ถ้าวันนี้คุณเดินไปที่ร้านหนังสือในห้างสรรพสินค้า เชื่อหรือไม่ว่าหนึ่งในชั้นวางตำแหน่งดีที่สุดตอนนี้ได้ถูกครอบครองไปแล้วกว่าครึ่งโดยบรรดาหนังสือนิยายวาย ยังไม่นับรวมหนังสืออีบุ๊กและนิยายรายตอนที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ไหนจะตลาดซีรีส์แนววายที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดทั้งฝั่ง ไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น จนอาจเรียกได้ว่าปีนี้เป็นปีทองของสื่อแนววายอย่างแท้จริง
ด้วยความนิยมระดับนี้ทำให้แม้แต่คนที่ไม่เคยเสพสื่อแนวนี้มาก่อน อย่างน้อยก็คงต้องเคยได้ยินงานแนวดังกล่าวผ่านหูมาบ้าง เพื่อให้หลายคนที่อาจยังไม่รู้จักนิยายแนววาย หรือนิยายที่ว่าด้วยความรักของคนเพศเดียวกัน ไปจนถึงคนที่รู้จักแต่อาจยังเข้าใจไม่มากพอ ได้ทำความรู้จักกับนิยายแนวนี้มากขึ้น เราจึงอยากขอพาทุกคนไปทำความรู้จักว่าจริงๆ แล้วแฟนนิยายวายนั้นเป็นคนแบบไหนกันนะ นิยายแนวนี้ถึงได้รับความนิยมจนกลายมาเป็นหนึ่งในนิยายสายหลักในปัจจุบัน
1. คนธรรมดาที่รักการอ่าน
หนึ่งในความเข้าใจผิดที่หลายคนมีต่อนิยายวายนั้นคือการคิดว่านิยายแนวนี้ทุกเรื่อง ล้วนดำเนินเรื่องด้วยความรักของตัวละครหลักเพศเดียวกันในเชิงโรแมนติกหรืออีโรติกเสมอๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วนิยายวายเองก็มีหลากหลายประเภท ทั้งเรื่องรักโรแมนติก แอคชั่น สยองขวัญ ดราม่า แฟนตาซี ฯลฯ ไม่ได้ต่างไปจากนิยายชายหญิงทั่วไป หรืออาจจะกล่าวได้ว่านิยายวายก็จัดเป็นนิยายธรรมดาประเภทหนึ่งที่ตัวดำเนินเรื่องหลักมีเพศเดียวกัน
คนที่อ่านนิยายวายจึงนับเป็นคนธรรมดาทั่วไป ครอบคลุมหลากเพศ หลายวัย โดยมีจุดร่วมคือความรักในการอ่าน และมีรสนิยมในการเลือกประเภทแนวการอ่านที่ตรงต่อความชื่นชอบของตัวเอง เหมือนคนที่ชอบอ่านการ์ตูน หรือหนังสือสืบสวนสอบสวนนั่นเอง
2. มีใจเปิดกว้าง และหัวก้าวหน้า
ในยุคที่หลายประเทศทั่วโลกเริ่มเปิดกว้างให้กับความรักของคนเพศเดียวกัน ไปจนถึงเปิดโอกาสให้มีการแต่งงานระหว่างคนเพศเดียวกันอย่างถูกกฎหมาย (แน่นอนว่าประเทศไทยยังไม่ใช่หนึ่งในนั้น) เนื่องจากมองว่าเพศไม่ควรเป็นตัวกำหนดความรัก คนที่อ่านนิยายวายจึงนับเป็นคนหัวก้าวหน้าที่มีใจเปิดกว้างในเรื่องเพศมาแต่ยุคก่อนกาล เพราะไม่ได้มองว่าความรักของชาย-ชาย หญิง-หญิง หรือ LGBTQ (กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ) เป็นเรื่องผิดปกติใดๆ บรรดาแฟนนิยายวายจึงสามารถเสพนิยายแนวนี้ด้วยความสุขและความสนุกอย่างเป็นธรรมชาติ
โดยเฉพาะในช่วงที่มีการออกมาเรียกร้องเรื่อง ‘สมรสเท่าเทียม’ จะเห็นได้ว่าหนึ่งในแกนนำหลักที่ออกมาช่วยรณรงค์ผ่านทางสื่อโซเชียลมีเดีย ก็คือกลุ่มนักอ่านและนักเขียนของนิยายแนววายนี่เอง
3. ชอบท้าทายข้อจำกัด
