๆ แล้ว ชีวิตจะเป็นอย่างไรต่อไป
มีผู้ใหญ่ ผู้ปกครองที่นำความสับสนเข้ามาพูดคุยในกิจกรรมแนะให้แนวด้วยคำถามที่ว่า ‘งานของคุณช่วยให้มีวิธีการมองปัญหานั้นๆ แล้วจัดการกับมันอย่างไร’ การแลกเปลี่ยนที่ค่อยๆ เผยรอยยิ้ม ก็พอเดาได้ว่าคงจะเจอคำตอบที่ใช่แล้ว
ด้านหน้างานมีกระดานให้ผู้คนได้เขียนโพสอินแชร์ความรู้สึก ในหัวข้อ ‘แบ่งปันวิธีดูแลใจสไตล์ฉัน?’ ‘ความกลัวหรือข้อกังวลเกี่ยวกับชีวิตที่ฟุ้งอยู่ในหัวของฉันตอนนี้มีอะไรบ้าง’ น้องๆ นักเรียนสนุกที่ได้แชร์ไอเดีย การยืนอ่านโพสอินแต่ละใบทำให้เราได้พูดคุยกับคนใหม่ๆ ต่างวัยและวัยเดียวกัน พาให้เกิดไอเดียการมองชีวิตใหม่ๆ มากมายเหลือเกิน
ดร.เพิ่มสิทธิ์ นำประสิทธิพล หรือ ปัง ผู้ก่อตั้ง Modular Consulting นักจิตวิทยาการปรึกษา และ Official Licensee, Designing Your Life เขานำแนวคิด Design Thinking จากหนังสือ ‘Designing Your Life’ เขียนโดยBill Burnett และ Dave Evans มาจัดเวิร์กช้อปชวนทำความรู้จักตัวเองผ่านการตั้งคำถาม และการออกแบบชีวิตเพื่อออกไปลงมือทำ ภายใต้ความเข้าใจว่า ชีวิตเรามีทางเลือกได้หลายแบบ ไม่ใช่แค่ด้านเดียว
ก่อนไปออกแบบชีวิต ชวนมาทำความเข้าใจเรื่องตัวตนและการเรียนรู้ที่จะตั้งคำถามไปด้วยกัน

“เราโตเป็นไปอะไรได้บ้าง เป็นคำถามที่เราถามตัวเองได้ตลอดชีวิต เพราะมนุษย์เราเปลี่ยนแปลงได้ทุกคน” แต่ละคนมีมุมมองต่อการมองสิ่งหนึ่งไม่เหมือนกัน เราจะค้นพบตัวตนเราก็ต่อเมื่อมองเห็นสิ่งๆ นั้นเป็นเรื่องสำคัญ
“สมมติว่าเราอยากเป็นนักดนตรี แต่พ่อแม่อาจมีข้อแม้ว่าต้องเข้าเรียนวิศวะให้ได้ก่อน ณ เวลานั้นเราก็ต้องเกลี่ยเวลาไปทางวิศวะ พอเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วก็อาจจะลองดูว่าทำยังไงให้ตัวเราพอจะเล่นดนตรีได้บ้าง บางคนใกล้จะเรียนจบ เกิดอยากรู้ว่า จบมาแล้วฉันจะทำงานอะไรได้บ้าง สิ่งที่ทำในเวลานั้นจะบ่งบอกตัวตนเรา”
แม้ในวันนี้จะยังไม่เจอความเป็นเราก็ไม่เป็นไร สิ่งที่จะช่วยได้อาจเริ่มจากการลองตั้งคำถามง่ายๆ กับตัวเองดูก็ได้

มนุษย์เรามีการปรับตัวที่ง่ายกว่าที่คิด สังเกตได้จากสิ่งรอบข้างหรือการพัฒนาของโลกที่หมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่มนุษย์ก็พร้อมเปลี่ยนเพื่อให้ทันโลกอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม หากมองในเรื่องของการเปลี่ยนแปลง เราเคยสงสัยไหมว่า เหตุใดโลกจึงพัฒนาอยู่ตลอดเวลา…?
ถ้าไม่ตั้งคำถามก็คงไม่เจอคำตอบ เพราะการตั้งข้อสงสัยคือตัวแปรสำคัญที่ผลักดันให้มนุษย์มีพัฒนาการที่ก้าวไกลไปจนถึงการสร้างสิ่งใหม่ๆ ขอย้อนกลับไปยุคสมัยที่ผู้คนนิยมใช้มือถือแบบปุ่มกด ถามใครออกไปว่าใช้ดีไหม โทร.ลำบากไหม คนส่วนใหญ่คงตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘สบายมาก โทร.หาใครก็สะดวก’
“แต่จะมีคนกลุ่มเล็กๆ ที่ชอบ เอ๊ะ หรือยังไม่โอเคกับสิ่งที่มีอยู่ ทำไมมือถือทำได้แค่โทร.อย่างเดียว ทำไมฉันต้องพกทั้งกล้อง ทั้งมือถือ ทั้งวิทยุ มันรวมอยู่ในเครื่องเดียวกันไม่ได้เหรอ” การเริ่มต้นด้วย ‘เอ๊ะ’ กับเรื่องรอบตัวจะนำพาไปสู่การริเริ่มไอเดียที่ดี ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี สิ่งอำนวยความสะดวกถูกพัฒนาอยู่ตลอด ก็ล้วนมาจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ทั้งนั้น ข้อดีสำคัญอีกข้อก็คือ เมื่อเกิดคำถาม เราจะพบเห็นตัวเองในมุมใหม่ๆ มากขึ้น

