แอนนี่ ดิลลาร์ด นักเขียนหนังสือชื่อดังชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า “วิธีที่เราใช้เวลาในแต่ละวัน คือตัวบ่งบอกว่าเราใช้ชีวิตอย่างไร” ทุกคนบนโลกไม่ว่าอยู่ในเส้นไทม์โซนไหนล้วนมีเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงเท่ากัน ทว่าทำไมแต่ละคนถึงได้มีชีวิตแตกต่างกัน คำตอบนั้นง่ายดายมาก เพราะทุกคนล้วนใช้เวลาทั้งยี่สิบสี่ชั่วโมงนั้นในรูปแบบที่แตกต่างกัน
เราอาจเคยได้ยินคนส่วนใหญ่พูดว่าอยากทำอะไรบางอย่างแต่ไม่สามารถทำได้เพราะ ‘ไม่มีเวลา’ คำถามก็คือพวกเขาไม่มีเวลาจริงๆ หรือไม่อาจจัดการกับเวลาที่มีอยู่ได้กันแน่ เพื่อให้ทุกคนได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของเวลามากขึ้น ในวันนี้เราจะมาแนะนำวิชาทักษะชีวิตที่มีประโยชน์มากทักษะหนึ่งนั่นก็คือ Time Management หรือการบริหารจัดการเวลา ผ่าน 5 คอร์สที่เราสามารถลงเรียนออนไลน์ได้
ในช่วงที่เราต่างต้องกักตัวอยู่กับบ้าน อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่า มาเรียนเคล็ดลับบริหารเวลาอย่างมือโปรกันเถอะ
1. Work Smarter, Not Harder: Time Management for Personal & Professional Productivity
โดย มาร์กาเร็ต เมโลนี (Margaret Meloni)
แพลตฟอร์ม Coursera
ค่าใช้จ่าย ฟรี
เรามักจะชอบได้ยินคนที่ประสบความสำเร็จพูดบ่อยๆ ว่า การทำงานให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในเวลาที่สั้นที่สุด เราควรจะ Work Smart ไม่ใช่ Work Hard หรือพูดง่ายๆ ว่าการทำงานหนักขึ้นไม่สู้ทำงานอย่างชาญฉลาดมากขึ้น ในคอร์สเรียนครั้งนี้ มาร์กาเร็ต เมโลนี อาจารย์จากคณะบริหารธุรกิจ (MBA) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย จะมาสวมบทบาทเป็นคุณครูสอนเกี่ยวกับเทคนิคและกระบวนการในการบริหารจัดการเวลาอย่างมืออาชีพ
หัวใจหลักของคอร์สคือการสอนให้ผู้เรียนเข้าใจว่าต้องทำอย่างไรเราถึงจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาที่น้อยลง นั่นยังรวมไปถึงการบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอย่างชาญฉลาด ตลอดจนเรียนรู้เกี่ยวกับการปฏิเสธที่จะทำสิ่งไม่จำเป็นในเวลาที่จำเป็น โดยคอร์สนี้จัดว่าเป็นคอร์สที่ได้รับความนิยมคอร์สหนึ่งของทาง Coursera เลยทีเดียว มีผู้สมัครเรียนไปแล้วมากถึงเกือบสี่แสนคน และได้เรตติ้งสูงถึง 4.5/5 ที่สำคัญคือสามารถสมัครเรียนได้ฟรี ใครที่กำลังมองหาคอร์สเกี่ยวกับการจัดการเวลาที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงไม่ควรพลาด
2. Time Management Mastery: Do More, Stress Less
โดย อเล็กซิส ฮาเซลเบอเกอร์ (Alexis Haselberger)
แพลตฟอร์ม Udemy
ค่าใช้จ่าย 499 บาท
การจัดการเวลาไม่ดีคือต้นตอของสารพัดปัญหา บ่อยครั้งที่เรามักจะได้ยินคำพูดทำนองที่ว่า ‘ฉันมีเวลาไม่พอสำหรับทำสิ่งนั้น’ ‘ฉันมีเรื่องต้องจัดการเยอะเกินไป’ หรือแม้กระทั่งว่า ‘ฉันไม่มีเวลาพักเลย’ ความคิดที่ทับถมวนเวียนซ้ำแล้วซ้ำเล่าในทุกวันนอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังเป็นบ่อเกิดของความเครียดที่ทำให้เราเกิดอาการ Burn out หรือหมดไฟในการทำงานเอาได้ง่ายๆ
คอร์สการจัดการเวลาที่สอนโดย อเล็กซิส ฮาเซลเบอเกอร์ ผู้คร่ำหวอดในวงการการจัดการทรัพยากรบุคคลมามากกว่า 15 ปีถูกออกแบบขึ้นเพื่อช่วยคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน หรือคนที่ทำงานมาระยะหนึ่งแล้วแต่ยังไม่สามารถจัดการกับตารางชีวิตตนเองได้ วางแผนการลำดับความสำคัญและจัดการเวลาอย่างมืออาชีพ โดยจุดเด่นของคอร์สนี้คือผู้สอนไม่เพียงแค่สอนเกี่ยวกับทฤษฎี แต่ยังปูพื้นฐานตั้งแต่การปรับทัศนคติ การจัดการเวลาไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องเครียด ขอเพียงทองเห็นเป้าหมายและเข้าในลักษณะนิสัยของตนเอง ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นนักจัดการเวลามืออาชีพได้
3. Time Management: Working from Home
โดย เดฟ เครนชอว์ (Dave Crenshaw)
แพลตฟอร์ม Linkedin Learning
ค่าใช้จ่าย ฟรี
