ย้อนความกลับไปไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ หากพูดชื่อสถานที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจควบคู่ไปกับการสร้างเสริมความรู้ให้กับเยาวชนไทยในวันหยุด ชื่อที่เรานึกออกคงมีแต่ ท้องฟ้าจำลอง หรือพิพิธภัณฑ์เด็ก ณ ขณะนั้น ชื่อของอุทยานการเรียนรู้ TK park ยังไม่เป็นที่รู้จัก และคงไม่มีใครคาดเดาว่าสถานที่แบบนี้จะมาอยู่ในห้างสรรพสินค้าได้ เวลาผ่านไปไม่ทันไร บัดนี้ใครๆ ก็รู้จัก TK park เด็กๆ บางคนเรียกที่นี่ว่าสนามเด็กเล่น บ้างก็เรียกเรียกว่าห้องฟังนิทาน วัยรุ่นบางคนเรียกที่นี่ว่าลานกิจกรรม บ้างก็เรียกโรงภาพยนตร์ ผู้ใหญ่บางคนก็เรียกที่นี่ว่าห้องสมุด บ้างก็เรียกห้องดนตรี 6 ปีที่ผ่านมา TK park เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นศูนย์รวมยามว่างของคนทุกเพศทุกวัย ไม่มีจำกัดอายุ โดยมุ่งเน้นการทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นขุมทรัพย์ทางปัญญาและอารมณ์ที่ดี เพื่อขับเคลื่อนสังคมไปสู่ยุคสมัยที่ดีกว่าเดิม หลังจากงานวันเกิดครบรอบ 6 ปี TK park วันที่ 21 มกราคม 2554 ที่มีกิจกรรมดีๆ ที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ทำร่วมกันแล้ว ในงานวันเกิดที่จัดต่อเนื่องในวันนี้ (วันที่ 23 มกราคม 2554) ทาง TK park ก็ยังคงจัดกิจกรรมที่น่าสนใจให้ทุกคนเข้าร่วมอย่างไม่ขาดตอน
กิจกรรมโอริกามิ โดยพี่ปอม เอกสิทธิ์
เริ่มกิจกรรมช่วงเช้ากันด้วย กิจกรรมเวิร์กช็อปหัดพับโอริกามิ ที่ลานสานฝัน โดยการนำของพี่ปอม - เอกสิทธิ์ เข้มงวด หนุ่มอัจฉริยะนักพับกระดาษ มองไปทางไหนก็เจอน้องๆ ตัวเล็กๆ คอยพับกระดาษตามอย่างตั้งใจอยู่ข้างๆ ผู้ปกครองที่มานั่งเป็นกำลังใจและช่วยเหลือในการพับกระดาษ หากใครยังไม่รู้จักโอริกามิ ก็ต้องขออธิบายก่อนว่าโอริกามิคือศาสตร์การพับกระดาษเป็นรูปต่างๆ ของคนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ รูปร่างรูปทรงต่างๆ ก็พับได้ตามจินตนาการ ซึ่งประโยชน์ของการพับโอริกามิคือ ทำให้เด็กๆ ได้ฝึกสมองทั้งการคิดคำนวณและจินตนาการในเวลาพับไปพร้อมกัน กิจกรรมในครั้งนี้พี่ปอมสอนน้องๆ พับคุณกระต่ายตัวน้อย คุณเพนกวินตัวใหญ่ แล้วก็ยังมีสัตว์อื่นๆ อีกด้วย ทำเอาน้องๆ ที่มานั่งหัดพับโอริกามิเพลินกันไปเลย
น้องๆ ลงมือประดิษฐ์ตุง
แวะเข้าไปดูที่ห้องเด็กก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับ ‘ตุง’ หรือชื่อเต็มว่า ‘ตุงพญายอ’ ซึ่งเป็นธงของชาวเหนือ ที่พี่ๆ จากศูนย์การเรียนรู้ปัทมะเสวี จังหวัดลำปาง นำมาแจกน้องๆ หนูๆ ชาว TK park โดยตุงนี้จะมีลักษณะเป็นพวงประดิษฐ์ มีรูปร่างคล้ายจอมแหหรือปรางค์ ทำจากกระดาษสี หรือกระดาษว่าวสีต่างๆ นำมาวางซ้อนกัน แล้วพับทแยงมุมหลายๆ ทบ เมื่อใช้กรรไกรตัดสลับเป็นลายฟันปลาจนถึงส่วนปลายสุดแล้ว เมื่อคลี่ออกก็จะกลายเป็นพวงตุงพญายอที่สวยงาม แต่ก่อนอื่นจะต้องนำตุงไปติดกับไม้ หรือคันตุงเสียก่อน จึงจะนำไปประดับตามที่ต่างๆ หรือนำไปเสียบที่เจดีย์ทราย หรือหน้าพระพุทธรูปเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในวันที่ 14 มกราคม หรือวันปีใหม่ไทย สำหรับชื่อตุงพญายอนั้น เป็นชื่อที่ชาวลำปางเรียก ส่วนคนเชียงใหม่จะเรียกตุงไส้จ้าง ชาวสันกำแพงเรียกตุงไส้หมู ส่วนชาวภาคกลางจะเรียก พวงลูกมะโหตร
แต่ก่อนจะได้ตุงไปประดับบ้านหรือถวายพระ เด็กๆ ต้องฝึกทำป๊อปอัพ และสมุดบันทึกเล่มเล็กกันเสียก่อนจึงจะได้รับตุงไปเป็นของขวัญ เรียกว่านอกจากจะได้รับความรู้และความสนุกระหว่างทำกิจกรรม ก็ยังได้รับของกลับบ้านไปเป็นที่ระลึกอีกด้วย แหม... ม่วนอ๊กม่วนไจ๋จริงๆ