ในสังคมแห่งความเป็นจริงแม้ว่าโลกจะเปิดรับความรักระหว่างคนเพศเดียวกันได้มากขึ้น แต่ในหลายๆ พื้นที่ความสัมพันธ์ดังกล่าวนี้ก็ยังคงมีข้อจำกัดให้เห็นอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว เชื้อชาติ ศาสนา ไปจนถึงค่านิยมในสังคมต่างๆ ในนิยายวายหลายเรื่องคนเขียนเองก็ยังคงตระหนักดีถึงข้อจำกัดเหล่านั้น จึงมักจะใช้จินตนาการมาเป็นตัวทำลายอุปสรรคทำให้เรื่องราวมีความสนุกสนานท้าทาย สร้างสรรค์เนื้อเรื่องที่พาตัวละครและคนอ่านไปยังบทสรุปแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
เราจึงอาจพอทำนายนิสัยคนที่ชอบอ่านนิยายวายส่วนหนึ่งได้ ว่าน่าจะเป็นคนที่ไม่เชื่อในขีดจำกัด และมองว่าอุปสรรคนั้นมีไว้เพื่อทะลวงข้าม รวมถึงไม่ยอมแพ้ต่อกฎเกณฑ์ที่มองว่าไม่เป็นธรรม ไม่สมเหตุสมผล มากกว่าจะยอมไหลตามน้ำในสิ่งที่สังคมเชื่อแต่ตัวเองไม่ได้เชื่อ
4. เชื่อในความเท่าเทียมทางเพศ
‘ผู้ชายต้องเป็นผู้นำ’ ‘ผู้หญิงต้องรักนวลสงวนตัว’ แม้ในหลายๆ สังคมค่านิยมที่ผูกติดมากับเพศโดยกำเนิดจะยังคงมีอยู่ แต่ที่แน่ๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนกลายเป็นเรื่องเหลวไหลในนิยายวาย เราสามารถเห็นตัวละครผู้ชายที่ขี้แย นุ่มนิ่ม ต้องการการปกป้องดูแล ได้มากพอๆ กับผู้หญิงที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ดุดัน ช่างปกป้อง แม้ในนิยายวายหลายๆ เรื่องอาจจะยังกำหนดคาแรคเตอร์โดยยึดบทบาทหน้าที่บนเตียงมาใช้ จนอาจเกิดทัศนคติการเหมารวมในเรื่องเพศ หรือ Gender Stereotype อยู่ค่อนข้างมาก
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการที่คนอ่านนิยายวายสามารถยอมรับบทบาทของเพศชายและหญิงที่ไม่ตรงตามกรอบของสังคมได้แบบไม่มีตะขิดตะขวงใจนั้น แปลว่าผู้อ่านเหล่านี้มีพื้นฐานความเชื่อในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศอยู่ค่อนข้างมาก และเชื่อว่าไม่ว่าเพศใดๆ ก็สามารถเป็นอะไรก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความเชื่อของสังคมมาเป็นตัวกำหนด
5. แสวงหาโลกในจินตนาการ
โลกแห่งความเป็นจริงความรักระหว่างเพศเดียวกันแม้จะได้รับการยอมรับมากขึ้น แต่อย่างไรก็ยังคงไม่ใช่เรื่องปกติที่ยอมรับได้ในระดับบรรทัดฐาน (Norm) ทั่วไปอยู่ดี นิยายวายหลายๆ เรื่องที่ได้รับความนิยม หากจะสำรวจลึกลงไปจะเห็นได้ว่ามีลักษณะที่พาเราไปแสวงหาโลกแห่งจินตนาการในอุดมคติ โลกที่สามารถแก้ไขในสิ่งที่พวกเขาไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นกฎเกณฑ์หรืออุปสรรค ทั้งทางสังคมและทางธรรมชาติ อาทิ นิยายวายแนวไซไฟที่ผู้ชายท้องได้เพราะมีการฝังมดลูกเทียม นิยายแนว ABO ซึ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับเพศแบบชาย-หญิง แต่เปลี่ยนเป็นสถานะความแข็งแกร่งของยีนแทน หรือกระทั่งนิยายแนวจีนที่เพิ่มตัวละครเพศ ‘เกอ’ อันหมายถึงผู้ชายที่สามารถท้องได้ ซึ่งเป็นความปกติทางสังคม