ในช่วงเวลาที่หลายคนต้อง Work From Home ตามนโยบายบริษัทเช่นนี้ เชื่อว่านอกจากปัญหาเรื่องการประสานงานกับเพื่อนร่วมงานแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนน่าจะต้องเผชิญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการจัดการกับเวลาในหนึ่งวัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะสามารถจัดการงานให้มี Productivity อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ขณะที่สภาพแวดล้อมเต็มไปด้วยสิ่งดึงดูดให้เราเสียสมาธิได้ง่าย
เดฟ เครนชอว์ เจ้าพ่อสื่อการสอนใน linkedin แพลตฟอร์มเครือข่ายการทำงานที่ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงได้สร้างคอร์สเกี่ยวกับการจัดการเวลาเมื่อต้องทำงานอยู่บ้านคอร์สนี้ขึ้น โดยรวบรวมเอาประสบการณ์การทำงานชั่วชีวิตมาถ่ายทอดเป็นลำดับขั้นตอนที่กระชับ เข้าใจง่าย ตั้งแต่กระบวนการการวางแผนในแต่ละวัน การติดต่อกับเพื่อนร่วมงาน ไปจนถึงเรื่องที่ฟังดูเล็กน้อยอย่างการจัดวางคอมพิวเตอร์ โดยมุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถจดจำทิปต่างๆ ไปปรับใช้ได้จริงกับการทำงานในปัจจุบัน ซึ่งคอร์สนี้ก็เรียกได้ว่ามีกระแสตอบรับที่ดีมาก จวบจนถึงปัจจุบันมีผู้เข้าชมและลงเรียนไปมากถึงกว่าเก้าแสนคนแล้ว
4. Time Management: Organize and Prioritize to Increase Your Productivity
โดย ทีมเดล คาร์เนกี (Dale Carnegie)
แพลตฟอร์ม Dale Carnegie
ค่าใช้จ่าย 4,500 บาท
หากการเริ่มต้นหาเวลาเปิดคลิปเรียนคอร์สการจัดการเวลานั้นทำให้คุณไม่มีแรงบันดาลใจในการเริ่มต้นเสียที ลองมาดูคอร์สที่ได้เรียนสดๆ กับวิทยากรดูบ้าง โดยคอร์สจากสถาบัน Dale Carnegie นี้ถือได้ว่าเป็นคอร์สด้านการบริหารเวลาที่มีชื่อเสียงในอเมริกาเลยทีเดียว ตัวคอร์สจะเปิดเพียงเดือนละหนึ่งครั้ง กินเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งชั่วโมง จุดเด่นของการเรียนที่นี่คือผู้ก่อตั้งสถาบัน คือ เดล คาร์เนกี ผู้เป็นนักเขียนและอาจารย์ชาวอเมริกัน เจ้าของหลักสูตรพัฒนาตนเอง คือคนเดียวกับที่เขียนหนังสือดังมากมาย อาทิ How to win friend and influence people และ Public Speaking and Influencing Men in Business
การเรียนในคอร์สนี้ ตัวผู้สอนจะช่วยให้เราได้ทำความเข้าใจกับตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนการค้นหาปัญหา อะไรคือสิ่งที่เราใช้เวลาไปด้วยมากที่สุด ส่วนไหนที่จำเป็นต้องปรับ และจะใช้เครื่องมือใดจึงจะเหมาะสมกับลักษณะนิสัยของเราที่สุด เพราะแต่ละคนล้วนมีจุดอ่อนไม่เหมือนกัน หากเราสามารถหาสาเหตุได้ถูกจุดการแก้ปัญหาในระยะยาวก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
5. Productivity Today: Managing Attention in the Digital Age | Learn with Todoist
โดย เควิน ซิสการ์ (Kevin Siskar)
แพลตฟอร์ม Skillshare
ค่าใช้จ่าย ฟรี
มาถึงคอร์สสุดท้ายที่เข้ากับวิถีการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่มากที่สุด กับสุดยอดคอร์สการบริหารจัดการเวลาในยุคดิจิทัลจาก Skillshare หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มักรู้สึกว่าเวลาทำงานไม่พอแต่มือก็ยังไถโทรศัพท์เล่นโซเชียลมีเดียไม่หยุด ลองมาปรับวิธีคิดและรูปแบบการใช้ชีวิตกับคอร์สที่จะช่วยเพิ่ม Productivity ในแต่ละวันดูหน่อยเป็นไร โดยคอร์สนี้มีผู้สอนคือ เควิน ซิสการ์ ผู้มีประวัติในแวดวงการบริหารมาอย่างโชกโชน และเป็น CEO คนปัจจุบันของบริษัท Finta สตาร์ทอัพเพื่อการระดมทุนชื่อดังระดับโลก
ตัวคอร์สถูกแบ่งออกเป็น 8 บทสั้นๆ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง เหมาะกับคนยุคนี้ที่ไม่ค่อยชอบดูหรือฟังอะไรยาวๆ เนื้อหามุ่งเน้นช่วยให้ผู้เรียนสามารถโฟกัสกับการทำงานได้มากขึ้น เรียนรู้ที่จะจัดการกับสิ่งเร้า ไปจนถึงแบ่งลำดับความสำคัญของการทำงานได้ นอกจากคนทำงานประจำแล้ว คอร์สนี้ยังค่อนข้างเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ทำงานฟรีแลนซ์ หรือคนที่ต้องทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ตลอด หากใครกำลังมีปัญหาเรื่องการจัดการเวลาเพราะติดโทรศัพท์มือถือจนเกินไป อยากให้ลองได้ฟังคอร์สนี้ดู
จบไปแล้วสำหรับ 5 คอร์สการบริหารจัดการเวลาดีๆ ที่เราคัดมาฝาก หากใครได้ทดลองเรียนคอร์สไหนแล้วนำไปปรับใช้จนเห็นผล อย่าลืมมาแชร์ให้เราฟังบ้างนะ