แม้ฤดูร้อนปีนี้จะร้อนกว่าทุกปี แต่ย่างเข้าเดือนเมษายนเมื่อไร ความร้อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มรับวันปีใหม่แบบไทยๆ ในเทศกาลสงกรานต์
อุทยานการเรียนรู้ TK park ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์กันในทุกๆ ปี ซึ่งในปีนี้มาในชื่อกิจกรรมว่า สงกรานต์ บานตะไท ๒๕๕๕ กิจกรรมมอบความสุขครั้งใหญ่สมชื่องาน ให้ทั้งความสนุกสนานและได้ร่วมกันสืบสานประเพณีของไทย ยาวต่อเนื่องไปตลอดตั้งแต่วันที่ ๑๓ - ๒๒ เมษายน ๒๕๕๕ เลยทีเดียว เรียกได้ว่าถึงจะเลิกสาดน้ำกันไปแล้ว แต่กิจกรรมดีๆ ยังเปิดโอกาสให้เหล่าสมาชิก TK park ได้ซึมซับประเพณีของไทยกันอยู่
โดยในวันที่ ๑๓ เมษายน นั้นเป็นวันแรกของเทศกาลสงกรานต์และก็เป็นวันแรกของกิจกรรมเช่นกัน ผู้ปกครองและเด็กๆ เยาวชนต่างก็มาร่วมกิจกรรมบริเวณลานสานฝันกันอย่างคึกคัก ก่อนจะไปสนุกกับกิจกรรมที่ด้านหน้าก็มีพระพุทธรูปมาประดิษฐานให้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากนั้นจึงเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับเทศกาลสงกรานต์ผ่านนิทรรศการ โดยมีภาพประกอบอันสวยงามและเต็มไปด้วยความรู้มากมาย อาทิ ตำนานวันสงกรานต์ การละเล่นของไทย ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ รวมไปถึงเกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับวันสงกรานต์อีกด้วย
ปลดปล่อยจินตนาการจากดินสอพอง
ถัดจากนิทรรศการ เป็นซุ้มกิจกรรมที่ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทดลองทำ ดินสอพอง ด้วยตนเอง โดยชาวบ้านจาก หมู่บ้านดินสอพอง จังหวัดลพบุรี ซึ่งถือได้ว่าเป็นแหล่งผลิตดินสอพองที่ดีที่สุดแห่งเดียวในประเทศไทย เนื่องจากดินบริเวณนั้นมีเนื้อเนียนขาว ละเอียดแน่น จึงไม่เหมาะแก่การเพาะปลูก ชาวบ้านในละแวกนั้นจึงนิยมผลิตดินสอพองกันทุกครัวเรือน ดินสอพองมีคุณสมบัติเป็นสมุนไพรที่ใช้ประพรมร่างกายเพื่อให้รู้สึกเย็นสบายและช่วยลดอาการผดผื่นคันได้ น้องๆ ที่มาร่วมกิจกรรมจึงได้สนุกสนานกับการบีบดินสอพองเป็นรูปต่างๆ ตามจินตนาการ พร้อมยังได้ผลงานที่ทำเสร็จแล้วกลับไปใช้เองที่บ้านอีกด้วย
พักจากการประดิษฐ์ชั่วคราว และหันไปให้น้องๆ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้สนุกไปกับเกมโยนโบวลิ่ง Strike Songkran มีกติกาคือให้โยนลูกโบว์ลิ่งให้ลงล็อคที่มีตัวอักษรคำว่า ‘สงกรานต์’ อยู่ โดยเรียงตามลำดับตัวอักษร เพื่อให้น้องๆ ได้เรียนรู้การสะกดคำว่าสงกรานต์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษให้ถูกต้อง เพราะเนื่องจากคำนี้เป็นคำที่มักเขียนกันผิดอยู่บ่อยๆ เกมสนุกแถมความรู้แบบนี้ จึงเห็นน้องๆ เล่นอยู่ที่ฐานนี้กันนานเป็นพิเศษ
ประดิษฐ์ขลุ่ยนกด้วยตนเอง
