ในวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2554 เป็นอีกหนึ่งวันที่มีอากาศดี ไม่ร้อนจนเกินไป ทำให้ภายในศูนย์ชุมชนหลังวัดปทุมวนารามมีบรรยากาศสบายๆ น้องๆ จึงมารวมตัวกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พี่ๆ ทีมงานจึงมีกำลังใจทำกิจกรรมอย่างตั้งอกตั้งใจกันให้มากที่สุด
พี่ๆ อวดภาพประกอบฝีมือน้องๆ
กิจกรรมแรกเริ่มต้นด้วยกิจกรรมต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว นิทานเรื่อง กระต่ายน้อยกับเพื่อนทั้งสาม สีเขียวหายไปไหน เจ้าหญิงทั้งหกพระองค์ ห้าสหายเที่ยวกรุง พ่อแม่มือใหม่กับไข่หนึ่งฟอง ทั้งหมด 5 เรื่องก็ได้หวนกลับมาสู่ความทรงจำของน้องๆ กันอีกครั้ง จากที่น้องๆ แต่ละกลุ่มช่วยกันแต่งนิทานขึ้นมากลุ่มละ 1 เรื่อง พร้อมทั้งยังมีการปั้นดินน้ำมันเป็นตัวละครต่างๆ เพื่อประกอบการเล่า ซึ่งในครั้งนี้กลับมาในรูปโฉมใหม่ที่สมบูรณ์แบบกว่าเดิม เพราะออกมาในรูปเล่มสวยงามด้วยฝีมือของตนเอง ในวันนั้นพี่ๆ ทีมงานก็ได้แอบเก็บภาพดินน้ำมันเหล่านี้ในรูปแบบภาพนิ่ง ในวันนี้จึงมีผลงานเป็นภาพประกอบอันสวยงามของน้องๆ เองหลายภาพ
ลงมือทำกันอย่างตั้งใจ
กิจกรรมนี้คือกิจกรรมที่ให้น้องๆ ได้มีผลงานเป็นหนังสือนิทานภาพของตนเองกันแล้ว โดยนำภาพถ่ายของแต่ละกลุ่มมาแปะลงบนกระดาษสีขาว บนพื้นที่ว่างก็เขียนบรรยายเรื่องจากที่เล่าไปครั้งที่แล้ว และถ้ากลุ่มไหนอยากวาดภาพประกอบเพิ่มเติมก็สามารถทำได้ทันที เพราะพี่ๆ ได้จัดเตรียมอุปกรณ์อย่าง ดินสอสี ปากกาเมจิก ไว้แล้ว ให้น้องๆ ได้สร้างสรรค์ผลงานกันอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งมีพี่ๆ ทีมงานคอยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด
ผลงานใกล้จะเสร็จแล้ว
พี่ๆ ปล่อยเวลาให้น้องๆ ได้อยู่กับผลงานของตัวเองอีกสักพัก หนังสือนิทานทั้ง 5 เล่ม ของ 5 กลุ่มก็พร้อมจะอวดโฉมกันแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผลงานที่ประมวลความรู้มาตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ให้น้องๆ ได้เห็นความสำคัญของหนังสือ การนำนิทานกลับไปอ่านที่บ้านเพื่อเพิ่มพูนทักษะการอ่านเขียน การออกมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง หรือแม้กระทั่งการเล่นกิจกรรมต่างๆ ที่ช่วยจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ ทั้งหมดนี้เมื่อนำมาใช้ผ่านความสามารถของน้องๆ จึงออกมาเป็นผลงานหนังสือนิทานอันน่าภาคภูมิใจ แต่ละกลุ่มก็ทำออกมาได้ดี แม้อาจจะไม่สมบูรณ์นัก เนื่องจากมีเวลาจำกัด แต่เล่มแรกทำได้ขนาดนี้ ก็เป็นที่น่าชื่นใจแล้ว
ออกมาเล่าประสบการณ์
หลังจากพักกินของว่างและอ่านหนังสือนิทานตามสะดวก พี่ๆ จึงเรียกน้องๆ กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อให้แต่ละคนออกมาเล่าประสบการณ์ว่า ยืมหนังสือนิทานกลับไปบ้านแล้ว นำไปทำอะไรบ้าง บางคนก็บอกว่านำไปอ่านเอง นำไปเล่าให้พ่อแม่ฟัง หรือใครที่ยังอ่านไม่ออกก็ให้พ่อแม่เล่าให้ฟัง นอกจากนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนกันอ่านในกลุ่มเพื่อน เรียกได้ว่าน้องๆ แต่ละคนนำหนังสือนิทานไปใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่
