12 เล่มสุดรักของ ใบเฟิร์น-อัญชสา
ทีมชีวิตติดซีรีส์น่าจะคุ้นเคยกับสาวยิ้มสวยโลกสดใสอย่าง ‘ใบเฟิร์น-อัญชสา มงคลสมัย’ จากบทบาทหลากหลายในละครและซีรีส์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล, เล่ห์รตี, เสน่หา Diary, ภูตพิศวาส, โสด Stories และรักแลกภพ ซึ่งอีกมุมหนึ่งของสาวคนนี้ที่นอกเหนือไปจากก็การเป็นนักแสดงมากฝีมือ คือการเป็นคนชอบแสวงหาสิ่งใหม่ๆ และเรียนรู้โลกในแง่มุมต่างๆ ผ่านการท่องเที่ยว การถ่ายรูป รวมไปถึงการเขียนและอ่านหนังสือ ซึ่งเธอก็ได้เผยแง่มุมนี้ให้เราเห็นกันมาบ้างแล้วผ่านเพจ ‘Bivoyage - ใบบันทึกเดินทาง’ ที่เธอพาเราไปท่องเที่ยวผ่านภาพสวยๆ และการแบ่งปันเรื่องราวผ่านตัวอักษร
แล้วการอ่านช่วยเปิดโลกกว้างและทำให้เธอได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างไรได้บ้าง ล้อมวงเข้ามาฟังใบเฟิร์นเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ 12 เล่มโปรดที่พาเธอไปสำรวจทั้งโลกในจินตนาการและโลกทั้งใบของเธอกันเลย
Harry Potter
“เราไม่เคยคิดเลยว่าเราจะอ่านหนังสือเล่มหนาขนาดนั้นได้ แต่เรารู้สึกว่าการอ่านทำให้จินตนาการเรากว้างไกลมาก ๆ หนังสือเล่มนี้ทำให้เรารักการอ่าน ทำให้เราสามารถอ่านหนังสือยาว ๆ ได้ ตอนเด็ก ๆ เราอ่านแล้วไม่รู้สึกว่ามันแฝงอะไรเลย แต่พอโตขึ้น เราเลยได้รู้ว่า ถ้าตีความในแง่การเมือง มันสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำ ชนชั้น จนสุดท้ายถ้าเราลองมาคิดดูดี ๆ โลกของ Harry Potter ก็คือโลกของเรานี่แหละ”
นวนิยายแฟนตาซีชุด ‘Harry Potter’ แต่งโดยนักเขียนชาวอังกฤษ เจ. เค. โรว์ลิง ว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยของพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พอตเตอร์ กับสองสหายเพื่อนสนิทคือ รอน วีสลีย์ และ เฮอร์ไมโอนี เกรนเจอร์ ที่ได้เข้าไปเป็นนักเรียนโรงเรียนคาถาพ่อมดแม่มดและเวทมนตร์ศาสตร์ฮอกวอตส์ ในฐานะ “เด็กชายผู้รอดชีวิต” แฮร์รี่ พอตเตอร์ จึงมีภารกิจสำคัญในการเอาชนะพ่อมดแห่งศาสตร์มืดผู้ชั่วร้ายอย่าง ลอร์ดโวลเดอมอร์ ผู้มุ่งหวังจะมีชีวิตอมตะ และกำจัดเหล่ามักเกิลเลือดสีโคลน หรือคนธรรมดาที่ไม่มีสายเลือดพ่อมดแม่มดให้หมดไปจากโลก
คลังสยอง - ตอน โทมิเอะ
“เราก็เป็นเด็กธรรมดาทั่วไปที่อ่านการ์ตูนญี่ปุ่น อ่านโดราเอมอน จนสุดท้ายแล้วเราถึงมารู้ว่าเราชอบอ่านการ์ตูนสยองขวัญ ที่รักที่สุดคือซีรีส์ของ จุนจิ อิโต้ และ โทมิเอะ มันเป็นซีรีส์ที่ดึงดูดเรามาก ทำให้เราอยากรู้เกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ไปอีก เราไม่ได้กลัวโทมิเอะด้วยความรู้สึกเดียวกับที่เรากลัวผี แต่ตัวละครนี้ทำให้เราเห็นด้านมืดของคน กิเลสของคน การเปิดให้เห็นจิตใต้สำนึกของเราที่อยากจะครอบครองอะไรสักอย่าง เปิดให้เห็นก้นบึ้งความลึกที่ดิบเถื่อนของมนุษย์ที่ถูกสังคมกดไว้”