เสร็จจากการโยนโบว์ลิ่ง ผู้เข้าร่วมกิจกรรมก็ได้ลงมือกันอีกครั้งกับการประดิษฐ์ ขลุ่ยนก โดย กลุ่มรุ่งอรุณของเล่นพื้นบ้าน ซึ่งถือเป็นของเล่นจากภูมิปัญญาไทยที่แสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของบรรพบุรุษ ตามประวัติแล้วขลุ่ยนกนั้น ถึงแม้จะมีชื่อเรียกว่าขลุ่ย แต่ไม่สามารถนำมาเล่นเป็นเครื่องดนตรีได้ เพราะมีเสียงไม่ครบจำนวนของตัวโน้ตดนตรี จึงใช้เป่าประกอบเพลงที่มีเสียงนกหรือใช้เป่าเล่นเลียนแบบเสียงนกแทน หลังจากประดิษฐ์เสร็จแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างเป่าเล่นกันอย่างสนุกสนาน ทำให้บรรยากาศรอบๆ ฐานกิจกรรมเจื้อยแจ้วราวกับมีนกหลายสิบตัวมาอยู่ในอุทยานการเรียนรู้ TK park เลยทีเดียว
หลังจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมดังกล่าวกันแล้ว ก็มาถึงช่วงเวลาที่จะได้ชมการแสดงบทเวทีกันบ้าง จะเรียกว่าเป็นมหรสพอันครื้นเครงประจำงานสงกรานต์ ณ ลานสานฝัน TK park ก็ว่าได้ เพราะเป็นการแสดงที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ประจำชาติไทยได้ดีที่สุด
การเดี่ยวระนาดแสนประทับใจ
เปิดเวทีด้วยการ โชว์เดี่ยวระนาด ของ น้องแซ็ค หรือ ด.ช.ชนะใจ แจ้งสว่าง เจ้าของฉายา “ขุนอินน้อย” ที่มีอายุเพียง ๑๑ ขวบเท่านั้น กับบทเพลงพื้นบ้านแสนไพเราะ แต่ที่น่าตื่นหูตื่นใจไปกว่านั้นคือการตีระนาดร่วมกับเสียงเครื่องดนตรีสากลได้อย่างลงตัว ก่อนจะมีเซอร์ไพรส์กันอีกรอบ ด้วยการเดี่ยวระนาดร่วมไปกับการรำไทยของ น้องเปียโน หรือ ด.ญ.ดั้งหมาย แจ้งสว่าง น้องสาวแท้ๆ ของน้องแซ็คนั่นเอง ที่มีอายุเพียง ๕ ขวบเท่านั้น สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นอย่างมาก
รำไทยประกอบระนาด
และหลังจากการแสดงจบลงก็มีการสัมภาษณ์จากพิธีกร โดยน้องแซ็คบอกว่า เหตุผลที่สนใจเล่นระนาดเพราะได้แรงบันดาลใจมาจากการชมภาพยนตร์เรื่อง โหมโรง และชื่นชอบตัวละคร ขุนอิน มาก จึงฝึกฝนระนาดอย่างจริงจังจนชำนาญขนาดนี้ สะท้อนถึงอิทธิพลของสื่อภาพยนตร์คุณภาพที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นได้จริง
สืบสานตำนานเพลงอีแซว
พักเวทีเพียงไม่นาน ก็มาเพลินหูเพลินตากับการละเล่น เพลงอีแซว โดย คณะของอาจารย์ชำเลือง มณีวงษ์ ปราชญ์เพลงอีแซวดีเด่น ๑๕ ปีซ้อน จากจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้สืบสานตำนานเพลงอีแซวมาอย่างยาวนาน ซึ่งเพลงอีแซวนั้นถือกำเนิดในจังหวัดสุพรรณบุรีมากว่าร้อยปีแล้ว มักร้องเล่นกันในงานรื่นเริง เช่น วันสงกรานต์ วันลอยกระทง งานทอดกฐิน มีลักษณะเด่นคือการร้องโต้ตอบกันระหว่างชายหญิง มีลูกคู่รับส่งจังหวะเป็นบทกลอนที่น่าฟัง ในปัจจุบันหาชมได้ยากเต็มที เพราะการแสดงของต่างชาติเข้ามามีอิทธิพลมากขึ้นทุกวัน การเล่นเพลงอีแซวในครั้งนี้ จึงถือเป็นโอกาสพิเศษที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ร่วมกันสืบสานมรดกล้ำค่าของไทยนี้ให้คงอยู่ต่อไป
