บทบาทของนิทาน นอกเหนือจากการส่งเสริมด้านภาษา สติปัญญาและจินตนาการแล้ว นิทานยังมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการสนับสนุนด้านอารมณ์และความรู้สึก
อารมณ์มีผลอย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ เด็กๆที่มีพื้นอารมณ์แจ่มใส เบิกบาน สมองจะเปิด ทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีวิธีการและเครื่องมือหลายอย่างที่ส่งเสริมและพัฒนาด้านอารมณ์ นิทานภาพเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สำคัญที่เราไม่อาจมองข้ามได้เลย TK Park มี “10 นิทานอ่านแล้วดีต่อใจ” มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาและเลือกนิทานให้กับลูกๆ
นิทานอ่านแล้วอารมณ์ดี มีมุขตลก เล่าเรื่องผ่านมุมมองของเจ้าสุนัขที่ดูเหมือนว่ากำลังนินทาเจ้านายตัวน้อย เรื่องราวสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างคนกับสุนัขเลี้ยง เป็นความสัมพันธ์เรียบง่ายที่อยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจและยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกัน
“ผมเป็นหมา…..ส่วนเขาเป็นคน”
“เขาหัวเราะ…..แต่ผมกระดิกหาง”
“เวลาที่เราเล่นต่อสู้ เขาต่อย…..ผมกัด”
“เวลาฉี่ เขายกขา…..ผมไม่ยก”
“เขารักนิทาน.....แต่ผมชอบกระดูก”
“เราสองคนไม่เหมือนกันเลย.....แต่เป็นเพื่อนกัน”
การนำเสนอเนื้อหาและมีมุมมองที่น่าสนใจ นำเสนอผ่านภาพและภาษาที่กะทัดรัด เข้าใจง่าย ฟังสนุกและอมยิ้มไปกับเพื่อนรักต่างสายพันธุ์ นิทานเล่มนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่คุณพ่อแม่จะเริ่มต้นปลูกฝังความสนใจหนังสือและนิสัยการรักการอ่านของเด็กๆ เป็นเรื่องที่เด็กๆ มักจะเรียกร้องให้อ่านให้ฟังซ้ำหลายๆ ครั้งค่ะ
ในฤดูหนาวที่แสนหนาวเหน็บ หิมะกำลังตกหนัก แต่คุณแม่ไก่ก็อุ่นสบายด้วยผ้าพันคอผืนยาว แต่เอ๊ะ! ยังมีเพื่อนของเธออีกตั้ง 3 ตัว เจ้านกน้อย คุณกระต่ายและคุณจิ้งจอกกำลังหนาวสั่น
“ฉันกำลังจะแข็งตายอยู่แล้ว แบ่งผ้าพันคอให้ฉันสักนิดได้ไหมจ๊ะ?”
คุณแม่ไก่ค่อยๆ พันผ้ารอบคอเจ้านกน้อยอย่างอ่อนโยน…..
คุณกระต่าย เจ้าจิ้งจอก ทีละตัว ทีละตัวเข้ามาขอด้วย
ผ้าพันคอของคุณแม่ไก่จะมีเพียงพอให้กับเพื่อนทุกคนไหมนะ?
นิทานภาพแสนอบอุ่นและอวลไปด้วยความรัก เรื่องราวของคุณแม่ไก่ที่มีความสุขกับการแบ่งปันผ้าพันคอผืนยาวของเธอให้กับเพื่อนๆ ฟังแล้วมีความสุข เบิกบานและสร้างแรงบันดาลใจ
“แบ่งปันกันคนนะนิด ใกล้ชิดและโอบกอดกัน ตอนนี้พวกเราอุ่นสบายด้วยกันทั้ง 4 คน”
“คุณตาครับ วันนี้ทาอะไรดีครับ” เรื่องราวของคุณตาของผมและสูตรทาขนมปังแสนอร่อย
….. สูตรแรกคุณตาจะตัดแบ่งครึ่งและปิ้งขนมปังเล็กน้อย แล้วเอามาชเมลโล่ไปวางแล้วปิ้งต่อ ถ้าเผลอแป๊บเดียวมันจะไหม้ คุณตาจึงเฝ้าดูจนปิ้งได้ที่
….. สูตรนี้คุณตาจะใส่ลูกเกดที่ต้มและคั่วและแช่ในเหล้ารัม เอามาผสมกับเนยปิ้งขนมปังแล้วทาเนยและโรยน้ำตาล
….. สูตรนี้คุณตาชอบมาก ถ้าทาเนยเยอะคุณยายจะโมโห เอาขนมปังไปปิ้งแล้วทาถั่วแดงบดและผงถั่วเหลืองโรยหน้า
