เมื่อวันพุธที่ 14 กันยายน 2554 ที่ผ่านมา ได้มีพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือใน “โครงการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตในสังกัด กศน.” ระหว่างสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) สังกัดสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการขึ้น ณ ห้องมินิเธียเตอร์ อุทยานการเรียนรู้ TK park ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2550-2554 ที่ยึดคนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาและสร้างสรรค์สังคมคุณภาพ โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตในชุมชนในรูปของห้องสมุดประชาชน ให้มีแนวทางในการบริการและส่งเสริมการอ่าน การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์
ดร.ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) และผู้อำนวยการสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (สอร.) เปิดเผยว่า “งานบรรณารักษ์นั้น ถือเป็นงานสำคัญยิ่งเพราะต้องอยู่กับผู้ใช้บริการทุกช่วงวัยตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยชราหรือผู้สูงอายุ เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำแก่ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงองค์ความรู้ได้ในรูปแบบต่างๆ ดังนั้น ในฐานะที่ สอร. เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการส่งเสริมการอ่าน การเรียนรู้ให้สังคมไทยเป็นสังคมฐานความรู้ ภายใต้ภารกิจสำคัญในการสร้างสรรค์แหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยในรูปแบบ “ห้องสมุดมีชีวิต” หรือที่รู้จักกันในนามอุทยานการเรียนรู้ TK park จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในการส่งเสริมการอ่าน การเรียนรู้ และพัฒนาห้องสมุดประชาชนที่อยู่ในความดูแลของ กศน. มานานกว่า 6 ปี
แต่เนื่องจากข้อตกลงความร่วมมือฯ เดิมได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินงานและการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ภายใต้ความร่วมมือใน “โครงการพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตในสังกัด กศน.” ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง การลงนามฯ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 มีระยะเวลา 3 ปี โดยความร่วมมือ จะเน้นการพัฒนาบุคลากรและการวางหลักสูตรร่วมกัน โดยเฉพาะการจัดฝึกอบรมบรรณารักษ์ ทั้งด้านการบริหารจัดการห้องสมุดมีชีวิต การจัดกิจกรรม การพัฒนาเครือข่าย รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลและเผยแพร่สื่อสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้ที่เป็นลิขสิทธิ์ของแต่ละหน่วยงาน โดยเฉพาะสื่อการเรียนรู้ของTK park อาทิ เกมสร้างสรรค์ต่างๆ, ขุมทรัพย์ของแผ่นดิน หรือ e-book ออกไปยังห้องสมุดประชาชนในสังกัด กศน. ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ”
ด้าน นายประเสริฐ บุญเรือง เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กล่าวยอมรับว่า ความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานที่ผ่านมาถือว่ามีความเข้มแข็งมาก ในการช่วยกันขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโดยเฉพาะกิจกรรมในห้องสมุดประชาชน ซึ่งปัจจุบัน กศน. มีห้องสมุดประชาชนในสังกัดทั่วประเทศถึง 853 แห่ง แบ่งเป็นห้องสมุดประชาชนอำเภอ 698 แห่ง และห้องสมุดประชาชนจังหวัด 72 แห่ง นอกจากนี้ยังมีห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี 82 แห่ง และ กศน. ตำบลหรือศูนย์การเรียนรู้ตำบล จำนวน 7,409 แห่ง
“สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ นอกเหนือจากหลักสูตรการพัฒนาทักษะด้านการจัดการห้องสมุดมีชีวิตให้กับบรรณารักษ์และบุคลากรของ กศน. ในระดับอำเภอและระดับจังหวัดแล้ว ยังต้องการให้ TK park เพิ่มหลักสูตรการอบรมด้านอาชีพแก่ประชาชน หรือผู้มาใช้บริการในระดับตำบลอีกด้วย โดยดำเนินการคู่ขนานกันไปกับการอบรมบุคลากรอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากในปีนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณในการสนับสนุนศูนย์การเรียนรู้ตำบลหรือศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน เป็นจำนวนถึง 3,000 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการศึกษาค้นคว้า และส่งเสริมการเรียนรู้ของคนไทยทุกคนที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะคนชายขอบและคนชาติพันธุ์ตามนโยบายของรัฐบาล
ศูนย์การเรียนรู้ตำบลดังกล่าว ปัจจุบัน กศน. ได้ให้การส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการมีอาชีพของประชาชนอยู่แล้วในทุกตำบล แต่การจัดหลักสูตรด้านอาชีพเพิ่ม ประชาชนในพื้นที่ก็จะได้นำความรู้ไปค้นคว้าหาข้อมูล และต่อยอดพัฒนาอาชีพหรือประกอบอาชีพเพื่อสร้างรายได้เพิ่มนอกเหนือจากการส่งเสริมการอ่านแล้ว ดังนั้น จึงต้องการเห็นความร่วมมือกันในการขับเคลื่อนการส่งเสริมการอ่านและการพัฒนาองค์ความรู้ลงลึกถึงระดับหมู่บ้านและระดับตำบล เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนต่อไป รวมทั้งยังจะเป็นการช่วยลดจำนวนผู้ที่ไม่รู้หนังสือลงได้อีกด้วย” นายประเสริฐ กล่าวในตอนท้าย