ปิดเทอมหน้าร้อนปีนี้ นอกจากจะมีงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติให้น้องๆ ได้ไปจับจ่ายเลือกซื้อหนังสือดีๆ ไว้อ่านในช่วงปิดเทอมแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาเดียวกับวันรักการอ่านและวันหนังสือเด็กแห่งชาติด้วย อุทยานการเรียนรู้ TK park จึงได้จัด กิจกรรมเนื่องในวันรักการอ่านและวันหนังสือเด็กแห่งชาติ ที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ได้สนุกกับนิทานหุ่นมือและนิทานภาพนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่
วันที่ 2 - 7 เมษายนที่ผ่านมา
เนื่องด้วยช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอมพอดี จึงมีผู้เข้ามาใช้บริการที่ TK park เป็นจำนวนมาก บริเวณลานสานฝันเนื่องแน่นไปด้วยน้องๆ ที่เข้ามาร่วมกิจกรรมเนื่องในวันรักการอ่านและวันหนังสือเด็กแห่งชาติกันอย่างคึกคัก มีมุมหนังสือนิทานภาพให้น้องๆ ได้นั่งอ่านกัน โดยแบ่งออกเป็นนิทานภาพของไทยและของต่างประเทศ ตัวอย่างนิทานภาพของไทยเช่น พระจันทร์ตกน้ำ, ต้นเอ๋ย ต้นไม้, ไม่อยากเป็นควาย, บ้องแบ๊ว และ แมวขี้กลัวกับแม่มดตัวเล็ก ล้วนแล้วแต่เป็นนิทานภาพของไทยที่ได้รับความนิยมอย่างสูง นอกจากนั้นยังมีมุมหนังสือนิทานภาพจากต่างประเทศอีกด้วย ตัวอย่างเช่น Duck Rabbit, Harris Finds His Feet, A Ball for Display, Not a Box นิทานภาพจากอาเซียนเช่น Go to Sleep Gecko! จากอินโดนีเซีย, รำคาญจริงๆ จากกัมพูชา, The Shepherd and His Cloud จากสิงคโปร์ รวมไปถึงแถบเอเชียอย่าง งานแรกของมี้จัง จากญี่ปุ่น และ กูจี กูจี จากจีน หนังสือนิทานภาพทุกเรื่องที่นำมาจัดให้อ่านกันภายในงาน นอกจากจะให้น้องๆ ได้อ่านกันอย่างมีความสุขแล้ว ยังถือเป็นการแนะนำหนังสือนิทานภาพดีๆ ให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้รู้จัก และช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อให้กับลูกๆ อีกด้วย
หลังจากที่น้องๆ ได้อ่านหนังสือนิทานภาพกันอย่างจุใจแล้ว บริเวณลานสานฝันยังมีฐานกิจกรรมเพื่อการเรียนรู้ทักษะด้านต่างๆได้แก่ 1.ตลาดนัดวงกลม 2. สวนสัตว์รูปทรง 3. ม.ม้า พันธุ์ใหม่ เริ่มจากกิจกรรม ตลาดนัดวงกลม เป็นกิจกรรมที่ให้น้องๆ ได้ฝึกทักษะเรื่องการสังเกตรูปทรงเรขาคณิตด้วยการจับจ่าย โดยมีใบรายการว่าเป็นรูปทรงชนิดไหน แล้วให้น้องๆ ไปช็อปปิ้งรูปทรงเหล่านั้นมาตามรายการที่ได้รับมา ซึ่งรูปทรงก็มีลักษณะเป็นรูปผลไม้ต่างๆ ให้น้องๆ ได้ฝึกและจดจำว่ารูปทรงชนิดไหนเหมือนผลไม้ชนิดอะไร
หลังจากนั้นน้องๆ ก็ไปสนุกกันต่อที่ สวนสัตว์รูปทรง กิจกรรมที่ให้น้องๆ ได้เรียนรู้รูปทรงเรขาคณิตผ่านแผ่นแม่เหล็กที่ประกอบกันเป็นรูปสัตว์ต่างๆ โดยเริ่มต้นให้น้องๆ ได้ลองต่อตามแบบก่อน เมื่อต่อได้แล้ว จึงให้น้องๆ ลองสร้างสรรค์การต่อด้วยตนเองให้เป็นรูปสัตว์ตามใจชอบ ฝึกจินตนาการของน้องๆ ได้เป็นอย่างดี
ก็มาต่อด้วยกิจกรรม ม.ม้า พันธุ์ใหม่ ที่ให้เด็กๆ ได้ฝึกทักษะการปั้นด้วย แป้งโด ซึ่งเป็นแป้งผสมสีที่ปลอดภัยและมีสีสันสวยงาม โดยมีรูปม้าน่ารักบนกระดาษเป็นต้นแบบ และให้น้องๆ นำแป้งโดปั้นและแปะลงไปบนตัวม้าคล้ายภาพนูนต่ำ เป็นการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กในการหยิบจับสิ่งของ ซึ่งน้องๆ สามารถสร้างสรรค์ลวดลายบนตัวม้าได้เองตามต้องการ ให้กลายเป็นม้าพันธุ์ใหม่นั่นเอง หลังจากที่ปั้นเสร็จแล้วก็สามารถนำผลงานกลับไปอวดคุณพ่อคุณแม่ได้ด้วย
