
สอนลูกให้เล่นเพื่อเรียนรู้
ตามแบบฉบับคุณแม่ตุ๊กตา-พนิดา
‘แม่’ เป็นบทบาทที่ท้าทายที่สุดของผู้หญิง และคงปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกช่วงเวลาของการเฝ้าเลี้ยงดูลูกตั้งแต่เด็ก จนค่อยๆ เติบโต ล้วนสร้างความสุขให้กับชีวิตของคุณแม่ทุกครอบครัว
เนื่องด้วยเทศกาลวันแม่ปีนี้ อุทยาการเรียนรู้ TK park ได้จัดกิจกรรมพิเศษกับ Inspired by idol บอกเล่าวิธีการเลี้ยงลูกตามแบบฉบับของคุณตุ๊กตา-พนิดา เอี่ยมศิรินพกุล คุณแม่มือใหม่ที่กำลังมีความสุขในทุกๆ พัฒนาการของลูกน้อย
ตุ๊กตา-พนิดา เรียนจบจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ ภาควิชาออกแบบนิเทศศิลป์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เธอหลงใหลในตัวหนังสือ จนมีโอกาสได้ทำงานในตำแหน่ง Art Director นิตยสาร HAMBURGER จากนั้นเป็นบรรณาธิการบริหารนิตยสาร Knock Knock ก่อนจะดูแลสำนักพิมพ์ลายจุดของตัวเองอย่างเต็มตัวในฐานะบรรณาธิการสำนักพิมพ์ polkadot และยังเป็นเจ้าของผลงานซีรีย์กุ๊กกิ๊กไกด์ อย่าง โตเกียว กุ๊กกิ๊ก ไกด์, เกาหลี, ลอนดอน, ปารีสและนิวยอร์ก กุ๊กกิ๊ก ไกด์ นอกจากนั้นยังร่วมก่อตั้งสำนักพิมพ์หนังสือสำหรับเด็กชื่อว่า “ยาหยี”
ย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นที่มาของชื่อสำนักพิมพ์ polkadot เกิดจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่อยู่รอบตัวของตุ๊กตาและคนรอบข้าง ที่เธอสังเกตว่าส่วนใหญ่ของข้าวเครื่องใช้ล้วนมีรูปแบบเป็นลายจุด ซึ่งก็เข้ากับจุดประสงค์ของเธอที่อยากให้เป็นสำนักพิมพ์ที่บรรจุเรื่องราวกระจุ๊กกระจิ๊ก เป็นเรื่องราวที่คลาสสิคที่อ่านตอนไหนก็ไม่เบื่อ จนกลายเป็นคอนเซ็ปต์ที่ว่า เป็นสำนักพิมพ์เอา(แต่)ใจสาวๆ ที่ตั้งใจนำเสนอเรื่องราวเล็กน้อย แต่มหาศาลสำหรับผู้หญิง
“หนังสือ polkadot ไม่มีกาลเวลา เนื้อหาส่วนใหญ่ที่นำเสนอ ก็เพื่อชักชวนสาวๆ มาอ่านหนังสือ คือเรามีความเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนมีความเป็นเด็กอยู่ในตัว หนังสือ polkadot เพียงนำเสนอสารเพื่อเอาแต่ใจผู้หญิง ซึ่งสิ่งนั้นอาจไปสะกิดใจคนที่ชอบและรักอะไรๆ เหมือนกับเรา อย่างหนังสือซีรี่ย์กุ๊กกิ๊กไกด์ ก็จะเป็นหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวจากความทรงจำจากสถานที่ต่างๆ ของที่ระลึกในหลายๆ ประเทศที่ไป เพื่อบอกเล่าถึงแต่ละเมืองในสไตล์คนที่ชอบเที่ยวแบบเรา เป็นการเล่าถึงเรื่องราวประทับใจต่างๆ ให้ใครสักคนฟัง เหมือนเปิดไดอารี่ให้เพื่อนดู ให้รู้สึกได้ท่องเที่ยวไปกับเรา”
นอกจากบทบาทการทำงานในวงการหนังสือ เธอยังรับบทบาทเป็นคุณแม่มือใหม่ ของน้อง ชื่นใจ ภูมิรัตน ลูกสาววัยน่ารัก ที่คุณพ่อ บอย-ตรัย ภูมิรัตน ได้แต่งเพลงชื่อเดียวกับลูก ‘ชื่นใจ’ เพือแทนความรู้สึกยินดีจากหัวใจของคุณพ่อมือใหม่ โดยเนื้อหาของเพลงเป็นการอวยพรให้เด็กที่เ¬พิ่งเกิดมาคนนี้เป็นเด็กดี สุขภาพแข็งแรง และให้เขาได้รู้ว่ามีความรักมากมายจากพ่อแ¬ม่ที่รอเขาอยู่
ส่วนด้านคุณแม่ก็ดึงเอาความสามารถในด้านที่ตัวเองถนัดมาเป็นแรงบันดาลใจในการเลี้ยงน้องชื่นใจเช่นกัน นั้นก็คือการทำสำนักพิมพ์ยาหยี สำนักพิมพ์หนังสือสำหรับเด็กที่มุ่งผลิตสื่อการเรียนรู้ที่เข้าใจหัวใจ และธรรมชาติของเด็ก เพื่อเสริมสร้างจินตนาการ พัฒนาการอย่างสร้างสรรค์และมีคุณภาพ
