การเริ่มต้นวัยอนุบาลนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในชีวิตของเด็กๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่าเมื่อเรียนจบเทอมแล้ว เด็กหลายคนอาจยังอ่านหนังสือไม่ออก คุณพ่อคุณแม่อย่างพึ่งกังวลไปเพราะเด็กแต่ละคนเรียนรู้ได้แตกต่างกันไปและความสามารถในการอ่านอย่างคล่องแคล่วไม่ว่าจะเริ่มช้าหรือเร็วก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าเด็กจะประสบความสำเร็จในการเรียน
ช่วงเวลาอนุบาลเป็นช่วงที่จะได้เรียนรู้ผ่านการเล่น การเข้าโรงเรียนเป็นเรื่องสนุกและจะสร้างรากฐานสำหรับการเรียนต่อไปในอนาคต การเรียนรู้เรื่องพื้นฐานในปีแรกๆ นอกจากเรื่องวิชาการแล้วเด็กๆ จะได้เรียนรู้ ปรับตัวให้คุ้นเคยกับกิจวัตรประจำวัน ฟังคุณครู เล่นกับเพื่อน ที่สำคัญคือมีความสุขและสนุกกับการเรียนรู้ เพราะเด็กๆ ต้องการการพัฒนาด้านสังคมและอารมณ์ พอๆ กับการเรียนรู้เรื่องพยัญชนะ คำ และการอ่านออกเสียง
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าส่วนใหญ่เด็กจะเริ่มอ่านและเรียงประโยคเข้าด้วยกันได้จริงๆ ก็ตอนอายุ 6-7 ปี โดยก่อนหน้านั้นจะเรียนรู้เรื่องเสียงของสระ พยัญชนะและการผสมตัวอักษรเหล่านั้นเพื่ออ่านออกเสียง สำหรับเด็กตั้งแต่ 9 เดือนขึ้นไปจะได้ประโยชน์มากหากผู้ปกครองอ่านหนังสือ เล่านิทานให้ฟังเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากการได้ยินเสียงคำศัพท์ศัพท์ซ้ำๆ และการเลียนเสียงตามคำที่คุณพ่อคุณแม่อ่านเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับพัฒนาการของเด็กๆ
กว่าที่เด็กๆ จะเริ่มอ่านได้จะต้องผ่านการเรียนรู้หลายขั้นตอนอย่างการเรียนรู้เรื่องตัวอักษรที่สอนผ่านเพลง จากนั้นจึงเริ่มเลียนแบบการอ่านด้วยการหยิบหนังสือภาพขึ้นมาอ่าน เปิดเปลี่ยนหน้าไปมา แล้วอ่านคำซ้ำๆ จากสิ่งที่จำได้ ในช่วง 3-4 ปี เด็กจะเริ่มเชื่อมโยงตัวอักษรที่เห็นเข้ากับเสียงที่ได้ยินแล้วอ่านออกเสียงเอง ก่อนจะเข้าอนุบาลอย่างน้อยเด็กๆ น่าจะสามารถจำชื่อ หรือจำตัวอักษรแรกของชื่อตัวเองได้ จากนั้นจะเริ่มแยกแยะคำศัพท์ทั่วไปที่เจอและเห็นบ่อย ช่วงอนุบาลเป็นช่วงที่เด็ก ๆ จะเริ่มจับคู่คำกับเสียงและจดจำภาพของคำนั้นได้ และบางทีอาจรู้ว่าอ่านออกเสียงอย่างไร
ยิ่งในช่วงนี้ที่สถานการณ์โควิดยังคงแพร่ระบาด เด็กๆ อาจจะยังไม่ได้ไปโรงเรียน เรียนอยู่ที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่อย่าพึ่งเครียดไป ถ้าลูกๆ จะยังอ่านหนังสือไม่ได้ มาสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการเรียนรู้ เพื่อให้เด็กสนุกและรักที่จะเรียนรู้ แทนที่จะมุ่งเน้นแต่ผลลัพธ์ในการอ่านออก เขียนได้
ข้อมูล : https://www.moms.com/kindergartner-not-reading-dont-worry/