ร้องเล่นเพลงอีแซวสุดครื้นเครง
การเล่นเริ่มต้นด้วยบทเกริ่นจากน้ำเสียงของอาจารย์ชำเลือง กล่าวถึงความยินดีที่ได้มาแสดงยังอุทยานการเรียนรู้ TK park แห่งนี้ในโอกาสพิเศษอย่างวันสงกรานต์ ต่อด้วยการร้องเล่นของสมาชิกในคณะกว่าสิบชีวิต ซึ่งเป็นวัยรุ่นยุคใหม่ แต่ยังสนใจวัฒนธรรมพื้นบ้านของบรรพบุรุษ เนื้อหาที่ร้องเล่นได้กล่าวถึงวัฒนธรรมไทยที่กำลังหายไปด้วยอิทธิพลของต่างประเทศ จึงอยากให้ร่วมกันอนุรักษ์ไว้ ก่อนจะเปลี่ยนไปกล่าวถึงความกตัญญูต่อญาติผู้ใหญ่ เพราะวันนี้ 13 เมษายน นอกจากเป็นวันมหาสงกรานต์แล้วยังเป็นวันผู้สูงอายุ อยากให้ลูกหลานนึกถึงบุญคุณของปู่ย่าตายาย ต่อด้วยการกล่าวถึงตำนานวันสงกรานต์ ที่สามารถย่นย่อประวัติด้วยลีลาของภาษาอันสวยงาม ผสมผสานกับจังหวะอันสนุกสนาน ทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมรู้ถึงตำนานสงกรานต์ได้อย่างรวดเร็ว และปิดท้ายด้วยการกล่าวถึงค่านิยมสมัยใหม่ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางแย่ลง ทั้งความประพฤติและการแต่งกาย อยากให้นึกถึงค่านิยมอันดีงามของไทยบ้าง ซึ่งตลอดการแสดงผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เห็นการรับส่งของจังหวะดนตรีและถ้อยคำที่เคล้าไปด้วยมุขตลก แต่แฝงข้อคิดดีๆ ไว้มากมาย
หลังการแสดงจบลงอาจารย์ชำเลืองก็ได้มากล่าวฝากถึงเยาวชนทุกคนว่า อยากให้หันกลับไปมองท้องถิ่นของตนเองบ้าง เพราะหากไม่สนใจกันตั้งแต่ตอนนี้ อีกไม่นานมรดกอันล้ำค่าจากบรรพบุรุษของเราจะสูญหายไปตามกาลเวลา และจะไม่หลงเหลือสิ่งใดไว้ให้ลูกหลานได้เชยชมกันอีก
ก่อนจะเสร็จสิ้นกิจกรรมในวันนี้ไป ลองมาฟังเสียงของผู้เข้าร่วมกิจกรรมกันหน่อย ว่ารู้สึกอย่างไรกับเทศกาลสงกรานต์ บานตะไท ๒๕๕๕ กันบ้าง
“ปกติสงกรานต์จะไปต่างจังหวัด แต่พอดีปีนี้อยู่กรุงเทพฯ น้องเลยอยากมาดูงานที่อุทยานการเรียนรู้ TK park เพราะมาประจำอยู่แล้ว พอได้มาเห็นอะไรไทยๆ แบบนี้น้องรู้สึกตื่นเต้น เขาไม่เคยเห็นดินสอพองมาก่อนหรือขลุ่ยนกก็เคยซื้อเล่น แต่ไม่เคยทำเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้หาได้ยากในชีวิตของเด็กกรุงเทพฯ จะเคยเห็นแค่ในหนังสือเท่านั้น การได้มาเห็นของจริงจึงเป็นเรื่องที่ดีมาก ปีหน้าถ้าอยู่กรุงเทพฯ จะพาน้องมาอีกแน่ๆ ค่ะ” คุณแม่ริกาญจน์ ฉัตรสกุลวิไล ที่พาน้องปันปันและน้องปิงปิงมาร่วมงานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ได้เห็นรอยยิ้มของผู้เข้าร่วมกิจกรรมมากมายขนาดนี้ จะปีไหนๆ เทศกาลสงกรานต์ก็เป็นช่วงเวลาพิเศษของคนไทยทุกคนจริงๆ
อุทยานการเรียนรู้ TK park ยังมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ ศิลปวัฒนธรรมเป็นประจำทุกเดือน สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ www.tkpark.or.th หรือ www.facebook.com/tkparkclub