ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล ผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) สังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดงาน 6th Anniversary TK park Learning Society, Ready to continue “ร่วมขับเคลื่อนการเรียนรู้ สู่สังคมไทย” ครั้งนี้ว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน จนถึงเดือนธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา พื้นที่ตั้งของอุทยานการเรียนรู้ต้นแบบ หรือ TK park ณ บริเวณชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ จำเป็นจะต้องหยุดให้บริการชั่วคราว อันเป็นผลจากสถานการณ์ความไม่สงบ แต่เจ้าหน้าที่ สอร. ยังคงเดินหน้าผลักดันภารกิจห้องสมุดมีชีวิต และแหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์ของสังคมไทยต่อไป
ทันทีที่เหตุการณ์คลี่คลาย TK park ได้จัด มินิ ทีเค (Mini TK) หรืออุทยานการเรียนรู้ขยาดย่อมขึ้นบริเวณชั้น G อาคารสำนักงานเซ็นทรัลเวิลด์ พื้นที่ประมาณ 250 ตารางเมตร เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ชั่วคราวภายใต้คำขวัญ Mini TK…Size doesn’t Matter โดยเริ่มเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 23 ก.ค. จนถึง 11 ธ.ค. 2553 เพื่อให้บริการแก่สมาชิก และนักอ่านทุกเพศทุกวัย แต่เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมได้เต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของห้องเด็ก ในขณะเดียวกัน TK park ก็ได้เร่งปรับปรุงซ่อมแซมพื้นที่บริเวณชั้น 8 เนื่องจากได้รับความเสียหายเนื่องจากเขม่าควันไฟ ความร้อน และน้ำจากหัวฉีดดับเพลิงนิรภัย อันเป็นผลมาจากเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
การกลับมาครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาให้บริการอย่างเต็มรูปแบบภายใต้บรรยากาศผ่อนคลาย สดใส สบายตา และสนุกสนานร่วมกัน กับกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบ และเคยสร้างความประทับใจให้กับสมาชิกและผู้ใช้บริการมาแล้ว พร้อมกับกิจกรรมใหม่ๆ
อาทิ “ห้องเด็ก” ที่มีบริการรูปแบบใหม่ ทั้งของเล่นเพื่อการเรียนรู้ และการพัฒนาการของเด็ก รวมทั้งการจัดให้มีคู่มือของเล่นสำหรับพ่อ แม่ และผู้ปกครอง เพื่อให้รู้ว่าของเล่นชนิดไหนเหมาะสมกับเด็ก และช่วยส่งเสริมการพัฒนาการทางด้านไหนบ้าง ที่สำคัญคือ เน้นการมีส่วนร่วม ด้วยการให้พ่อ แม่ เล่นกับเด็กด้วย เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อแนวทางการเลือกซื้อของเล่นให้กับผู้ปกครอง
“การฉลอง 6 ปีครั้งนี้ จึงพิเศษกว่าปีที่ผ่านมา เพราะถือเป็นการกลับมาเปิดให้บริการ TK park อีกครั้ง โดยในการจัดงานครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก ดร.ณรงค์ชัย อัครเศรณี ประธานคณะกรรมการบริหาร สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) มาเป็นประธาน พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ แหล่งเรียนรู้สร้างสรรค์สังคมไทย” ดร.ทัศนัย กล่าว
สำหรับกิจกรรมภายในงานช่วงเช้าจะมีการเสวนาในหัวข้อ “TK park กับการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ในท้องถิ่น” และในช่วงบ่ายเป็นการเสวนาในหัวข้อ “6 ปี TK park เล่าผ่าน 6 มุมมองของสังคม”, ชมการแสดงรำโนราห์ของเยาวชนจากอุทยานการเรียนรู้ภูมิภาค จังหวัดยะลา, กิจกรรม “อ่านแล้วม่วนอ๊ก ม่วนใจ๋” ของน้องๆ จากศูนย์การเรียนรู้ปัทมะเสวี จังหวัดลำปาง นอกจากนี้ ยังมีการแสดงผลงานจากเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถ อาทิ หนูน้อยนักเล่านิทาน กับกิจกรรมเล่านิทานเพลง, การแสดงดนตรีของวง TK Band, การแสดงดนตรี “รวมพลคนรักดนตรี” (ประเภทแจ๊ส, ประเภทเครื่องเป่า), Mini Concert จากวง Playground และอีกกิจกรรมการเสวนา “ReadCamp” รวมถึงการแสดงจากภาคีพันธมิตร อาทิ การแสดงละครเวทีฝีมือเยาวชนในโครงการละครเพื่อการเปลี่ยนแปลงจากสำนักงานกอง ทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม), การแสดงละครใบ้ Pantomime กระตุ้นต่อมจินตนาการ, การแสดง Puppet หุ่นสายเคลื่อนไหว เล่าเรื่องราวผ่านสิบนิ้ว, การแสดง Diabolo หมุนเหินเวหา และการจัด Workshop ให้เด็กๆ ได้เล่นสนุกอีกมากมาย