คุณแม่ตุ๊กตาเล่าให้ฟังว่า “การผลิตสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กของสำนักพิมพ์ยาหยี ก็คือ อยากให้คุณพ่อและคุณแม่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับลูกผ่านกิจกรรมการอ่าน หนังสือจากสำนักพิมพ์ยาหยีผลิตออกมาด้วยความรัก ความเข้าใจในธรรมชาติการเรียนรู้ของเด็ก อีกอย่างคืออยากให้เด็กได้มีหนังสือภาพที่สวยงามทั้งรูปและเนื้อหา”

หนังสือสอนพยัญชนะไทย ก-ฮ เป็นหนังสือเล่มแรกของสำนักพิมพ์ยาหยี ที่เกิดจากการที่คุณแม่ตุ๊กตาพยายามหาหนังสือ เพื่อที่จะมาใช้อ่านกับลูก แต่ไม่เจอที่ตรงใจเพราะด้วยรูปภาพและการสื่อสารไม่สวยงามเหมาะกับเด็ก เธอจึงตัดสินใจทำหนังสือขึ้นเอง โดยชวนคุณป่าน นิตตา ประภัสภักดี มาช่วยวาดภาพประกอบ และด้วยลายเส้นน่ารัก สื่อสารเข้าใจง่าย จึงกลายเป็นที่ถูกใจหลายๆ ครอบครัว จนเกิดผลงานชิ้นต่อๆ ไป
“หนังสือทุกเล่มของยาหยี จะเน้นที่ให้ผู้ปกครองได้ทำกิจกรรมร่วมกับลูก เพราะตัวเราเองเชื่อว่า ทุกการเล่นคือการเรียนรู้ นอกจากรูปเล่มที่สวยงาม ยาหยีก็จะแฝงด้วยลูกเล่นต่างๆ ซึ่งเป็นความตั้งใจในการสานความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว เพราะความรักเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูก อย่างมีเล่มหนึ่ง we are family ก็เป็นเหมือนสื่อกลางในครอบครัวที่ทำให้ลูกจำหน้าและชื่อญาติแต่ละฝ่ายในครอบครัวได้ คือข้างในเล่มจะมีช่องว่างให้ใส่รูปญาติแต่ละคนได้ ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่ ก็จะได้สอนลูกไปได้พร้อมๆ กันด้วยว่า เรียกว่าคุณปู่ คุณย่า หรือบางบ้านก็อาจเรียกอย่างอื่น เป็นการได้ใช้เวลาร่วมกับลูก ผ่านการอ่าน”
ในฐานะคุณแม่ พนิดาวางแนวทางการเลี้ยงลูกในแบบฉบับของตัวเองที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่พยายามยัดเยียด ถ้าน้องชื่นใจอยากเล่นก็ให้เล่น เพราะทุกการเล่นคือการเรียนรู้สำหรับลูก นอกจากจะซ่อนการเล่นไว้ในทุกกิจกรรม เพื่อช่วยในการพัฒนาการของลูกแล้ว คุณแม่ พนิดา ยังยอมรับว่าบทบาทคุณแม่ก็ช่วยมาพัฒนาการและซ่อมแซมนิสัยเสียของตัวเองด้วยเช่นกัน ให้กลายเป็นคนที่ดูแลตัวเองมากขึ้น
“ส่วนใหญ่เวลาไปไหน จะพาลูกไปด้วย แต่ก็จะเริ่มต้องหาที่เที่ยวสำหรับเขาด้วย เริ่มไปสวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ทางน้ำ ให้เขาได้เรียนรู้สถานที่ต่างๆ จะไม่ยัดเหยียดพาไปแต่ที่ๆ เราชอบ เพราะพอเขาเริ่มโต เขาจะเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไร เราเลี้ยงเขาเหมือนเป็นเพื่อน แต่ในขณะเดียวกันก็อบรมสั่งสอน ให้ความเป็นมนุษย์ที่ดีกับเขาด้วย สำหรับแผนที่วางไว้อีกอย่างคือ พยายามให้ลูกเข้าเรียนเสริมในสถาบันต่างๆ ให้ช้าที่สุด เพราะอยากให้เข้าได้เล่นสนุกสมวัยอย่างเต็มที่ แม้ว่าการเข้าโรงเรียนจะทำให้เขาเก่งขึ้น แต่ยังไม่อยากให้เขาต้องถูกบังคับอะไรมากมาย ที่เน้นให้เขาได้เล่น จริงๆ ไม่ใช่แค่การเล่นสนุกไปวันๆ แต่ทุกการเล่น เขาจะได้เรียนรู้ไปในตัวด้วย แต่ก็จะวางกรอบไว้ว่าให้ทำสิ่งที่ถูกต้อง”
วิธีการเลี้ยงลูกตามแบบฉบับ สุดยอดคุณแม่ พนิดา คงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ปกครองท่านอื่นๆ ที่สนใจอยากจะเพิ่มพื้นที่การเล่นให้กับลูกๆ ให้ลูกได้มีโอกาสพัฒนาการเรียนรู้ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา และจิตใจผ่านการเล่นอย่างอิสระ เพราะทุกการเล่นไม่ใช่เพียงเรื่องเล่นๆ