คนที่อ่านนิยายวายจึงมีแนวโน้มจะเป็นคนที่มีจินตนาการสูง ชอบแสวงหาโลกที่มีกฎเกณฑ์แตกต่างจากโลกแห่งความเป็นจริง เพื่อเติมเต็มความเชื่อและความต้องการที่ตัวเองพึงพอใจ
6. ชอบเสพความเจ็บปวด
คนอ่านนิยายวายไม่ได้มีแต่คนที่ชื่นชอบในงานแนวสุขนิยมไปเสียทั้งหมด ในบางครั้งยังมีแนวโน้มชอบเสพเรื่องราวดราม่า และความเจ็บปวดมากกว่าคนอ่านนิยายแนวชายหญิงทั่วไปอีกด้วย เนื่องจากนิยายหลายๆ เรื่องก็มีลักษณะสะท้อนความเป็นจริงที่แสดงให้เห็นถึงข้อจำกัดของความรักในเพศเดียวกัน ดังนั้นกว่าที่เนื้อเรื่องจะดำเนินไปถึงตอนจบ ตัวละครต่างก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคที่ดราม่าจนบันทึกน้ำตาหนึ่งลิตรยังชิดซ้าย รวมถึงบางครั้งเรื่องราวก็จบลงในแบบโศกนาฎกรรมที่ไม่สมหวัง
ซึ่งเรื่องนี้สามารถอธิบายได้ด้วยผลการศึกษาทางจิตวิทยา สาเหตุที่หลายคนชื่นชอบเรื่องราวแนวดราม่าหรือตอนจบที่เจ็บปวด เช่น การเลิกร้าง หรือการสูญเสีย เพราะความรู้สึกที่ได้เห็นตัวละครเผชิญหน้ากับความทุกข์ทำให้เรารู้สึกยินดีกับชีวิตมากขึ้นที่ไม่ต้องพบจุดจบเช่นเดียวกับตัวละคร
7. มีกำลังซื้อสูง
เหมือนกับคนที่ชอบสะสมโมเดล เครื่องสำอาง หรือการ์ตูนเรื่องโปรด ยามที่เรารักชอบอะไรก็มักจะใช้จ่ายไปกับสิ่งนั้นเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นความสุขทางใจ สิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือเมื่อเทียบกันในหมู่นักอ่านหนังสือนิยายแล้ว ฐานแฟนของงานแนววายนั้นค่อนข้างเป็นคนที่อยู่ในช่วงวัยและฐานะมีกำลังซื้อสูง เห็นได้จากในช่วงปีที่ผ่านมามีสำนักพิมพ์ใหม่ๆ ที่ตีพิมพ์นิยายวายโดยเฉพาะ ทั้งงานไทย และงานแปลผุดขึ้นจนนับนิ้วมือแทบไม่ถ้วน รวมถึงนิยายเหล่านั้นยังคงติดอันดับหนังสือขายดีให้เห็นบ่อยๆ
หรือหากจะอ้างอิงจากผลวิจัยและข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคที่ LINE Thailand ทำร่วมกับบริษัทวิจัยการตลาดนีลเส็น ในการศึกษาตลาดผู้ชมของอุตสาหกรรมคอนเทนต์ซีรีส์วาย หรือ Y Economy ในไทย ก็จะยิ่งเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่ากลุ่มคนที่ชื่นชอบซีรีส์แนวดังกล่าวนั้นมีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนค่อนข้างสูง ซึ่งเมื่อเชื่อมโยงเข้ากับความจริงที่ว่าซีรีส์หลายเรื่องล้วนเป็นงานที่ดัดแปลงมาจากนิยาย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมตลาดดังกล่าวถึงสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพราะเป็นการเติบโตแบบส่งเสริมซึ่งกันและกันนั่นเอง
ข้อมูลอ้างอิง
https://screentherapyblog.wordpress.com/2018/04/18/why-we-like-sad-endings
https://thestandard.co/line-found-people-78-watching-y-series-are-high-purchasing-power-women/