ผอ.สอร. กล่าวอีกว่า ภายในงานมีการเปิดตัวสื่อดิจิตอลหนึ่งเดียวของไทย ชุด “ขุมทรัพย์ของแผ่นดิน” เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการอ่านการเรียนรู้สำหรับทุกเพศทุกวัยในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-book) ผ่านจอ LED ขนาด 55 นิ้ว ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างกรมศิลปากร และสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) ซึ่ง e-book ชุด “ขุมทรัพย์ของแผ่นดิน” เป็นการรวบรวมผลงานทรงคุณค่าของแผ่นดิน จากหนังสือและเอกสารหายากที่อยู่ในความดูแลของสำนักหอสมุดแห่งชาติ และสำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ มาจัดทำเป็น e-book โดยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ที่จะช่วยให้การนำเสนอข้อมูลหนังสือ และเอกสารจดหมายเหตุให้ทันสมัย เข้าถึงและสะดวกต่อกลุ่มคนรุ่นใหม่ ภายใต้กระแสแท็บเล็ตที่หันมาสนใจอ่านหนังสือออนไลน์มากขึ้น ปัจจุบันมีผลงานที่จัดทำแล้วเสร็จจำนวน 17 เล่ม
TK e–Directory เป็นการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ของ TK park ด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแนะนำการให้บริการในเรื่องของพื้นที่ภายในบริเวณอุทยานการเรียนรู้ การบริการส่งเสริมการอ่าน ตลอดจนข่าวสารกิจกรรมความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายต่างๆ ในรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
พร้อมกันนี้ TK park จะทำการถ่ายทอดสดกิจกรรม การแสดงและการเสวนาผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้สมาชิกหรือผู้ปกครองที่ไม่สามารถมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ สามารถติดตามดูกิจกรรมต่างๆ หรือการแสดงของลูกหลานได้ที่บ้านหรือที่ทำงานทันทีผ่าน www.tkpark.or.th ถือเป็นการเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ และเพื่อเป็นการร่วมฉลอง 6 ปี และการก้าวสู่ปีที่ 7 ทาง TK park ได้จัด โปรโมชั่นพิเศษ สำหรับผู้ที่มาสมัครเป็นสมาชิกในวันที่ 21-23 มกราคมนี้ สามารถมาสมัครเป็นสมาชิกได้...ฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
แนวทางการดำเนินงานในปี 2554 ผอ.สอร. กล่าวว่า นอกจากกิจกรรมและโครงการที่ยังคงดำเนินการต่อเนื่องจากปี 2553 แล้ว ในปี 2554 นี้ สอร. ยังมีโครงการและกิจกรรมต่างๆ ที่พร้อมจะขับเคลื่อนต่อยอดการพัฒนาความรู้สู่สังคมต่อไป อาทิ โครงการความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานต่อยอดความ สำเร็จจากโครงการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตต้นแบบในโรงเรียน โดยจัดทำโครงการจุดประกายการเรียนรู้ในโรงเรียน เพื่อพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตในโรงเรียนเพิ่มอีก 50 แห่ง และขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังโรงเรียนดีประจำตำบลอีกอย่างน้อย 182 แห่ง
นอกจากนี้ ยังต่อยอดแนวคิดจิตอาสา ด้วยการจัดทำโครงการ “วีรกรรมสร้างเด็กไทยให้เป็นนักอ่าน” โดยจัดเสวนาและอบรมเชิงปฏิบัติการบนพื้นฐานการทำกิจกรรมแบบจิตอาสา เพื่อกระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกสาธารณะ คาดหวังว่าเยาวชนที่ผ่านกระบวนการอบรม จะสามารถสานต่อสร้างเครือข่ายเยาวชนจิตอาสาขึ้นมา ทั้งในโลกออฟไลน์และออนไลน์ โดยใช้สื่อ Social Media เป็นตัวเชื่อมโยง