กลับมาที่ลานสานฝันอีกครั้ง มานั่งดูการแสดงละครเวทีฝีมือเยาวชนในโครงการละครเพื่อการเปลี่ยนแปลง จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสื่อชาวบ้าน (มะขามป้อม) ในเรื่อง “กำไลที่หายไป” และเรื่อง “เงาะ” ให้หัวร่องอหายกับมุกตลกที่เล่นกันตลอดเรื่อง รวมไปถึงข้อคิดดีๆ ที่สอดแทรกอยู่ ก็ได้เห็นถึงความสามารถของเยาวชนไทยของเรา ที่ไม่เพียงแต่แสดงละครเฉยๆ แต่ยังผสมผสานเอาการขับเสภา การเล่นกีตาร์ และการให้ผู้ชมมีส่วนร่วมไปกับละครของตัวเองด้วย ซึ่งโครงการละครเพื่อการเปลี่ยนแปลงนี้ก็จัดมาเป็นปีที่ 3 แล้ว หวังว่าปีต่อไป เราจะได้เห็นความสามารถของนักแสดงเหล่านี้อีกครั้งนะ
พักฟังเพลงเพราะๆ กับ TK band วงดนตรีที่มาจากเยาวชนจากโครงการ TK Young Entrepreneur ที่ได้ร่วมอบรมในโครงการปฏิบัติการสร้างสรรค์กลุ่มคนดนตรีหนุ่มสาวผู้มีเสียงเพลงในหัวใจกันจบแล้ว ก็มาถึงกิจกรรม Read Camp ครั้งที่ 4
รักการอ่านไปกับ Read Camp
หากใครที่ยังไม่เคยร่วมกิจกรรม Read Camp มาก่อน ก็คงต้องขออธิบายกันสักนิดว่า Read Camp ก็คือสนามคิดบนความเชื่อว่า ทุกอย่างล้วนอ่านได้ สิ่งของรอบกาย ความคิดรอบตัว เกิดขึ้นและดำรงอยู่อย่างไม่ไร้เดียงสา และเราอ่านมันได้ โดยก่อนเริ่มแคมป์ทุกคนที่เข้าร่วมจะได้สิทธิ์ในการเสนอหัวข้อที่ตนเองอยากนำมาพูดคุยภายในแคมป์ จากนั้นทุกคนก็จะโหวตหัวข้อที่ชอบมากที่สุด แล้วจึงจัดเวลาและแบ่งห้องไปตามหัวข้อที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด อย่างในวันนี้ที่หัวข้อเด่นที่ถูกโหวตคือ อยากอ่านใจเธอ, ตอนนี้อ่านอะไรกันอยู่, อ่านฟอร์เวิร์ดเมล, พระเอกหนังสั้นกำลังภายใน จะช้าอยู่ใย แอบไปนั่งฟังกันสักหน่อยดีกว่าว่าห้อง อยากอ่านใจเธอ เขาคุยอะไรกันบ้าง
กิจกรรมเริ่มต้นด้วยการแนะนำตัวของผู้เข้าร่วมกิจกรรมภายในห้องกันก่อน โดยมีเจ้าของหัวข้อเป็นผู้เริ่ม จากนั้นเจ้าของหัวข้อจึงอธิบายจุดมุ่งหมายว่า ทำไมคนเราจึงต้องอยากอ่านใจคนอื่นกันด้วยนะ เช่น เพื่อให้คนเราไม่ทะเลาะกัน, เพื่อจับโกหก, เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดา จากนั้นไอเดียในการอ่านใจอันหลากหลายก็จะไหลท่วมท้นออกมาจากผู้เข้าร่วมท่านอื่นๆ ทั้ง ถามกันตรงๆ ไปเลย, มองตากัน, ดูข้อมูลจากในเฟซบุ๊ก, หลอกถาม, ถามจากหมอดู หรือแม้แต่การเล่นผีถ้วยแก้วก็ยังมีคนเสนอขึ้นมา จากนั้นทุกคนก็จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนทรรศนะกันอย่างสนุกสนานครื้นเครงกันไป โดยไม่ลืมว่าทุกอย่างที่คุยกันใน Read Camp นั้นจะตั้งอยู่บนหลักเหตุผล (แม้เรื่องของหมอดูกับผีถ้วยแก้วจะอยู่เหนือเหตุผลไปสักหน่อยก็ตาม)
และแล้วกิจกรรมในงานวันเกิดครบรอบ 6 ปีของ TK park ก็ได้ผ่านพ้นไป เหลือไว้เพียงความสนุกสนานจากกิจกรรมที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้เข้าร่วมกันมาตลอดทั้งวัน รวมถึงได้นำคุณกระต่ายโอริกามิ และตุงพญายอกลับไปอวดคนที่บ้าน วันหยุดครั้งหน้ากลับมา TK park ใหม่ มาติดตามต่อไปว่า ในปีที่ 7 นี้ TK park จะจัดกิจกรรมอะไรให้ได้ทำกันบ้าง แต่รับรองเลยว่าต้องเป็นกิจกรรมที่นับวันมีแต่จะสนุกและได้ความรู้มากกว่าเดิมแน่นอน แล้วพบกันใหม่กับก้าวเดินที่เปลี่ยนผ่านไปสู่ก้าวที่ 7 และก้าวต่อๆ ไปของสำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK park
อภิลักษณ์ ธัญประทีป