พักจากกิจกรรมที่ต้องออกแรง เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังนิทานหุ่นมือกันบ้าง ซึ่งมีให้ฟังกันถึง 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือ
The Fox and the Hen ของ Eric Buttut นิทานแง่คิดดีๆ ที่ส่งตรงมาจากประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว เล่าเรื่องราวของแม่ไก่ที่ออกไข่มาแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะออกไข่เป็นครั้งแรก หมาป่าจึงขอแลกไข่กับหนอนตัวอ้วน แม่ไก่จึงแลกไป เพราะไม่รู้ว่าต้องนำไข่มาฟัก เพื่อนๆ ของแม่ไก่พอทราบข่าวจึงรีบบอกให้นำไข่กลับมา ไม่อย่างนั้นหมาป่าจะเอาไปกิน แต่แม่ไก่เอาของมากมายไปแลกเท่าไร หมาป่าก็ไม่ยอมคืนไข่กลับมา แม่ไก่จึงคิดอุบายเอาก้อนหินมาทาสีให้เป็นไข่ยักษ์ไปแลก หมาป่าที่โลภมากจึงยอมแลก แม่ไก่จึงได้ไข่ไก่กลับมาฟักในที่สุด
เรื่องที่สองมีชื่อว่า The Proud Butterfly and the Strange Tree ของ Jainal Amambing เป็นนิทานจากประเทศมาเลเซีย เพื่อนบ้านของเรานี่เอง เล่าเรื่องราวของผีเสื้อผู้เย่อหยิ่งที่ชอบชื่นชมความสวยงามของตัวเองและดูถูกความสวยงามของผู้อื่น เพราะเธอสวยงามมาก ผีเสื้อตัวอื่นๆ จึงพยายามจะขอเป็นเพื่อน แต่เธอก็ปฏิเสธด้วยความหยิ่งทรนงทุกครั้ง วันหนึ่งเธอได้พบกับต้นไม้สีดำที่ไม่สวยงามเลย เธอจึงทำลายต้นไม้นั้นทิ้งด้วยความไม่พอใจ จู่ๆ ต้นไม้ก็กลายเป็นต้นไม้ที่มีสีสันสวยงาม ผีเสื้อตัวนั้นกลับกลายเป็นสีดำแทนต้นไม้นั้น เธอรับไม่ได้รับสภาพร่างกายของตนเอง จึงไปขอร้องผีเสื้อตัวอื่นให้เป็นเพื่อน แต่ก็ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนเลย มันจึงกลับใจไปขอร้องต้นไม้ให้ตนเองกลับมาเป็นเหมือนเดิม ต้นไม้ก็ให้อภัยและมอบสีสันสวยงามให้เหมือนเดิม ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผีเสื้อตัวนั้นก็ไม่เป็นผีเสื้อที่เย่อหยิ่งอีกเลย
และเรื่องสุดท้าย เป็นนิทานจากไทยเรื่อง ม้าน้อยร้องเพลง ของ ชัยฤทธิ์ ศรีโรจน์ฤทธิ์ เล่าเรื่องราวของสัตว์ในฟาร์มที่กำลังร้องเพลงเป็นเสียงของตัวเองอย่างสนุกสนาน ม้าน้อยได้ยินจึงร้องเพลงตามเสียงของสัตว์ตัวอื่นๆ บ้าง แต่เสียงที่เปล่งออกมากลับเป็นเสียง ฮ. นกฮูก อย่างเดียว สัตว์ตัวอื่นๆ ในฟาร์มจึงขำขันกับเสียงของม้าน้อย มันเสียใจมาก วันหนึ่งม้าน้อยร้องเพลงเป็นเสียงที่แท้จริงของตัวเอง นกกระจิบพอได้ยินเข้าจึงชมว่าเสียงเพราะจังเลย ม้าน้อยจึงกลับมาใช้เสียงตัวเองร้องเพลงด้วยความภูมิใจอีกครั้ง
เต็มอิ่มกับนิทานหุ่นมือไปแล้ว หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมดีๆ นี้ไปแล้ว เชื่อว่าน้องๆ หลายคนคงยังรู้สึกติดอกติดใจกับความสนุกสนานของนิทานหลากหลายเรื่องที่ได้อ่านได้ฟังกันไป ซึ่งสิ่งดีๆ เหล่านี้จะคงอยู่ต่อไปได้ก็ขึ้นอยู่กับตัวน้องๆ เองที่สนใจหยิบหนังสือนิทานภาพดีๆ ขึ้นมาอ่านในเวลาว่าง และที่สำคัญคือการสนับของคุณพ่อคุณแม่ที่นำนิทานมาเล่าให้ลูกๆ ฟังกันอย่างสม่ำเสมอ ประโยชน์ที่แท้จริงของหนังสือนิทานภาพจึงจะสำเร็จผล
วิชญ์พล พลพิทักษ์ชัย