‘คลังสยอง ตอน โทมิเอะ’ ผลงานการเขียนและวาดโดย จุนจิ อิโต้ เล่าถึงหญิงสาว ‘โทมิเอะ’ สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่ไม่มีวันตาย และราวกับผุดขึ้นมาเพื่อทดสอบศีลธรรมและด้านมืดในจิตใจของมนุษย์ทั้งชายและหญิง โดยผู้ชายก็ล้วนแต่ต้องมนต์สะกดของเธอ อยากครอบครองจนจะฆ่าให้ตาย ส่วนผู้หญิงก็เห็นเธอเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด แต่ไม่ว่าจะถูกฆ่าหรือทำให้ตายด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมที่สุดอย่างไร แต่โทมิเอะก็จะกลับมาหลอกหลอนให้คนที่กระทำความชั่วร้ายต่อเธอได้สะท้อนถึงด้านมืดในจิตใจของพวกเขาเอง
แว่วเสียงเรไร
“เป็นแนวหลอนเหมือนกัน แต่เป็นหลอนคนละแบบกับโทมิเอะ แถมเป็นการ Jump Scare ในรูปแบบของหนังสือ เราสนใจว่าทำไมมันถึงทำให้เรากลัวได้ขนาดนี้ ทั้งที่มันไม่ได้มีเสียงอะไรเลย การอ่านเรื่องนี้ทำให้เราสงสัยว่า ทำไมหนังสือถึงทำให้เรารู้สึกได้ขนาดนี้ มันคือการอ่านหนังสือที่มีเสียง”
‘แว่วเสียงเรไร’ หรือ ‘ยามเมื่อเหล่าจักจั่นกรีดร้อง’ ผลงานการแต่งและสร้างโดย ริวคิชิ 07 เล่าเรื่องราวของ มาเอบาระ เคอิจิ เด็กหนุ่มจากเมืองใหญ่ที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในหมู่บ้านฮินามิซาวะ ณ ที่นี่ เขาได้พบเพื่อนใหม่มากมาย และเริ่มจะปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ดี ชีวิตใหม่ของเคอิจิที่หมู่บ้านฮินามิซาวะดูเหมือนจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและเงียบสงบ แต่หลังจากเทศกาลวาตานางาชิ ซึ่งเป็นเทศกาลที่เป็นการเฉลิมฉลองขอบคุณและระลึกถึงท่านโอยาชิโระ เทพเจ้าผู้คุ้มครองหมู่บ้าน เคอิจิก็ได้พบกับความจริงสุดสยองว่า ทุก ๆ ปีในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา จะต้องมีคนถูกฆาตกรรมอย่างทารุณและอีกคนจะหายสาบสูญในช่วงเทศกาลนี้
Yellow Cabby แท็กซี่นิวยอร์ก
“เราชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับอาชีพ มันทำให้เราได้เห็นในสิ่งที่เราไม่เห็น ทำให้เห็นว่าชีวิตของคนอื่นก็สนุกดี มันอาจจะเป็นเหตุผลเดียวกับที่เราชอบการแสดง เราได้รับบทบาทของชีวิตอื่นที่เราไม่ได้เป็นในชีวิตจริง เราเกิดมาชีวิตเดียว การอ่านพ็อกเก็ตบุ๊กของคนอื่น การอ่านอาชีพและชีวิตของคนอื่น ทำให้เราเห็นมุมมองอีกโลกหนึ่ง”
