ปลูกฝังการอ่าน ผ่านสื่อสาระท้องถิ่นแม่ฮ่องสอน

          วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 สถาบันอุทยานการเรียนรู้ ร่วมกับเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน และวิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน จัดการอบรมการใช้หนังสือชุดสื่อการเรียนรู้สาระท้องถิ่นของจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีนายกิตติรัตน์ ปิติพานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้และผู้อำนวยการสถาบันอุทยานการเรียนรู้ นายปกรณ์ จีนาคำ นายกเทศมนตรีเมืองแม่ฮ่องสอน นายสุเทพ นุชทรวง ประธานสภาวิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน และนายคมสัน คูสินทรัพย์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน เข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิด โดยมีครู อาจารย์จากโรงเรียนในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าร่วมการอบรมรวม 60 คน ณ ลานหมอกใหม่ ศูนย์พัฒนาทักษะและการเรียนรู้ ICT อุทยานการเรียนรู้แม่ฮ่องสอน
           สถาบันอุทยานการเรียนรู้ ได้จัดทำหนังสือสื่อสาระท้องถิ่นจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 3 เล่ม ประกอบด้วยเรื่องโตอ่อน สามฤดูในเมืองสามหมอก และเมืองในหุบเขา และมีการจัดกิจกรรมการอบรมเพื่อส่งเสริมการใช้หนังสือสื่อสาระท้องถิ่น โดยคุณระพีพรรณ พัฒนเวช บรรณาธิการหนังสือสื่อสาระท้องถิ่นจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นวิทยากร เพื่อให้ ครู อาจารย์ ได้เรียนรู้วิธีการใช้หนังสือควบคู่กับกิจกรรมส่งเสริมการอ่านกระตุ้นให้เด็กและเยาวชน ตื่นตัว เรียนรู้ และบูรณาการความรู้ระหว่างรายวิชาและภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนในโรงเรียนได้

           นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า สถาบันอุทยานการเรียนรู้ ได้ดำเนินการจัดทำสื่อสาระท้องถิ่นภาพสำหรับเด็กให้แก่อุทยานการเรียนรู้เครือข่าย โดยร่วมมือกับนักวิชาการ นักเขียนและศิลปิน นำเรื่องราวภูมิปัญญาสาระท้องถิ่น วิถีชีวิตใกล้ตัว พร้อมสอดแทรกแนวคิดด้านคุณธรรม จริยธรรม มาเป็นเนื้อหาหนังสือ เพื่อพัฒนาการอ่านการเรียนรู้ตลอดจนสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก เยาวชนและประชาชนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้มีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นของตน ซึ่งสถาบันอุทยานการเรียนรู้ ได้มอบให้เทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอนและวิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอนเพื่อให้บริการและเผยแพร่ผ่านอุทยานการเรียนรู้แม่ฮ่องสอน
           “นอกเหนือจากการใช้ประโยชน์จากสื่อการเรียนรู้สาระท้องถิ่นชุดนี้แล้ว เรามีความคาดหวังว่า ครูและอาจารย์จะได้รับแรงบันดาลใจในการกระตุ้นให้นักเรียนได้ร่วมกันสร้างสรรค์สาระความรู้ในท้องถิ่นของตนเอง เพื่อให้เกิดการต่อยอดองค์ความรู้ไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของตนเองและชุมชนต่อไป”