สร้างกระแสอย่างต่อเนื่องสำหรับหนังสือ Spare หรือที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ‘ตัวสำรอง’ ของเจ้าชายแฮร์รี ที่ออกมาตีแผ่ชีวิตของตัวเองผ่านความทรงจำตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จนถึงวันที่พระองค์ตัดสินใจประกาศสละฐานันดรศักดิ์ รวมถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกราชวงศ์อังกฤษคนอื่น ๆ อย่างละเอียดยิบ อินไซด์ จนเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปทั่วโลกตั้งแต่ยังไม่ได้ออกวางขาย
ตลอด 410 หน้าของหนังสือเล่มนี้ มีหลายประเด็นที่สั่นคลอนราชวงศ์อังกฤษ ส่วนตัวเจ้าชายแฮร์รีเองก็ตรัสว่าได้นี่ยังไม่ใช่ทั้งหมดที่ มาจากความทรงจำนะ เพราะทรงต้องการหลีกเลี่ยงดราม่าบางอย่างระหว่างพระองค์เองกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งเป็นพระบิดา และยังมีประเด็นกับพระเชษฐาอย่างเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์อีก หากทรงใส่รายละเอียดทุกอย่างลงไปหนังสือคงหนาถึง 800 หน้าและอาจมองหน้ากันไม่ติดอีกเลย
“ตอนนี้คุณอาจแย้งได้ว่าบางสิ่งที่ฉันใส่ลงไป พวกเขาจะไม่ยกโทษให้ฉันอยู่ดี” เจ้าชายแฮรี่ บอกระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ Bryony Gordon จากหนังสือพิมพ์ The Telegraph
ถึงจะทรงชั่งพระทัยและยั้งไว้อีกหลายเรื่อง (ที่ทรงบอกว่าเก็บไว้เขียนหนังสือได้อีกเล่ม) หนังสือก็สร้างแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้างแล้ว โดยเฉพาะประเด็นทีเกี่ยวกับความขัดแย้งที่ถูกเผยออกมาต่อสาธารณะอย่างละเอียด ส่งผลให้เหล่าพีอาร์งานสังคมต้องคิดหนักในการเชิญคู่ของเจ้าชายแฮรีและเมแกนไปร่วมงาน ทีนี้เรามาดูกันว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่เป็นเผือกร้อนในหนังสือ โดยที่เจ้าชายอาจไม่ได้ทรงคิดว่ามันจะไปไกลขนาดนั้น ก็แค่ความทรงจำ
- เจ้าชายแฮร์รีและเจ้าชายวิลเลียมพระเชษฐา ทรงเคยอ้อนวอนไม่ให้พระบิดาอภิเษกสมรสกับคามิลลา พาร์กเกอร์ โบลส์
- เจ้าชายแฮรีเคยใช้ยาเสพติดและยากล่อมประสาท ในหนังสือบอกว่าทรงลองใช้โคเคนตั้งแต่อายุ 17
- ทรงเสียพรหมจรรย์ครั้งแรกให้กับหญิงอายุมากกว่าที่สนามหญ้าหลังผับที่เต็มไปด้วยนักท่องราตรี และทรงมั่นใจว่ามีคนเห็นแน่นอน
- พระเชษฐา เจ้าชายวิลเลียมไม่อยากให้เจ้าชายแฮร์รี เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ตอนที่เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงแคเธอรีน
- เจ้าชายวิลเลียม ได้ทำร้ายเจ้าชายแฮร์รี่ระหว่างการทะเลาะกัน ซึ่งต้นเหตุมาจากเรื่องเมแกน
- เมแกน และเจ้าหญิงแคเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ มีเรื่องบาดหมางกัน
- เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคเธอรีนเป็นคนช่วยเลือกชุดนาซีที่เจ้าชายแฮร์รีแต่งไปงานเลี้ยงแฟนซีในปี พ.ศ. 2548 แล้วถูกสื่ออังกฤษวิจารณ์ยับ
- ในระหว่างที่รับใช้กองทัพ เจ้าชายแฮร์รีได้สังหารกองกำลังติดอาวุธ ของตาลีบันไป 25 รายขณะร่วมรบในอัฟกานิสถาน
- เจ้าชายทรงได้รับรู้ข่าวควีนเอลิซาเบธสวรรคตจากเว็บไซต์ BBC ก่อนที่จะได้ข่าวจากทางราชวงศ์โดยตรง
- พระบิดาและคามิลลา (ปัจจุบันบันพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 และราชินี) ปล่อยข่าวที่สร้างความเสียหายให้เจ้าชายแฮร์รี่และเจ้าชายวิลเลียมให้หนังสือพิมพ์ เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสาธารณะ
- เจ้าชายแฮร์รีเคยจ้างคนทรง เพื่อถามเรื่องเกี่ยวกับพระมารดา คือ เจ้าหญิงไดอาน่า นอกจากนี้เคยให้คนขับรถขับไปในอุโมงค์ด้วยความเร็วเดียวกับคืนที่เกิดอุบัติเหตุด้วย