‘Yellow Cabby แท็กซี่นิวยอร์ก’ พ็อกเก็ตบุ๊กเล่าประสบการณ์สุดมันส์ที่มีที่มาจากการเป็นกระทู้ยอดฮิตในห้องไกลบ้านของ Pantip.com เขียนโดย Smartupid ถ่ายทอดเรื่องราวสุข เศร้า เหงา รัก การผจญภัยสุดเฟี้ยว และวีรกรรมสุดเซี้ยว ของคนไทยที่ไปใช้ชีวิตเป็นคนขับแท็กซี่ในนิวยอร์ก มหานครเอกของโลก ถ่ายทอดด้วยเสน่ห์การเล่าเรื่องของผู้แต่งที่ช่วยให้ผู้อ่านไปสำรวจชีวิตบนท้องถนนของคนนิวยอร์กแบบวางไม่ลง
สิ่งมีชีวิตในโรงแรม
“เรื่องนี้เกือบทำให้เราเลือกเรียนการโรงแรม ที่จริงเราอยากเป็นนักแสดงมาตลอดแหละ แต่คิดว่ามันอาจจะเป็นแค่งานอดิเรก แล้วคิดว่าเราอาจจะต้องเรียนอะไรที่เป็นอาชีพจริง ๆ พออ่านเล่มนี้ก็รู้สึกว่าอยากทำงานโรงแรม รู้สึกว่าเป็นอาชีพที่สนุก ได้เจอคนเยอะ ๆ ได้เซอร์วิสคน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราชอบทำ แล้วก็ทำให้คนเกิดความประทับใจ เราสนใจดีเทลเล็ก ๆ อย่างการจัดผ้าปูที่นอน การล้างห้องน้ำ มันเป็นแรงบันดาลใจให้เราอยากทำอะไรสักอย่าง และมันก็ทำให้นับจากนั้นมา เวลาเราไปเที่ยว เราจะชอบสังเกตพนักงานในโรงแรม จนสุดท้ายเราก็สังเกตและเข้าใจคนมากขึ้น เข้าใจคนทำงานในแง่ของมนุษย์ที่มีชีวิตอีกด้านหนึ่งที่เราอาจไม่รู้ วันนั้นเขาอาจจะมีวันที่ไม่ดีก็ได้ เราชอบการที่หนังสือทำให้เรามีความเข้าใจมนุษย์มากขึ้น”
‘สิ่งมีชีวิตในโรงแรม’ รวมบันทึกประสบการณ์คัดสรรของอดีตมนุษย์ทำงานโรงแรมของ วิชัย มาตกุล ที่ต้องเผชิญสถานการณ์แปลก ๆ และรับมือกับบรรดาแขกแสนหน้ามึนมากมาย นี่คือคู่มือชีวิตจริงของคนทำงานโรงแรมที่หาไม่ได้ที่ไหนอีกแล้วในอุตสาหกรรมบริการ
เพียงชายคนนี้เป็นอาจารย์พิเศษ
“กว่าจะมาเป็นอาจารย์ เขาจะต้องผ่านอะไรมาบ้าง ต้องรับมือกับลูกศิษย์รูปแบบไหนบ้าง ต้องเตรียมการเรียนการสอนยังไง ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของการเป็นครู”
‘เพียงชายคนนี้เป็นอาจารย์พิเศษ’ บันทึกประสบการณ์การเป็นอาจารย์พิเศษในรั้วมหาวิทยาลัยของ คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง ที่พอขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องราวของ เมอฤดี คนนี้แล้ว ก็รับรองความวายป่วงปวดตับกระสับกระส่ายได้เลย โดยบันทึกเล่มนี้จะเป็นการเผยตัวตนอีกด้านของนักวิจารณ์ดนตรีและภาพยนตร์ที่ต้องสลับฝั่งมารับมือกับเหล่านักศึกษาที่มาพร้อมกับปัญหาโลกแตกทั้งหลาย รวมวีรกรรมทำเพื่ออาจารย์ที่เมื่อได้อ่านเป็นต้องกุมขมับพร้อมเสียงหัวเราะไปในเวลาเดียวกัน
PRAY STATION ชั่วโมงท่องมนต์
“มันแปลกดี สนุกด้วย และสิ่งที่ทำให้เราสนใจก็คือ เราอยากเข้าใจว่า เขานับถือศาสนาคริสต์ แต่ทำไมเขาถึงตัดสินใจมาบวชเป็นพระ เวลาเราไปวัดเราก็จะเจอพระทำกิจต่าง ๆ แต่เราไม่รู้เลยว่าเขาใช้ชีวิตในวัดยังไงบ้าง เขากลัวผีมั้ย แล้วญาติโยมที่มาวัดเป็นยังไงบ้าง หนังสือเล่มนี้ทำให้ได้สัจธรรมบางอย่างที่อาจจะเหมือนกับการฟังธรรมเลยก็ได้ อาจจะเป็นธรรมะในแบบที่คนสมัยนี้เข้าใจได้”
