ในปี ค.ศ. 2015 (พ.ศ. 2558) อาเซียน หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of South East Asian Nations หรือ ASEAN) จะมีการเปิดเสรีการค้าที่เรียกว่า “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” (ASEAN Economic Community: AEC) ปัจจุบันอาเซียนมีสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ประกอบด้วย บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม ซึ่งในการรวมตัวกันนี้ “การท่องเที่ยว” ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเศรษฐกิจที่จะเป็นตัวผลักดันให้เศรษฐกิจในภูมิภาคเติบโตได้เป็นอย่างดี โดยมีการคาดการณ์ว่า ในปี พ.ศ. 2558 จะมีเม็ดเงินจากธุรกิจการท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก และประเทศไทยจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้
ด้วยศักยภาพทางการท่องเที่ยวของประเทศสมาชิกอาเซียน สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) หรือ TK park สังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และภาคีเครือข่ายจัดงาน “นิทรรศการพิพิธอาเซียน...A Journey through ASEAN” ภาค 2 อาเซียน...หนึ่งจุดหมาย หลายประสบการณ์ ASEAN TOWARD ONE DESTINATION ขึ้นระหว่างวันเสาร์ที่ 28 - วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน และวันเสาร์ที่ 5 - วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ณ อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อให้คนไทยได้เรียนรู้เพื่อนบ้านผ่านนิทรรศการมีชีวิต ภาพยนตร์จากประเทศเพื่อนบ้าน “อาเซียนกลางแปลง” การแสดงวัฒนธรรมอาเซียน ดนตรีเพื่อการศึกษา และเอาใจนักอ่านด้วยมุมหนังสือใหม่ ASEAN Knowledge Corner แหล่งรวบรวมหนังสือและสื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับอาเซียน
ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) และผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK park ในฐานะหน่วยงานที่สนับสนุนส่งเสริมการปลูกฝังให้เยาวชนมีนิสัยรักการอ่าน การเรียนรู้ และแสวงหาความรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้สังคมไทยเป็นสังคมฐานความรู้ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการความร่วมมือทางวิชาการกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงภาคีเครือข่ายที่ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการ “พิพิธอาเซียน...A Journey through ASEAN” ขึ้น ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2
สำหรับเนื้อหาที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ เป็นการนำเอาผลงานวิจัยด้านแหล่งท่องเที่ยวของอาเซียนเป็นจุดหมายเดียว หรือ Single Destination ที่เป็นการรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับการทำงานวิจัยด้านการท่องเที่ยวของไทยและสมาชิกอาเซียน ตามแนวคิดที่ว่า “การจัดการท่องเที่ยวต้องดำเนินการร่วมกันถึงจะอยู่รอดทั้งภูมิภาค หากแต่จุดยืนของแต่ละประเทศนั้น ต้องแตกต่างกัน” จึงจะทำให้เกิดความแข็งแกร่งของการท่องเที่ยวทั้งภูมิภาค
นอกจากนี้ภายในงานยังได้มีการนำภาพยนตร์จากประเทศเพื่อนบ้านที่หาดูยากมาให้คนไทยได้รับชมกันใน “อาเซียนกลางแปลง” การแสดงทางวัฒนธรรม ตลอดจนการเสวนาเรื่อง “การเตรียมความพร้อมก้าวสู่ประชาคมอาเซียน พ.ศ. 2558” โดยคุณหญิงลักษณาจันทร เลาหพันธุ์ นายกสมาคมอาเซียนประเทศไทย และ “อาเซียน...หนึ่งจุดหมาย หลายประสบการณ์ ASEAN TOWARD ONE DESTINATION” โดย ดร.เทิดชาย ช่วยบำรุง ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว (นักวิจัยจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย)
อย่างไรก็ดี ในโอกาสนี้อุทยานการเรียนรู้ TK park ยังได้เอาใจนักอ่านด้วยการจัดมุมหนังสือใหม่ ASEAN Knowledge Corner ซึ่งจะเป็นแหล่งรวมหนังสือ และสื่อการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ให้กับผู้ที่มาใช้บริการภายในห้องสมุด TK park เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูลอีกด้วย
ด้าน ศ.ดร.สวัสดิ์ ตันตระรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) กล่าวว่า สกว.เป็นองค์กรของรัฐภายใต้การกำกับของสำนักนายกรัฐมนตรี มีบทบาทสำคัญในการสร้างคน สร้างองค์ความรู้ผ่านกระบวนการสนับสนุนทุนการวิจัยและการบริหารจัดการงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา สกว.ได้สนับสนุนงานวิจัยหลากหลายประเด็น ซึ่งรวมถึงเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสังคมวงกว้าง เช่น การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี ค.ศ. 2015 ที่ สกว.ได้จัดเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งในการสนับสนุนการวิจัยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553