นิทานภาพแสนอบอุ่นที่มาพร้อมกับความอร่อย นำเสนอช่วงเวลาอันมีค่าภายในบ้านผ่านกิจกรรมเล็กๆ ของคุณตาและ“เจ้าหนูสุเกะ”หลานชาย ที่จะสร้างรากฐานอันเหนียวแน่น มั่นคงให้กับสถาบันครอบครอบครัว
นิทานเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ ภาพสื่ออารมณ์ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นภาพที่ให้ความรู้สึก “อร่อยและอบอุ่น” ไปพร้อมๆกัน ตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้าย
นิทานทำให้เราเชื่อมั่นว่าพลังของครอบครัวยังคงส่งต่อยังรุ่นต่อไป
“สี่โมงครึ่ง” โดย Yoon Seok –Joong ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวรรณกรรมเด็กของเกาหลี นิทานเรื่องนี้ได้รับการแปลไปหลายภาษาทั้งฝรั่งเศส ญี่ปุ่นและจีน นิทานเรื่องเด่นที่ได้รับรางวัล Sankei Children’s Publishing Culture Award ปี 2008 ซึ่งเป็นรางวัลวรรณกรรมสำหรับเด็กที่สำคัญที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และได้รับการแนะนำโดย Wang Xiaoming ผู้ได้รับรางวัล Hans Christian Anderson Award
นิทานนำเสนอภาพแห่งความงามและความสุข เล่าเรื่องผ่านภาพที่มีลักษณะแบบเกาหลีดั้งเดิมที่แสดงรายละเอียดภาพที่ให้ความรู้สึกสงบ เรียบง่าย และความไร้เดียงสาของเด็ก
เด็กหญิงตัวน้อยเดินจากบ้านเข้าร้านค้า.....
“คุณปู่ คุณปู่ คุณแม่ให้มาถามว่าตอนนี้กี่โมงแล้วคะ?.....
“สี่โมงครึ่ง! สี่โมงครึี่ง!
ในระหว่างทางกลับบ้านเด็กหญิงตัวน้อยเจอเรื่องน่าสนุกมากมาย ไหนจะต้องหยุดดูคุณแม่ไก่ที่กำลังกินน้ำ, เจ้าพวกมดทั้งหลายที่กำลังย้ายบ้าน ไหนจะต้องวิ่งเล่นไล่จับกับเจ้าแมลงปอและต้องเก็บดอกบานชื่นที่ออกดอกแดง สะพรั่ง สนุกที่สุดเลย
ตอนนี้พระอาทิตย์ตกดินแล้ว กลับถึงบ้าน เวลายังเป็นสี่โมงครึ่งอยู่หรือเปล่านะ?
อาเป่าชอบไปจ่ายตลาดกับแม่ ทุกครั้งเขาจะชอบพูดว่า “มะม้า! ซื้อถั่วเขียว”
“มะม้า ถึงบ้านแล้ว ต้มถั่วเขียวกัน”
“ต้องล้างถั่วเขียวก่อน แช่น้ำให้พองขึ้น พอต้มแล้วรอใส่น้ำตาล สักพักก็กินได้แล้วครับ”
“นอกจากเมนูต้มน้ำตาลแล้ว ถั่วเขียวยังทำเป็นไอศกรีมได้อร่อยมากเชียวนะ”
“มีเมล็ดเหลืออยู่ 1 เมล็ด ทำอะไรกันดีนะ? แม่ครับปลูกถั่วเขียวกัน”
“มะม้า! ซื้อถั่วเขียว” นิทานภาพสุดแสนอบอุ่นในหัวใจ ชนะเลิศรางวัลวรรณกรรมเด็กปฐมวัยแห่งซินยี่ (Xinyi) ประเทศไต้หวัน นำเสนอวิถีชีวิตและความผูกพันของสองแม่ลูกที่สุขสงบ เรียบง่ายผ่านภาพที่ละเอียดอ่อนและงดงาม นิทานใช้คำน้อย นำเสนอด้วยภาพประกอบฉากร้านค้าและบ้านที่งดงาม แทรกวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม มีเสน่ห์ ภาพประกอบละเอียดอ่อนและโดดเด่น ทำหน้าที่ในการสื่อสารความหมายได้ชัดเจนจนแทบไม่ต้องใช้คำพูดอธิบาย
นิทานภาพแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ธรรมชาติแห่งการเรียนรู้เกิดขึ้นได้ทุกที่ โดยเฉพาะที่บ้านแหล่งเรียนรู้สำคัญและมีอิทธิพลต่อเด็ก เพราะเป็นการเรียนรู้ที่มาพร้อมกับความสุข ความพึงพอใจและความไว้วางใจ จึงเป็นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ เหนียวแน่นและยาวนาน
นำเสนอเรื่องราวการรอคอยการเกิดของชีวิตน้อยๆ ผ่านบทกวีเรียบง่ายและภาพที่งดงาม
“ในท้องของคุณแม่มีอะไรอยู่ข้างในกันนะ?”