การจัดทำคู่มือการจัดการเรียนรู้สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ, การเตรียมงานวิจัยใหม่ เรื่องการวิจัยเพื่อพัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดมีชีวิต รูปแบบอุทยานการเรียนรู้, การต่อยอดการพัฒนาศักยภาพเยาวชนที่ได้รับการบ่มเพาะจากการอบรมทักษะด้านต่างๆ ในโครงการ TK แจ้งเกิด มุ่งให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงานคุณภาพเพื่อนำเสนอหรือประกวดสู่เวทีระดับประเทศหรือนานาชาติต่อไป
อย่างไรก็ตาม สอร. ยังมีแผนการพัฒนาและส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านสื่อดิจิตอลมากขึ้น โดยจะขยายบทบาทและให้ความสำคัญกั[เว็บไซต์ www.tkpark.or.th ให้มีเนื้อหาสาระเพิ่มขึ้น, “TV-TK” จัดให้มีการถ่ายทอดสดกิจกรรมทุกครั้งที่จัดผ่านเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการนำเสนอเนื้อหาให้มีความน่าสนใจ และตอบสนองพฤติกรรมการแสวงหาความรู้ของกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
สำหรับการขยายผลภูมิภาค TK park ยังคงมุ่งมั่นและถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านบริหารจัดการห้องสมุดมีชีวิต ซึ่งคาดว่าในปี 2554 จะมีแหล่งเรียนรู้ภูมิภาคในโครงการความร่วมมือกับท้องถิ่นเปิดให้บริการ เพิ่มขึ้นอีก 3 แห่ง คือ จังหวัดตราด, จังหวัดสมุทรสาคร และจังหวัดปราจีนบุรี
กิจกรรมห้องสมุดเคลื่อนที่ หรือหนังสือเดินเท้า เรื่องเล่าเดินทาง (TK Mobile Library) เป็นการจัดกิจกรรมนอกสถานที่ จะมีการปรับรูปแบบและเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองกับเด็ก โดยเพิ่มเนื้อหาการพัฒนาด้านสมองแก่เด็กและเยาวชนมากขึ้น เพื่อการพัฒนาเด็กตามแนวคิด Brain-based Learning (BBL) โดยจะลงพื้นที่ให้ครอบคลุมทั้งสวนสาธารณะ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และโรงเรียน
ทั้งนี้ TK park ยังมีแนวทางการดำเนินงานเพื่อกระตุ้นส่งเสริมและปลูกฝังนิสัยรักการอ่านอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง ให้พร้อมกับที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเป็นสมาชิกของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในอีก 5 ปีข้างหน้า TK park เล็งเห็นความสำคัญในการเตรียมความพร้อม โดยปูพื้นฐานความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และภาษาของประเทศเพื่อนบ้าน ให้แก่เด็กและเยาวชนมากขึ้น ซึ่งเริ่มกิจกรรมแรกเมื่อวันเด็กที่ผ่านมาในหัวข้อ “สนุก เล่น เห็นโลกกว้าง ตอน ท่องแดนนานาชาติ”
นอกจากนี้ TK park ยังมีโครงการจัดประชุมวิชาการประจำปี 2554 (Thailand Reading Symposium 2011) ซึ่งจะถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการยกระดับการจัดงานสัมมนาวิชาการ เพื่อสานต่อการผลักดันเชิงนโยบายการอ่านของประเทศ ภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้เป็นการประชุมนำร่อง ก่อนนำไปสู่ความร่วมมือด้านการส่งเสริมการอ่านระหว่างประเทศไทย กับกลุ่มประเทศอาเซียนในอนาคต ภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Community) ที่จะมีขึ้นในปี 2558
ผอ.สอร. กล่าวทิ้งท้ายว่า ในโอกาสที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ในปี 2554 นี้ อุทยานการเรียนรู้ TK park พร้อมจะขับเคลื่อนต่อยอดความรู้สู่สังคม ซึ่งส่งผลทำให้เกิดการอ่าน การเรียนรู้ ผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆ ที่จะทำให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ต่อไป