สำหรับนิทรรศการพิพิธอาเซียน ครั้งที่ 2 นี้ สกว.และ TK park ได้ร่วมกันเลือกโครงการวิจัยในประเด็นการท่องเที่ยวอาเซียนมานำเสนอให้กับเยาวชน ทางด้านการจัดการการท่องเที่ยวของประเทศต่างๆ ในอาเซียน และการเตรียมตัวเป็นนักท่องเที่ยวที่จะมองเห็นจุดเด่น จุดด้อย และศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดของการท่องเที่ยวแต่ละประเทศ
จากการที่ทางองค์การการท่องเที่ยวโลก (World Tourism Organization: WTO) ได้มีการคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในอาเซียนจะเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านคนในปี พ.ศ. 2558 ซึ่งเป็นปีที่ก้าวสู่การเป็น AEC อย่างสมบูรณ์ จากระดับเฉลี่ย 67.5 ล้านคนต่อปีในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้อาเซียนก้าวขึ้นเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก รวมทั้งดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในธุรกิจท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่องให้หลั่งไหลเข้ามาในภูมิภาคนี้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยมีแนวโน้มขยายตัวสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้น ประเทศไทยต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับความท้าทายใหม่นี้ ซึ่งงานวิจัยถือเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สำคัญในการสร้างเข็มทิศที่ช่วยทำให้ทราบถึง สถานการณ์การท่องเที่ยว จุดอ่อน จุดแข็ง และทิศทางในการพัฒนาที่แน่ชัด
“จึงหวังว่านิทรรศการ “พิพิธอาเซียน...A Journey through ASEAN” ภาค 2 นี้ จะมีส่วนช่วยให้เด็ก เยาวชน และประชาชนไทยได้เรียนรู้ และเข้าใจความรู้พื้นฐานที่หลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวของอาเซียนผ่านงานวิจัย รวมทั้งได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างของจุดยืน และเสน่ห์การท่องเที่ยวของประเทศสมาชิกตลอดจนได้ฝึกการเรียนรู้ด้านภาษาพูด และฝึกการเขียนภาษาของเพื่อนบ้านอย่างง่าย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้สังคมไทยเตรียมตัวเดินหน้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนต่อไป” ผอ.สกว.กล่าว
ด้าน คุณบุษฎี สันติพิทักษ์ รองอธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเสริมว่า การเลือกหัวข้อหลักด้านการท่องเที่ยวสำหรับนิทรรศการพิพิธอาเซียนในปีนี้ มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะการท่องเที่ยวมิได้มีความสำคัญในเชิงเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยน ติดต่อ และความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนของประเทศอาเซียน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำความรู้จักและเพิ่มพูนความเข้าใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีทั้งความเหมือนและแตกต่างระหว่างกันในกลุ่มประเทศสมาชิก
“ต้องขอชื่นชมความคิดริเริ่มในการจัดนิทรรศการดังกล่าวของอุทยานการเรียนรู้ TK park ซึ่งจะเห็นได้จากนิทรรศการพิพิธอาเซียนครั้งแรก ประสบความสำเร็จอย่างดีและได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน จึงเชื่อว่าการจัดนิทรรศการพิพิธอาเซียนในครั้งนี้ จะให้ทั้งความบันเทิง และความรู้เกี่ยวกับประเทศสมาชิกอาเซียนแก่เยาวชนและสาธารณชนทั่วไปเป็นอย่างดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่ข้อมูลประเทศอาเซียนและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเรื่องอาเซียนแก่กลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ๆ สืบต่อไป”
อนึ่ง องค์กรภาคีเครือข่ายที่ให้การสนับสนุนการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย กรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ, กรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ, สมาคมอาเซียน-ประเทศไทย, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทย, สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์, สถานเอกอัครราชทูตมาเลเซีย ประจำประเทศไทย, การท่องเที่ยวมาเลเซีย ประจำประเทศไทย สำนักงานกรุงเทพฯ, องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย, มหาวิทยาลัยนเรศวร และโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จังหวัดลพบุรี