ประดิษฐ์ของเล่นด้วยฝีมือตนเอง
กิจกรรมต่อมา พี่ๆ แบ่งน้องๆ ออกเป็นกลุ่มเด็กโตและกลุ่มเด็กเล็กกันเช่นเดิม เพื่อความเหมาะสมกับกิจกรรม โดยกลุ่มเด็กโตมีการแบ่งกลุ่มกันเพื่อทำตุ๊กตาหุ่นมือ ที่ทำมาจากผ้าและตกแต่งด้วยเม็ดกระดุมสีสันต่างๆ แต่ก่อนที่จะลงมือทำพี่ๆ มีโจทย์ให้น้องๆ แต่ละกลุ่มคิดก่อนว่าจะทำเป็นตัวอะไร พร้อมตั้งชื่อให้ด้วย จึงจะเริ่มลงมือทำได้
Up And Down
ในเวลาเดียวกันน้องกลุ่มเด็กเล็กก็ได้เล่นเกม Up And Down เกมสนุกๆ ที่ช่วยเสริมสร้างทักษะทางคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษ มีอุปกรณ์คือกระดานขนาดใหญ่ระบุจำนวนช่องไว้ทั้งหมด 12 ช่อง พร้อมลูกเต๋าขนาดยักษ์ วิธีการเล่นคือให้น้อง 2 คนยืนอยู่บนจุดเริ่มต้นตรงกึ่งกลางของกระดาน ผลัดกันทอยลูกเต๋าคนละครั้ง ได้เลขอะไรก็เดินไปตามจำนวนช่องนั้นๆ แต่มีข้อแม้อยู่ว่าถ้าหน้าลูกเต๋าระบุว่า Up ให้เดินขึ้น และถ้าระบุว่า Down ให้เดินลง ใครสามารถเดินไปถึงเส้นชัยได้ก่อนจะเป็นผู้ชนะ น้องๆ ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเล่นกันจนครบทุกคน สร้างรอยยิ้มอิ่มเอิบไปตามๆ กัน
ลองเล่าเองบ้าง
เมื่อช่วงพักเหนื่อยจากการเล่นเกม พี่ๆ ยังมีนิทานสนุกๆ มาเล่าให้น้องกลุ่มเด็กเล็กได้ฟังกันต่อ แถมคราวนี้ไม่ได้ให้ฟังอย่างเดียว พี่ๆ ยังเปิดโอกาสให้ได้ลองหัดเล่านิทานเองอีกด้วย เพื่อเป็นการใช้ประสบการณ์จากการฟังนิทาน มาประยุกต์ใช้ในแบบของตนเองให้เกิดประโยชน์
อวดของเล่นของหนูเอง
กลับมาที่กลุ่มเด็กโตกันต่อ แต่ละกลุ่มก็ประดิษฐ์ตุ๊กตาหุ่นมือจวนจะเสร็จเรียบร้อยกันแล้ว จนกระทั่งมาถึงเวลาปล่อยของโชว์เพื่อนๆ กัน ผลงานก็เก๋ไก๋ไปตามสไตล์ของสมาชิกในกลุ่ม กลุ่มเด็กผู้ชายมีสีสันจัดจ้าน กลุ่มเด็กผู้หญิงมีสีสันหวานๆ หรือกลุ่มไหนที่มีทั้งชายและหญิงผลงานก็คละกันไป แถมตอนออกมานำเสนอยังมีเรื่องเล่าสนุกๆ และชื่อน่ารักๆ ของตุ๊กตาหุ่นมือให้เพื่อนๆ ได้หัวเราะกันด้วย
การประดิษฐ์ตุ๊กตาหุ่นมือนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของน้องๆ ที่ทำได้เป็นอย่างดี เพราะปกติน้องๆ อาจเล่นของเล่นที่ซื้อมา แต่พอได้ประดิษฐ์ของเล่นเองย่อมมีความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ซึ่งส่งผลให้เห็นคุณค่าของสิ่งของต่างๆ มากขึ้น และเรียนรู้ที่จะรักษาสิ่งของ หรือแม้กระทั่งผู้คนรอบข้างให้อยู่เคียงข้างตนเองไปนานๆ
และแล้วกิจกรรมในวันนี้ก็เดินทางมาถึงช่วงสุดท้าย แต่ในวันนี้ไม่มีหนังสือนิทานให้น้องๆ ยืมอย่างเคย เพราะว่ามีหนังสือนิทานเป็นของตนเองกันแล้ว โดยให้แต่กลุ่มแลกเปลี่ยนกันอ่าน เพื่อสำรวจความคิดและเรื่องราวนิทานของเพื่อนต่างกลุ่มว่าเป็นอย่างไร จะได้ทำความรู้จักและเข้าใจกันมากขึ้น
ในสัปดาห์หน้าก็เป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว สำหรับภารกิจการเดินทางมอบความสุขของพลพรรคความรู้ TK Mobile Library หนังสือเดินเท้า เรื่องเล่าเดินทาง มาร่วมติดตามความทรงจำดีๆ ในครั้งสุดท้ายนี้ไปพร้อมๆ กัน
วิชญ์พล พลพิทักษ์ชัย