ในสองสามเดือนที่ผ่านมา คงได้เห็นการร่วมมือร่วมใจของทุกคน ทั้งหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ไปจนถึงกลุ่มคนเล็กๆ ที่ช่วยกันเยียวยาสภาพจิตใจให้ชาวไทยกลับมาปกติมากที่สุด จะมากหรือน้อยไม่ใช่สิ่งสำคัญ แต่เชื่อว่าทุกคนที่ร่วมมือกันต่างเต็มใจลงมือโดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ
‘สานต่อที่พ่อทำ’ เครือข่ายของนักสื่อสารนิรนามที่รวมตัวกันเพื่อทำโครงการเพื่อสังคมในทุกๆ รูปแบบ โดยมีแนวคิดจากสิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงทำไว้ แล้วนำมาสานต่อพระราชปณิธานให้เกิดขึ้นต่อไปด้วยความเชี่ยวชาญของตัวเอง จึงได้เห็นโครงการหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ทริปเดินทางตามรอยพระราชดำเนิน, เว็บไซต์ถวายคำปณิธาน ไปจนถึง หนังสือนิทานจากพระราชดำรัส
เช่นเดียวกันกับหลายๆ โครงการที่เริ่มขึ้นก่อนวันที่ 13 ตุลาคม ทางเครือสานเองก็ต้องปรับตัวกับเหตุการณ์ความสูญเสียครั้งใหญ่ของชาวไทย ทางเครือข่ายกลับมาทบทวนว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป และพบคำตอบว่าสิ่งที่พวกเขาเชื่อยิ่งใช่ เพราะเครือข่ายเน้นไปที่การทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 และการสืบสานพระราชปณิธานนั่นเอง ซึ่งเป็นการทำให้พ่ออยู่กับทุกคนต่อไป
"เราก็ยังคิดว่าเรื่องสานต่อที่พ่อทำเป็นเรื่องจำเป็นมากๆ แต่โดยบทบาทของสานต่อที่พ่อทำ หลังวันที่ 13 ตุลาคม เราต้องคำนึงถึงความรู้สึกของคนทั้งชาติมากขึ้นกว่าเดิม จากเดิมที่เราแค่ต้องการชวนคนมาสานต่อ ทีมงานต้องกลับไปทำกลยุทธ์ใหม่โดยศึกษาความเศร้าโศกเสียใจของคนทั้งชาติเป็นหลัก เพื่อที่เราคนไทยจะผ่านช่วงเวลานี้ไปด้วยกันอย่างเข้มแข็ง ทางเครือข่ายได้พูดคุยกับจิตแพทย์เพื่อทำความเข้าใจภาวะเศร้าโศกจากการสูญเสีย เพื่อประคับประคองความรู้สึกของคนไทยไปด้วยกัน"
ตัวแทนจากทางเครือข่ายได้ให้ข้อมูลว่าเนื้อหาที่ตระเตรียมไว้ยังมีอีกมาก โครงการของเครือข่ายสานต่อที่พ่อทำยังคงดำเนินไปไม่ถึงครึ่งทาง กิจกรรม ข้อมูล และผลงานใหม่ๆ กำลังทยอยกันออกมารวมถึงผลงานต่อยอดจากโครงการที่ผ่านมา “อยากให้ทุกคนรู้ว่าคุณทำได้ แบบที่คุณถนัด มีความสุขที่จะทำ ทำได้ดี แค่ทุกคนลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองให้ดี เท่านี้ก็ถือเป็นการตอบแทนประเทศชาติ แล้วก็ถือเป็นการสานต่อที่พ่อทำแล้ว ไม่ต้องทำอะไรเกินตัว เริ่มจากต้องเริ่ม”
โครงการจำนวนมากยังคงทยอยกันออกมาจากเครือข่ายของผู้ไม่ประสงค์ออกนามนี้เพื่อจะบอกว่าเราต่างสานต่อที่พ่อทำได้ด้วยความถนัดของเราเอง
www.facebook.com/fulfillingfatherslegacy
เดินทางพ่อ
เดินทางพ่อ เป็นโครงการแรกของเครือข่ายสานต่อที่พ่อทำที่เปิดตัวออกสู่สาธารณะ โดยเป็นทริปที่พาผู้เข้าร่วมคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้เห็นในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงงาน ไปเยือน อ่างขาง แม่ลาน้อย อินทนนท์ กุยบุรี และอ่าวคุ้งกระเบน รวม 5 ทริป 5 สถานที่ที่ในหลวงรัชกาล 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงพัฒนา เพื่อตามรอยและเรียนรู้สิ่งที่พระองค์สร้างไว้
