
ดวงจันทร์เป็นเพียงก้อนหินกลม ๆ ที่โคจรรอบดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง แต่เผอิญว่า ดาวเคราะห์ดวงนี้ที่ชื่อว่าโลก ดันอุดมสมบูรณ์เสียจนกลายเป็นบ่อเกิดของสิ่งมีชีวิตหลากหลาย และมีมนุษย์มากมายอาศัยอยู่
แถมมนุษย์แต่ละคนยังมีวิถีทางต่างกัน ต่างคิด ต่างจินตนาการ พอมนุษย์เห็นดวงจันทร์สว่างไสวอยู่บนฟ้า ดวงจันทร์เจ้ากรรมที่แขวนในอวกาศอยู่ดี ๆ ก็เลยมีหลายชื่อเรียก ทั้งพระจันทร์ บุหลัน เดือน แข ฯลฯ แถมยังมีเรื่องเล่าติดตัวอีกสารพัดที่มนุษย์ต่างคนต่างมอบให้!
ปลายปี 2567 ขณะที่ทีมสร้างสรรค์กิจกรรมการเรียนรู้ของ TK Park กำลังเตรียมงานนิทานสร้างงานศิลป์ ตอน ในอ้อมกอดคุณพระจันทร์ ซึ่งตั้งใจจะนำเรื่องราวความมหัศจรรย์ของพระจันทร์ในนิทาน ตำนาน และจินตนาการของผู้คนมาให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองได้ชม และจินตนาการกันต่อ ทีมงานก็นึกขึ้นได้ว่าศิลปินท่านหนึ่งมักมีพระจันทร์อยู่ในงานภาพประกอบเสมอ ก็เลยชวนมาร่วมงานนี้ด้วยซะเลย

คุณเกื้อกมล นิยม ศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงาน
บทความนี้ TK Park ประมวลเรื่องราวเบื้องหลังนิทรรศการ พร้อมพูดคุยกับคุณเกื้อกมล นิยม ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังชุดภาพประกอบในกรอบวงกลม จากนิทรรศการ “ในอ้อมกอดคุณพระจันทร์” ที่ลานสานฝันของ TK Park เมื่อเดือนมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งหลายครอบครัวน่าจะยังจำภาพและความประทับใจจากงานนั้นเหล่านั้นกันได้
งานของคุณเกื้อในฐานะศิลปิน ซึ่งคุณเกื้อเล่าว่าไม่เคยทำงานลักษณะนี้มาก่อน ก็คือ ต้องสร้างสรรค์ภาพประกอบเป็นพระจันทร์ตามคำให้การของคน 9 คน หลากหลายวัย หลากหลายอาชีพ แต่ความท้าทายนี้ คุณเกื้อบอกว่าตอบรับในทันที เพราะมั่นใจว่า "มีความสนุกรออยู่แน่นอน!"

พระจันทร์ที่แม่เล่า ของพนักงานรักษาความปลอดภัย
พนักงานรักษาความปลอดภัยวัย 35 ปี เล่าว่าเมื่อพูดถึงพระจันทร์ เขานึกถึงนิทานที่แม่เล่าให้ฟังสมัยยังเด็ก ตอนนั้นเขายังไม่ได้เข้ามากรุงเทพฯ จึงมักมองเห็นพระจันทร์จากท้องนาที่บ้าน ส่วนทุกวันนี้เขามองพระจันทร์รอบอาคารคอนโดมิเนียมที่เขาทำงานอยู่ และไม่ได้กลับไปเยี่ยมบ้านนานแล้ว ในภาพ คุณเกื้อกมล ศิลปินของเรา จึงนำจักรวาลบนฟากฟ้ามารวบรวมเป็นเรื่องเล่าจากปากแม่ เพราะนี่คือสิ่งแรกที่พนักงานรักษาความปลอดภัยคนนี้นึกถึง