ฤดูกาลที่ค่อยๆ ผ่านไป มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้น.....ในระหว่างที่รอเธออยู่ ฤดูกาลค่อยๆ ผันเปลี่ยนไป ชีวิตใหม่ก่อกำเนิดขึ้น
…… พอถึงฤดูใบไม้ผลิ เจ้าหนอนน้อยตัวเขียวๆ ...กลายเป็นผีเสื้อบินออกไป
….. สายลมอุ่นที่พัดผ่าน เจ้าเป็ดตัวน้อยกลายเป็นหงส์ผู้งามสง่า
….. พอฝนหยุดตก หิมะจะเริ่มโปรยลงมา โลกทั้งใบกลายเป็นสีขาว
..... Finally you were born Season have carried many gifts,
….. Let’s see them together always from now on…….
เรื่องราวของคุณหมีผู้มีวิธีการบอกรักกับเพื่อนร่วมโลกผ่านการกอด
“คุณหมีตัวใหญ่ผู้เต็มไปด้วยความรัก เวลาที่คุณหมีเดินเข้าไปในป่า ก็จะกอดทุกสิ่งที่เจอด้วยความรักเสมอ สัตว์ที่ตัวโตๆ สัตว์ที่ตัวเล็กๆ สัตว์ที่ดุร้าย หรือสัตว์ที่ตัวเหม็นๆ คุณหมีกอดได้หมดเลย มีสิ่งที่คุณหมีชอบกอดมากก็คือต้นไม้ ต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้เล็กและบางครั้งคุณหมีก็กอดหลายสิ่งพร้อมๆ กันด้วย
แต่ถ้าคุณหมีเจอคนที่ไม่น่ากอด อย่างคุณลุงที่แบกขวานเพื่อเข้ามาตัดต้นไม้ในป่า คุณหมีจะมีวิธีแสดงออกกับคุณลุงอย่างไรกัน?”
นิทานภาพที่ให้ความหมายอันลึกซึ้ง เต็มไปด้วยพลัง และสร้างแรงบันดาลใจ เรื่องนี้ได้รับการแปลไปหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วย เชื่อว่านิทานเล่มนี้จะเป็นเล่มโปรดของเด็กๆ อีกหลายคน เพราะนอกจากจะให้ความรู้สึกที่อบอุ่นใจแล้ว นิทานยังแฝงไปด้วยอารมณ์ขัน เด็กๆ ฟังแล้วก็คงนึกอยากจะเริ่มกอดใครสักคนเป็นแน่
หนังสือภาพจากบ้านเกิดของ Rembrandt และ Van Gogh ที่ขายดีและได้รับการแปลไปมากกว่า 10 ภาษาทั่วโลก หนังสือภาพที่มูลนิธิวรรณกรรมดัตซ์ (Naderlands letterenfonds dutch foundation for Literature) และมูลนิธิศิลปะ Mondrain แนะนำให้เป็นหนังสือที่เด็กควรอ่านอย่างยิ่ง
“คุณแกะอยากให้ของขวัญกับเจ้ายีราฟเพื่อนรัก เขาเกิดไอเดียดีๆ ขึ้นมาบางอย่าง”
ของขวัญนั้นคืออะไร มาจากไหน เจ้ายีราฟจะประทับใจกับของขวัญที่มาจากใจชิ้นนั้นไหมนะ?
สุดยอดหนังสือภาพที่ให้พลัง และสื่อความหมายได้ลึกซึ้ง สร้างแรงบันดาลใจและประทับอยู่ในใจของผู้อ่านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไม่รู้ลืม ดำเนินเรื่องโดยใช้ภาพสื่อความหมายได้อย่างดีเยี่ยม เป็นภาพที่มีเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกและนำเสนอได้อย่างน่าสนใจ
เด็กๆ ที่ได้อ่านหนังสือภาพเล่มนี้ บอกกับคุณพ่อคุณแม่สักนิดว่า ระหว่างคุณแกะ “ผู้ให้” และคุณยีราฟ “ผู้รับ” ใครจะมีความสุขมากกว่ากันนะ?