‘Pray Station ชั่วโมงท่องมนต์’ หนังสือที่รวบรวมประสบการณ์จริงของ ศิรศักดิ์ อิทธิพลพาณิชย์ นักร้อง นักแต่งเพลง และอดีตเจ้าพ่อเพลงละครที่คนวัย 90s คุ้นเคยกันดี โดยความพิเศษของประสบการณ์การบวชของนักร้องนักแต่งเพลงผู้นี้ก็คือ เขานับถือศาสนาคริสต์มาตลอดชีวิต แต่จะขอลองบวชเป็นพระสักตั้ง! เปิดประสบการณ์เปลี่ยนมุมมองต่อศาสนาและสังคม กับกิจกรรมสายพุทธ ไม่ว่าจะเป็นการออกบิณฯ และการใช้ชีวิตใต้ผ้าเหลืองร่วมกับเหล่าพระวัยรุ่น ชวนให้เราได้เรียนรู้วิธีพุทธแบบใหม่ไปพร้อมๆ กัน
Two Be Continued โปรดติดตามตอนแต่งไป
“ชีวิตผู้หญิงหลาย ๆ คนก็คงอยากแต่งงาน แต่เราอยากแต่งงานเพราะแค่เราเห็นในหนัง มันมีไฟ มีเทียน มีเค้ก มีแขก แต่เราไม่รู้เลยว่าเบื้องหลังของงานแต่งงานมันวายป่วงขนาดไหน หรือชีวิตคู่มันวุ่นวายยังไง มันเลยสนุกดีที่ได้เห็นเรื่องราวของคนสองคนตั้งแต่เริ่มจีบกันจนแต่งงาน เหมือนได้อ่านคู่มือการเตรียมตัวมีชีวิตคู่”
‘Two Be Continued โปรดติดตามตอนแต่งไป’ เล่าเรื่องชีวิตหลังแต่งงานของบ่าวสาวเจนวาย โดย "นิดนก" สาวแว่นสุดฮาที่นำชีวิตตัวเองมาเล่าว่าคู่รักเจนวายใช้ชีวิตกันแบบไหนบ้าง รวมไปถึงนานาคำถามทั้งเรื่องลูก เรื่องงาน เรื่องบ้าน หรือแม้กระทั่งเรื่องบนเตียง ! สารพัดเรื่องที่คนรอบตัวอยากรู้แล้วก็อยากถาม นิดนกพาผู้อ่านไปบุกเรือนหอส่องดูเรื่องราวหลังการแต่งงานของเธอกับ "เอกชัย" สามีสุดเลิฟ ภาคต่อจากตอนอวสาน จะโรแมนติก ดราม่า หรือบู๊ล้างผลาญแค่ไหน ต้องไปอ่านเพื่อพิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง 
แอดเวนเจอร์ ออฟ เมอฤดี ฉบับโตเกียวดริฟท์
“เป็นการไปเที่ยวญี่ปุ่นในแบบที่เฟิร์นจะไม่ไป (หัวเราะ) เพราะคนเขียนเขาเป็นคนชอบตามรอยหนังญี่ปุ่น พอเราอ่านก็เลยรู้สึกว่าได้เห็นญี่ปุ่นอีกแบบนึง พออ่านแล้วมันเลยเหมือนเป็นการไปเที่ยวผ่านตัวหนังสือ เป็นการไปเที่ยวอีกแบบนึง ได้เห็นญี่ปุ่นในอีกด้าน ได้รู้ว่ามีคนที่เขาไปเที่ยวเพียงเพื่อจะไปที่นี่โดยเฉพาะ ซึ่งอาจจะหารีวิวการเที่ยวแบบนี้จากที่อื่นไม่ได้”
‘แอดเวนเจอร์ ออฟ เมอฤดี ฉบับโตเกียวดริฟท์’ หนังสือบันทึกทริปการเดินทางของ ‘คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง’ ที่มีจุดเริ่มต้นจากความตั้งใจที่จะไปตามรอยโลเคชั่นอันเป็นฉากสำคัญของหนังในดวงใจอย่าง All About Lily Chou Chou อันเป็นที่มาของทริปวายป่วงสุดปวดตับในฉบับเมอฤดี ไม่ว่าจะเป็นพายุเข้า ไปแล้วเขาไม่เปิด หลงทาง และอีกสารพัดล้านแปดจนกลายเป็นการผจญภัยโลกไม่ลืม
NEW YORK 1ST TIME นิวยอร์กตอนแรกๆ...