การตั้งคำถามคือทักษะที่มนุษย์สามารถฝึกฝนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ก่อน เช่น มองปัญหารอบตัว แล้วลองดูว่าเราแก้ไขหรือสามารถทำอะไรกับมันได้บ้าง การเสพข่าวสารรายวันจากสื่อโซเชียลก็ช่วยได้เช่นกัน เรื่องไหนที่สะกิดใจ ก็ลองตั้งข้อคำถามจากความรู้สึกนั้นๆ ดู และให้คำตอบนำทางเราไปพบเจอเรื่องใหม่ๆ สิ่งที่ตกตะกอนได้จะช่วยให้เราเจอสิ่งที่รักและมองเห็นตัวเองได้มากขึ้น
ปังขออธิบายเพิ่มว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งคำถามตลอดเวลา ขอแค่รับรู้ไว้ว่าตัวเราต้องการอะไร อยากทำอะไรให้ได้ดี หรือง่ายๆ เลย ความสุขของเราคืออะไร แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นการทำความรู้จักกับตัวตนของเรา ได้แล้วล่ะ

● Odyssey Plan แพลนชีวิต แผนเยอะเท่าไหร่ยิ่งเจอตัวเองเร็วเท่านั้น
Design Thinking เป็นแนวคิดที่ Bill Burnett และ Dave Evans นำมาเป็นหลักสูตรการสอนวิชา Design Your Life หรือการรู้จักคิดในมุมของนักออกแบบ เพื่อตั้งคำถามจากการสังเกตอารมณ์ ปัญหา ความชอบของตัวเรา นำไปสู่การเรียนรู้มุมมองใหม่ๆ และการตระหนักรู้ได้ว่าข้างในตัวเรากำลังประสบพบเจอกับอะไร จะแก้ไขอย่างไร ไปจนถึงพบหลักการในชีวิตของเรา
เพราะเส้นทางชีวิตเราเป็นได้หลายอย่าง ปังหยิบบทเรียนจาก Designing Your Life หรือก็คือ Odyssey Plan การออกแบบแผนชีวิตในระยะเวลา 5 ปี ที่แบ่งออกเป็น 3 แผน เขียนผ่านตาราง 5 ช่องตามจำนวนปี (เขียนเองหรือจะดาวน์โหลดตารางแผนได้ที่เว็บไซต์ designingyour.life หรือ DYL_ODYSSEY-PLANNING-WORKSHEET.pdf )
แผนชีวิตที่ 1 : วางแผนเชิงตรรกะ จากชีวิตปัจจุบันของเรา ทั้งชีวิตส่วนตัว ชีวิตการเรียนหรือการทำงาน ใส่มุมมองการอยากใช้ชีวิตใน 5 ปีข้างหน้าลงไป
แผนชีวิตที่ 2 : แผนสำรอง ถ้างานหรือสิ่งที่อยากเรียน แผนชีวิตแบบแรกหายไปจากโลกนี้ เราอยากจะทำอะไร แบบแผนนี้อาจจะมาจากความสนใจลึกๆ ที่สามารถต่อยอดเป็นสิ่งที่จะทำได้ในอนาคต
แผนชีวิตที่ 3 : ถ้าเรื่องเงินไม่ใช่ประเด็นหลัก เราอยากทำอะไร โฟกัสที่ตัวเราโดยไม่ต้องคำนึงเรื่องอื่น เขียนเพื่อให้เราได้ค้นพบสิ่งที่ชอบ เราอาจพบเจอความสนใจอื่นที่ไม่เคยนึกมาก่อนเลยก็ได้
จากนั้นนำแบบแผนชีวิตทั้ง 3 แบบมารวมกัน กรองหาไอเดีย ตัดบางอย่างที่ไม่ต้องการออก เพื่อให้ออกมาเป็น ‘Prototype’ หรือ ตัวต้นแบบชีวิตของเรา แล้วทดลองลงมือทำด้วยหลักการ 2 อย่าง คือ การเข้าไปคุยกับคนต้นแบบที่เราสนใจ (Conversation Based) และ การลองทำสิ่งที่สนใจ (Experience Based)

Conversation Based จะต้อง Networking หรือเข้าหาคนอื่นให้ถูกคนด้วย ทั้งนี้ เมื่อมีโอกาสได้เข้าไปพูดคุยกับคนที่เรียนในคณะที่สนใจ หรือทำสิ่งที่เรากำลังมองหา ปังอยากให้ ‘ถาม’ เพื่อให้เราเกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ และการลงมือทำมากๆ เพื่อประเมินดูว่า Prototype นี้ ได้ผลดีกับเรา และสามารถเป็นแผนชีวิตที่เราจะอยู่กับมันไปตลอดได้หรือเปล่า
ถอดบทเรียนไปกับ ดร. พี่ปังแล้ว เราก็หวังว่า เพื่อนๆ จะพบเจอคำถามที่น่าสนใจสำหรับตัวเอง และมีวิธีเอาคำถามเหล่านั้นมาพลิกให้เป็นการลงมือทำไเพื่อค้นพบเส้นทางที่ใช่สำหรับตัวเอง