นิทานภาพสุดแสนน่ารักและน่าประทับใจที่สามารถสื่อความหมายได้อย่างลึกซึ้ง ภาพประกอบสีน้ำมันถ่ายทอดอารมณ์ของเรื่องได้อย่างดีเยี่ยม อ่านแล้วมีความสุขและให้ความรู้สึกสงบ
เป็นเรื่องราวระหว่างคุณยีราฟกับคุณมด ทั้งคู่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง “คุณยีราฟตัวสูงยาวที่ทั้งชีวิตมองเห็นโลกแต่ในมุมกว้างจากท้องฟ้า ขณะที่คุณมดตัวเล็กจิ๋วมองเห็นโลกมุมเล็กๆ จากพื้นดิน เมื่อได้เป็นเพื่อนและช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ทั้งสองมีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในมุมมองที่แตกต่าง”
“คุณมดมองเห็นโลกของคุณยีราฟ ส่วนคุณยีราฟมองเห็นโลกของคุณมด”
ทั้งคู่ได้รับประสบการณ์ใหม่จากมุมมองของอีกฝ่าย การมองเห็นโลกในมุมที่แตกต่าง เป็นการเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างไกล ทำให้เราเข้าใจผู้อื่น เข้าใจชีวิตได้อย่างลึกซึ้งและรอบด้านมากยิ่งขึ้น เป็นนิทานที่ชวนให้เด็กๆ หรือผู้ใหญ่ได้ลองเปิดใจ เปิดรับกับโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
“ประสบการณ์ใหม่ๆ มักมีสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจเสมอ ลองเปิดใจดูสิ!”
นิทานอ่านแล้วฝันดี เหมือนคุณมดที่ฝันเห็นทะเลสีฟ้าเหมือนกับท้องฟ้าและคุณยีราฟที่ฝันเห็นดอกไม้สีแดงราวกับหยดน้ำแห่งพระอาทิตย์ยามอัสดง
นิทานภาพถ่ายที่ใช้บริบทของธรรมชาติเล่าเรื่องได้อย่างหลากหลายและน่าสนใจ ชวนให้สมองติดตาม “ยอดอ่อนของต้นไม้ที่เกิดในป่า อยู่คนเดียวหรือเปล่านะ?
….. ไม่ได้อยู่คนเดียวนะ อยู่ด้วยกันหลายคน
….. ดอกไม้ 2 ดอกอยู่ด้วยกัน ใบไม้ 3 ใบอยู่ด้วยกัน ลูกแมงมุมหลายพันตัวก็อยู่ด้วยกัน
…. .ในที่แคบๆ เราก็อยู่ด้วยกันแบบเบียดๆ ในที่กว้างๆ เราก็กระจายกันอยู่เต็มไปหมด
….. สิ่งทีไม่เหมือนกัน อยู่กับสิ่งที่ไม่เหมือนกัน สิ่งที่เล็กอยู่กับสิ่งที่ใหญ่ สิ่งมีชีวิตอยู่กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต
“แล้วเธอล่ะอยู่กับใคร?”
นิทานใช้ภาพประกอบจากธรรมชาติสื่อความหมายได้ลึกซึ้ง เป็นบริบทของธรรมชาติอันหลากหลายในป่าอยู่ร่วมกัน พึ่งพาอาศัยกัน เป็นภาพที่ถ่ายทอดและให้ความหมายได้อย่างดีเยี่ยม ชัดเจน ดูแล้วรู้สึกสงบ และให้พลัง
“เรา…ไม่ได้อยู่คนเดียว……ก็เหมือนกับ
….. คุณต้นไม้อยู่กับพระอาทิตย์
.…. ดอกไม้อยู่กับแมลง พืชอยู่กับน้ำ เมล็ดพืชอยู่กับลม
.…. สิ่งที่ใกล้อยู่กับสิ่งที่ไกล สิ่งที่มองเห็นอยู่กับสิ่งที่มองไม่เห็น
“อยู่ด้วยกันนะ”
นิทานมีความโดดเด่นในการเล่นคำ ใช้คำถามเปรียบเปรย จูงใจและสามารถถ่ายทอดได้อย่างงดงาม ชัดเจนและเข้าใจง่าย เด็กๆ ฟังแล้วอบอุ่นใจเหมือนได้รับพลังจากธรรมชาติ
พื้นอารมณ์ที่เบิกบานแจ่มใส เป็นต้นทุนที่สำคัญของการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังค้นหาหรือเลือกเครื่องมือใดๆ ลองใช้นิทานในการหล่อเลี้ยงและกล่อมเกลาอารมณ์ของลูก
อ่านซ้ำ อ่านซ้ำ และอ่านซ้ำ เด็กๆ จะเป็นเหมือนนิทานที่เราอ่านให้เขาฟัง
อุษา ศรีนวล
ฝ่ายกิจกรรมการเรียนรู้
สถาบันอุทยานการเรียนรู้