พระจันทร์อันสังเกตได้ ของนักวิจัย
นักวิจัยพันธุวิศวกรรมในวัยไล่เลี่ยกัน มักมองพระจันทร์ในแต่ละช่วงเวลาระหว่างทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น เดินกลับบ้าน หลังออกกำลังกาย หรือนั่งรถไฟไปเที่ยว โดยสังเกตถึงรูปร่าง สีสัน และลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปของพระจันทร์ในแต่ละช่วงเวลาและสภาพอากาศ ศิลปินจึงหยิบเอารูปร่างลักษณะที่นักวิจัยบรรยายไว้มาจินตนาการต่อ โดยนำพระจันทร์หลากหลายแบบมาจัดวางกระจัดกระจาย เหมือนภาพที่เราจะเห็นในจานเพาะเชื้อในห้องทดลอง (Petri dish)

พระจันทร์แห่งการเริ่มต้นใหม่ ของนักอนุรักษ์
พระจันทร์ดวงนี้มีหลายมิติ เพราะนักอนุรักษ์ท่านนี้สวมบทบาทช่างภาพและชาวมุสลิมด้วย พระจันทร์คือวิถีของชาวมุสลิม เป็นสัญลักษณ์ปรากฏบนยอดมัสยิด เพราะชาวมุสลิมจะใช้การดูพระจันทร์เพื่อกำหนดวันสำหรับถือศีลอด หรือวันรอมดอน เมื่อถึงวันที่พระจันทร์เป็นเสี้ยวบาง ๆ เขาและเพื่อนชาวมุสลิมก็จะเริ่มถือศีลอด แต่เมื่อเขาเดินทางไปในป่า พระจันทร์จะเป็นเหมือนเพื่อนคลายเหงา และเป็นภาพประดับฉากหลังของภาพนกแสกที่ออกหากินเวลากลางคืน ศิลปินจึงถือโอกาสรวบรวมบริบทเหล่านี้ไว้ในภาพเดียว

พระจันทร์ที่ฉันขอมองคนเดียว ของนักเล่านิทาน
นักเล่านิทานคนนี้มองพระจันทร์ด้วยจิตวิญญาณอิสระ แต่ไม่ว่าเธอจะมองพระจันทร์จากบ้านที่ต่างจังหวัด หรือจากบนตึกคอนโดมิเนียม เธอก็มักจะตั้งใจเฝ้ามองมันอย่างพิจารณา ที่สำคัญ เธอชอบมองพระจันทร์คนเดียวไม่แบ่งใคร และการ “อาบแสงจันทร์” ก็ทำให้เธอรู้สึกได้รับพลังล้นเหลือ เพราะเหตุนี้ ศิลปินของเราจึงจินตนาการให้เธอกำลังอาบแสงจันทร์อย่างเต็มที่บนตึกสูง

พระจันทร์สามัญธรรมดา ของพระภิกษุ
การเปลี่ยนแปลงรูปร่างของพระจันทร์ในแต่ละคืน จากข้างขึ้นสู่ข้างแรมเป็นวัฏจักร และแสงที่หม่นลงเมื่อมองพระจันทร์จากในเมืองแห่งมลภาวะ ทำให้พระภิกษุเห็นว่าพระจันทร์ก็ย่อมเหมือนสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่เคยจีรัง และถ้ามองเป็นวิทยาศาสตร์ พระจันทร์ก็คือดาวดวงหนึ่งที่ไม่มีอากาศให้สิ่งมีชีวิตอาศัยได้ ข้อคิดนี้ทำให้ศิลปินเลือกที่จะไม่ใช้สีสันกับพระจันทร์เหล่านี้ และเลือกฉายไฟสว่างจากด้านหลัง เปรียบเหมือนปัญญาจากการใช้เหตุผลที่ลอดผ่านออกมาอย่างกระจ่างแจ้ง

พระจันทร์ที่เป็นสีฟ้าบ้างก็ได้ ของเด็กหญิงผู้พิการทางสายตา
เด็กหญิงคนนี้เคยเห็นพระจันทร์ก่อนสูญเสียการมองเห็นเมื่ออายุ 4 ขวบ แต่เธอยังจำความสวยงามเหมือนดอกบัว รูปร่างที่บางทีก็กลม บางทีก็เป็นเสี้ยว และสีเหลืองนวลของพระจันทร์ได้ดี อย่างไรก็ตาม เธอยังนึกอยากให้พระจันทร์มีสีฟ้า มีฝูงกระต่ายเริงร่า และอาจจะมีแมลงอย่างผีเสื้อให้เธอสามารถขึ้นไปวิ่งเล่นด้วยได้ ศิลปินจึงบันดาลพระจันทร์ของเธอให้ปรากฏแบบที่เด็กหญิงคนนี้อยากให้เป็น

