พับไปเล่าไป
พับไปเล่าไป : “โอริกามิ” กระดาษแผ่นเดียวก็เล่าเรื่องได้
อุทยานการเรียนรู้ TK park นำกิจกรรมสร้างสรรค์ดีๆ มามอบให้กับน้องๆ และ ครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้วยการเรียนรู้ศาสตร์การพับกระดาษของญี่ปุ่น “โอริกามิ” แบบง่ายๆ แถมยังเล่าเป็นเรื่องเป็นราวได้ในแบบ “พับไปเล่าไป” โดยได้รับเกียรติจาก พี่ปอม - เอกสิทธิ์ เข้มงวด เซียนนักพับกระดาษมือหนึ่งของเมืองไทย ผู้ก่อตั้งชมรมนักพับกระดาษไทย หรือ Thai Origami Club
ก่อนที่ พี่ปอม จะเริ่มสอนการพับกระดาษ ก็มีการเล่าถึงที่มาของโอริกามิเบื้องต้นว่า แต่ก่อนศิลปะการพับกระดาษนั้นเป็นของคนชนชั้นสูง เพราะกระดาษในสมัยนั้นยังหายากอยู่ จนกระทั่งกระดาษเริ่มมีราคาถูกลง จึงทำให้การพับกระดาษแพร่หลายมากขึ้น จนเกิดแบบพับกระดาษเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ถึงช่วงเริ่มสอนพับกระดาษพี่ปอม ก็ไม่ได้สอนพับแบบธรรมดา แต่ยังเล่านิทานร่วมไปกับขั้นตอนการพับกระดาษอีกด้วยทำให้ทุกคนจำวิธีพับได้ง่ายขึ้น โดย พี่ปอม เตรียมนิทานมาทั้งหมด 5 เรื่อง เมื่อเล่าจบก็จะพับกระดาษเสร็จหนึ่งแบบพอดี มีทั้งแบบหัวใจ เรือ เสื้อ จนไปถึงแบบยากๆ อย่าง นกกระเรียน หรือ กลุ่มดาว 7 ดวง แต่ยากแค่ไหนก็ไม่เกินความสามารถของทุกคนที่ตั้งอกตั้งใจพับกระดาษตามทีละขั้นตอน และในช่วงสุดท้ายก็ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมโชว์ฝีมือการพับกระดาษพร้อมเล่าเรื่องในแบบของตัวเองพร้อมรับของรางวัลสุดพิเศษจาก พี่ปอม เรียกได้ว่าเพลิดเพลินกันจนเวลาล่วงเลยโดยไม่รู้ตัว
หลังจากการสอนพับกระดาษ เราชวน พี่ปอม มานั่งพูดคุยถึงแรงบันดาลใจและประโยชน์ของการพับกระดาษที่มีมากกว่าเพื่อความสวยงาม
จุดเริ่มต้นของการพับกระดาษ
พี่ปอมปอม เล่าว่าเริ่มจากการอยากทำของเล่นเอาไว้เล่นเอง เพราะแต่ก่อนฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก บวกกับคุณแม่ทำงานที่ Japan Foundation คุณแม่จึงแนะนำให้ได้รู้จักโอริกามิ เลยผูกพันมาตั้งแต่เด็กๆ
“สิ่งหนึ่งที่ทำให้พยายามพับต่อไปเรื่อยๆ คือ ช่วงแรกคนดูไม่ออกว่าเราพับอะไร ก็เลยพยายามพับมาโดยตลอด ศึกษาจากหนังสือญี่ปุ่น หรือคลิปวีดีโอ ซึ่งก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับมือใหม่”
ผลงานที่ภูมิใจ
“ก็คงจะเป็นองค์พระพิฆเนศที่คิดแบบขึ้นมาเอง ลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้งก็เสร็จสมบูรณ์ตามแบบที่คิดไว้”
ประโยชน์ของการพับกระดาษที่มากกว่าการพับเพื่อความสวยงาม
พี่ปอมตอบว่า การพับกระดาษนั้นจะช่วยสร้างสร้างและพัฒนาสมองทั้งสองซีกไปพร้อมๆ กันเนื่องจากต้องใช้มือทั้งสองข้างช่วยกันในการพับ เสริมสร้างสมาธิให้กับเด็กๆ อีกทั้งทำให้เด็กรู้จักกับความภาคภูมิใจเมื่อพับสำเร็จ
“อันที่จริงศิลปะการพับกระดาษไม่ได้ใช้แค่ศาสตร์ทางศิลปะเท่านั้น แต่ก็ผูกโยงไปกับเรื่องเรขาคณิต หากคนที่ฝึกทำสามารถพัฒนาไปอีกขั้นได้ สามารถออกแบบเองได้ ก็จะสามารถนำทักษะนี้ไปใช้ได้ในหลายๆ วงการ อย่างทุกวันนี้ศิลปะการพับกระดาษแพร่หลายเข้าไปในวงการออกแบบผลิตภัณฑ์ หีบห่อ หรือแม้กระทั่งวงการแฟชั่น และ จิลเวอร์รี่ ขอเพียงอย่างเดียวว่าคนที่อยากจะพับเก่งๆ จะต้องทุ่มเทและจดจ่ออยู่กับมันตลอด” พี่ปอมกล่าวทิ้งท้ายเติมไฟให้กับทุกคนที่มีฝันและสนใจในศาสตร์งานฝีมือที่ละเอียดอ่อนอย่างการพับกระดาษโอริกามิ ขอแค่ใจสู้และสนุกไปกับมัน
ธีรภัทร์ เจนใจ