ในมุมมองคนอ่าน บางเรื่องเจ้าชายแฮร์รีไม่ควรพูดถึงเลย เช่นเรื่องการฆ่าตาลีบัน หรือแม้แต่เรื่องส่วนตัวอย่างการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกก็ตาม สิ่งที่พระองค์ทรงประสบหรือทรงทำไปบางเรื่องอ่านแล้วก็อึ้ง โดยเฉพาะเรื่องการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พระองค์ยังคงต้องทนทุกข์กับอาการของโรค PTSD (Post-traumatic stress disorder) การบอกข่าวการตายของพระมารดา ซึ่ง พระองค์เขียนจากความจำว่า “Pa” (พระบิดา) ไม่แม้แต่จะกอดพระองค์ ซึ่งหากจินตนาการก็จะเห็นว่าเจ้าชายองค์น้อยในวันนั้นพระทัยสลายมาก ๆ
หากหนังสือจะมีเรื่องเบา ๆ บ้างก็คงจะเป็นรายละเอียดเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างเรื่องที่พระบิดา (กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3) ทรงติดตุ๊กตาหมีเทดดีแบร์ตัวหนึ่งซึ่งเป็นตุ๊กตาที่พระองค์เคยทรงพาไปอยู่โรงเรียนประจำในสกอตแลนด์ด้วยกัน เจ้าชายทรงเขียนถึงตุ๊กตาตัวนี้ว่าน่าสงสาร ด้ายก็หลุดรุ่ย ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยปะ และปิดท้ายด้วยการแซะพระบิดาว่า “เจ้าหมีเทดดีแสดงอารมณ์เหงาในวัยเยาว์ของเสด็จพ่อได้ดีเสียยิ่งกว่าตัวพระองค์เอง”
เรื่องที่น่าจะอมยิ้มได้คือความสัมพันธ์ที่น่ารักของพระองค์กับควีนเอลิซาเบธพระอัยยิกา ซึ่งทรงมีพระราชปฏิสันถารหลายเรื่อง ทั้งเรื่องส่วนตัวอย่างเรื่องสุขภาพของพระองค์ ไปจนถึงปัญหาระดับประเทศอย่างเรื่องทางการเมือง และปัญหาภัยแล้งรุนแรง (ในขณะนั้น) ปัญหาความแห้งแล้งนำมาสู่บทสนทนาเรื่องสนามหญ้าอันแห้งเหี่ยวที่พระตำหนักฟรอกมอร์ ซึ่งเป็นที่พำนักของเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน เจ้าชายแฮร์รีกล่าวว่า “สนามหญ้าตอนนี้ก็เหมือนผมของหลานครับเสด็จย่า…ล้านและมีสีน้ำตาลเป็นหย่อม ๆ” ทำให้ควีนเอลิซาเบธถึงกับทรงพระสรวล
เจ้าชายแฮร์รีทรงมีความสัมพันธ์ที่น่ารักกับพระอัยยิกาที่ไม่มีโอกาสได้พบกันอีกแล้ว แต่ในขณะเดียวกันรอยร้าวกับพระบิดาและพระเชษฐาที่ทุกคนเห็นในหนังสือนั้นน่าจะรุนแรงมากขึ้น จนเจ้าชายแฮร์รีเองก็รู้สึกได้ “เราอยากจะได้พ่อและพี่ชายของเราคืนมา” เจ้าชายแฮร์รี กล่าว นอกจากนั้นพระองค์ทรงหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเปลี่ยนความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์กับสื่อ และป้องกันไม่ให้ราชวงศ์ตัวน้อย ๆ รุ่นใหม่ที่เป็นพระโอรส พระธิดาของเจ้าชายวิลเลียมตกอยู่ในภาวะ “spare” เหมือนพระองค์
คงต้องให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าหนังสือเล่มนี้จะทำหน้าที่ที่มุ่งหวังได้หรือไม่
Spare by Prince Harry The Duke of Sussex พร้อมให้สมาชิก TK Park ได้หยิบ ยืมอ่านแล้ววันนี้ที่ TK Park ชั้น 8 centralwOrld และยังมีให้บริการทั้งในรูปแบบ eBooks และสามารถยืมฟัง Audiobook ที่เจ้าฟ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ อ่านหนังสือเล่มนี้ให้นักอ่านฟังด้วยตนเอง คลิกจองกันได้ ทางแอป Libby by Overdrive หรือคลิก https://libbyapp.com/search/tkpark/search/query-spare/page-1
อ้างอิง
https://www.nytimes.com/2023/01/10/books/prince-harry-spare-book.html
https://www.theguardian.com/books/2023/jan/04/prince-harry-william-physical-attack-2019-meghan-spare-book
https://edition.cnn.com/2023/01/09/europe/prince-harry-spare-book-takeaways-intl/index.html
https://www.bbc.com/news/uk-64220688
https://www.shefinds.com/collections/prince-harry-meghan-markle-snubbed-baftas/