พระจันทร์ที่อยากให้ใกล้กว่านี้ ของเชฟขนมอบ
เชฟขนมอบมัก “เผลอมอง” ดวงจันทร์ขณะเธอกำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ขี่จักรยาน แต่ถ้าต้องเดินทางไปแปลกที่ หรือมีปรากฏการณ์ใด ๆ เธอจะตั้งใจมองมันอย่างละเอียดจนพิจารณาลวดลายของมันที่อาจเกิดจากภูเขาที่ทอดเงาเป็นร่องรอยไม่สม่ำเสมอ จนบางครั้งเธอแอบนึกอยากให้พระจันทร์ดวงโตกว่านี้สักหน่อย เธอจะได้เห็นรายละเอียดของมันให้ชัด ดังนั้น ในโลกจินตนาการ ศิลปินจึงพาเธอขี่จักรยานพร้อมบรรดาขนมที่เธออบ ลอยขึ้นไปเข้าใกล้ดวงจันทร์ให้เธอเห็นรายของมันอย่างเต็มตา

พระจันทร์ปฏิทิน ของชาวประมง
ชาวประมงต้องรู้เวลาออกเรือไดหมึก และปฏิทินของคนทำอาชีพนี้ก็คือพระจันทร์ ช่วงข้างขึ้นใกล้คืนเดือนหงาย (คืนวันเพ็ญ) แสงจันทร์จะส่องสว่างขึ้นทุกคืน สว่างกว่าดวงไฟจากเรือไดหมึก จนทำให้ปลาหมึกเห็นอวนที่ชาวประมงปล่อยลงมาล่อ และไม่กล้าเข้ามาใกล้ ชาวประมงจึง “หยุดหงาย” ในช่วงนี้ และเมื่อพระจันทร์สว่างน้อยลงเพราะเสี้ยวจันทร์บางลง ชาวประมงก็จะกลับมาออกเรือดำเนินชีวิตอีกครั้ง ล้อไปกับวัฏจักรของธรรมชาติ ศิลปินจึงนำคำบอกเล่านี้มาเผยให้เห็นความงามของท้องทะเลยามค่ำคืน และวิถีชีวิตชาวประมง

พระจันทร์เริงร่าสว่างไสว ของ LGBTQ
เมื่อคิดถึงพระจันทร์ เขาจินตนาการว่าพระจันทร์คงจะเป็นโหลใสทรงกลมขนาดยักษ์ ที่บรรจุเม็ดทรายประกายทองไม่เต็มโหล สามารถเปล่งประกายแสงเองได้ และเมื่อแสงกระทบโดนก็จะยิ่งสว่างไสวกว่าเดิม ในยามค่ำคืน พระจันทร์จะกลิ้งตัวบนก้อนเมฆไปมา แล้วทรายข้างในก็จะไหลตาม บ้างก็ก่อตัวเป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามที่ใจอยากเป็นในแต่ละคืน ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย ปราสาท เครื่องบิน และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองจะเห็นรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ คืน ศิลปินจึงรวบรวมถ้อยคำและความเป็นไปได้เหล่านี้มาเรียงร้อยเป็นลูกกลมโตที่ม้วนตัวไปบนหมู่เมฆ

ในนิทรรศการนี้ คุณเกื้อกมล ศิลปินของเรา ยังนำผลงานศิลปะรูปพระจันทร์หนึ่งชิ้นจากคลังผลงานของตนเองมาร่วมแสดงด้วย ว่าแต่ ผู้อ่านหาเจอหรือเปล่าว่าผลงานนั้นอยู่ตรงไหนในนิทรรศการ และลองเดาได้ไหมว่าศิลปินของเราน่าจะรู้สึกและใฝ่ฝันถึงพระจันทร์อย่างไร
ติดตามบันทึกจากกิจกรรมน่าจดจำครึ่งปีแรกของอุทยานการเรียนรู้ TK Park ได้ที่เว็บไซต์ tkpark.or.th/tha/articles ได้ตลอดเดือนสิงหาคมนี้