“อเมริกาเป็นต่างประเทศที่แรกที่เราไป เราเลยอ่านแล้วอิน ทำให้เราคิดว่าหรือเราจะลองไปใช้ชีวิตและเรียนที่นั่นเหมือนกับคนเขียนดี เรารู้สึกผูกพันกับเล่มนี้มาก อ่านแล้วคิดถึง”
หนังสือเล่มแรกของ ‘เบ๊น—ธนชาติ ศิริภัทราชัย’ ผู้กำกับโฆษณาจาก Salmon House ที่เล่าเรื่องราวในช่วงที่บินข้ามโลกไปเรียนถ่ายภาพที่มหานครนิวยอร์ก อันเป็นที่มาของเหตุการณ์แปลก ๆ และประสบการณ์ “เฟิร์ส ไทม์” สุดมันที่กลั่นออกมาได้สุดฮา ตั้งแต่การมีแฟนเป็นสาวชาวต่างชาติครั้งแรก ไปจนถึงการโดนปล้นครั้งแรก บอกได้เลยว่า นิวยอร์กที่ถ่ายทอดผ่านสายตาของนายธนชาตินี้ จะทำให้มุมมองที่เรามีต่อเมืองบิ๊กแอปเปิลนี้เปลี่ยนไปตลอดกาล
Go Went Girls
“เรื่องราวของผู้หญิง 9 คนที่เดินทางไปต่างประเทศด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกัน บางคนไปเรียน บางคนไปเพื่อดูสถาปัตยกรรม ทำให้เห็นจุดประสงค์การเดินทางของแต่ละคนที่แตกต่างกันไป การเดินทางนี้มันเปลี่ยนตัวเขา จากบางคนที่ไม่ได้อินกับสถาปัตยกรรมอะไร แต่พอไปเจอตึกสวย ๆ ก็กลายเป็นอินสถาปัตยกรรมไปเลย มีคนนึงที่ไปโอเรกอนซึ่งเป็นที่ที่คนไม่ค่อยไปเที่ยว แต่พออ่านแล้วก็อยากไปสัมผัสบรรยากาศความเงียบสงบที่นั่น เล่มนี้ยังเปิดโลกและทำให้เราได้เรียนรู้ประสบการณ์หลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะการที่เขาได้ไปพบเจอคนในที่ต่าง ๆ ได้เรียนรู้การเป็นมนุษย์ที่เคารพซึ่งกันและกัน และการที่เขาแต่ละคนถ่ายทอดเมืองที่เขาไปผ่านมุมมองของเขา ซึ่งมันทำให้เราได้เห็นโลกอีกแบบนึง”
‘Go Went Girls’ หนังสือที่เล่าเรื่องราวประสบการณ์ของ 9 สาวที่มีบุคคลิกและการมองโลกต่างกัน พวกเขาได้ออกไปทำภารกิจในต่างแดนใน 9 เมืองที่แตกต่างกันไป ทั้งมัณฑะเลย์, บาหลี, พอร์ตแลนด์ บาเซโลน่า, พาราณสี, ยูจีน, เลห์ ดาลักห์, ไทเป และปารีส เรื่องเล่าของเธอทั้ง 9 จะเปิดมุมมองให้ผู้อ่านได้เห็นถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความเชื่อ และวิถีการดำรงชีวิตในพื้นที่ต่าง ๆ ในโลกที่ห่างกันคนละโยชน์ แต่สิ่งหนึ่งที่มีร่วมกันก็คือ ความเป็นมนุษย์
Africa is not Africa
“เราเป็นคนรักสัตว์มาก และหนึ่งในการ์ตูนดิสนีย์ที่เรารักมากที่สุดก็คือ Lion King เราฝันว่าซักวันหนึ่งเราจะได้ไปแอฟริกา เรื่องนี้ก็คือการสานฝันของเด็กคนหนึ่งที่ชอบดู Lion King”
Africa is Not Africa ผลงานหนังสือเล่มแรกในชีวิตของ ‘พริม โกมลกิติ’ นักเดินทางสาวผู้ไปเยือนมาแล้วกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และสำหรับการเดินทางครั้งนี้ เธอเลือกไปตะลุยทวีปแอฟริกาคนเดียวเดี่ยว ๆ ใน 5 ประเทศ ทั้ง ซิมบับเว แซมเบีย บอตสวานา นามิเบีย และแอฟริกาใต้ เพื่อเป็นบททดสอบใหม่ที่ไม่เหมือนการเดินทางครั้งไหน ๆ ที่เธอเคยไปมา ทั้งการต้องนอนกลางดินกินกลาง (พายุ) ทราย การเผชิญหน้ากับราชสีห์เจ้าป่าตัวจริง ฯลฯ นี่คือการเดินทางที่ได้ทั้งความผจญภัยและเปิดโลกที่ทุกๆ คนควรไปกันซักครั้ง