“พวกเรารวมตัวกันเดือนพฤษภาคม หลังจากนั้นก็วางแผนเป็นทีมย่อยๆ ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัด เราตั้งโจทย์ว่าเราอยากจะพูดคุยกับกลุ่มคนกลุ่มไหน แล้วก็กำหนดว่าเราอยากทำให้เขาเกิดความรู้สึกอย่างไร หรือลงมือปฏิบัติอะไร เราใช้ศาสตร์ของการเป็นนักสื่อสารมาทำ กำหนดเป้าหมาย วางกลยุทธ์ กำหนดปฏิกิริยาตอบรับที่ต้องการ แล้วแต่ละทีมก็ออกแบบในสิ่งที่ตัวเองถนัดแล้วก็มีความสนใจ เดินทางพ่อ ก็เป็นทีมที่อยากจะเวิร์กกับกลุ่มวัยรุ่นที่สนใจในเรื่องของการสร้างคอนเทนต์ออนไลน์ ก็ออกมาเป็นลักษณะนั้น” ตัวแทนจากทางเครือข่ายกล่าว ในเวลาต่อมาจึงเกิดการแบ่งปันประสบการณ์เป็นคอนเทนต์ออนไลน์จากผู้เข้าร่วมเพื่อให้คนที่ไม่ได้มีโอกาสไป ได้ซึมซับความรู้สึกดีๆ เช่นเดียวกัน
www.facebook.com/walkoftheking
ถวายปณิธานเพื่อพ่อ
หลายคนอาจจะได้เห็นโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นวิดีโอคลิปสั้นๆ เกี่ยวกับการถวายปณิธานของบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่าง สุหฤท สยามวาลา พระไพศาล วิศาโล และ ดร.วิรไท สันติประภพ พร้อมเชิญชวนให้ทุกคนร่วมถวายปณิธานผ่านทางเว็บไซต์ เป็นความตั้งใจแต่เดิมของเครือข่ายที่จะให้คนมาถวายปณิธานเพื่อที่สานต่อสิ่งที่พ่อทำ และการถวายปณิธานเองก็เป็นหนึ่งในกำลังใจสำหรับผู้สูญเสีย โดยความพิเศษอยู่ที่คำปณิธานของทุกคนจะกลายเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ โดยมาจากความคิดหลักที่ว่า 'ถ้าเราทำ พระองค์ก็จะอยู่กับเรา เราจะเห็นพระองค์อยู่กับเราตลอดไป' และจะมีการส่งปณิธานของทุกคนกลับยังอีเมลล์ของเจ้าของในวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปีเพื่อระลึกถึงปณิธานที่ได้ถวายแด่พ่อไว้
www.fulfillingfatherslegacy.com
นิทานตามคำพ่อ
นิทานชุดตามคำพ่อ คือนิทาน 7 เรื่องที่จัดทำขึ้นเพื่อให้เด็กๆ ในวัย 4 - 6 ปี และ 7 - 9 ปี ได้เรียนรู้ เข้าใจพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสได้ง่ายๆ ผ่านนิทานสมุดระบายสี โดยพิมพ์แจกมูลนิธิและโรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงให้ดาวน์โหลดฟรีอีกด้วย พร้อมทั้งยังมีกิจกรรมเล่านิทานตามคำพ่อ ที่จะนำนิทานไปเล่าใหม่ในรูปแบบละครหุ่น นอกจากนี้เรื่องราวจากสมุดนิทานทั้ง 7 เรื่องยังจัดทำเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่น 2 มิติ ความยาว 3 นาที เพื่อเผยแผ่ผ่านทางโซเชียลมีเดียอีกด้วย นับเป็นการสานต่อสิ่งที่พ่อทำด้วยการปลูกฝังให้เด็กๆ ได้อย่างเห็นผล
เรื่อง: วิชัย สว่างพงศ์เกษม
ติดตามอ่าน Read Me Vol 40: ต้นไม้ของพ่อ ต้นไม้ของเรา ที่จะพาทุกคนไปสำรวจผลจากต้นไม้ของพ่อที่แตกเมล็ดเติบโตขึ้นในหัวใจของชาวไทยเป็นแรงบันดาลใจให้เราสืบสานปณิธานของพ่อต่อไป อ่านฉบับเต็มได้ที่ http://readme.tkpark.or.th